สมปอง จันทรี ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ S.CHANTREE buriram united international circuit สนามแข่งรถบุรีรัมย์ จากปราสาทสายฟ้า สู่ เวิลด์คลาสเซอร์กิต'จากปราสาทสายฟ้า สู่ เวิลด์คลาสเซอร์กิต'เนวิน ชิดชอบ เซาะกราวสไตล์' "คุณเนวินกำลังจะสร้างบ้านแปลงเมืองอีกแล้วหรือ” ใช่แล้ว เขากำลังจะสร้างบ้านแปลงเมือง บุรีรัมย์ให้กลายเป็นเมืองใหม่ "เนวิน ชิดชอบ" นักการเมืองตัวพ่อที่หันหลังให้การเมืองด้วยประโยคเด็ด "มันจบลงแล้วครับนาย” กำลังทำฝันของเขาให้เป็นจริงด้วยการสร้างบุรีรัมย์ให้เป็นหนึ่งในท็อป 5 จังหวัดของประเทศไทยที่มีผู้คนอยากไปเยือนมากที่สุดในประเทศไทย โครงการล่าสุดคือ บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (BRIC) หากใครได้มาเยือนบุรีรัมย์จะพบว่า วิถีชีวิตของผู้คนบุรีรัมย์เมืองที่ไร้ทรัพยากร แห้งแล้งได้เปลี่ยนไปมาก ที่นี่ไม่มีการแบ่งสีการเมืองแต่กลายเป็นเมืองกีฬา ผู้คนต่างสวมเสื้อผ้าหรือหาสัญลักษณ์ของ ปราสาทสายฟ้า สนามฟุตบอล ไอโมบาย สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานฟีฟ่าแห่งเดียวในเมืองไทย หลายคนสัมผัสความใหญ่โตและสวยงาม เท่ากับบรรยากาศของสโมสรฟุตบอลชั้นนำในยุโรป "ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมของบุรีรัมย์ใหม่ ลมหายใจของบุรีรัมย์” เนวิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการ บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บอกกับผู้สื่อข่าวในงานเลี้ยงรับรอง การเปิดตัว โครงการ BRIC ชีวิตผู้คนชาวอีสานใต้ที่ครั้งหนึ่ง คนส่วนใหญ่มองว่า ”บ้านนอก” แร้นแค้น ไม่มีจุดน่าสนใจ คนบุรีรัมย์กลายเป็นคนชายขอบแสนไกลของประเทศไม่มีใครอยากแวะไป แต่วันนี้ทุกพื้นที่ของบุรีรัมย์ กำลังมีภาพของคนทันสมัย คนที่มีความสุข ด้วยแผนการสร้างโลกทัศน์ใหม่ให้พื้นที่รับผิดชอบทางการเมืองของ ”เนวิน ชิดชอบ” “วันนี้ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่นี่เปลี่ยนไป มีความรักฟุตบอล เป็นดั่งลมหายใจ ในตลาดแทบทุกคนใส่ชุดทีมฟุตบอล ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์กำลังจะก้าวไปสู่จังหวัดที่ทันสมัยและวิถีชีวิตที่ต่างไปจากที่อื่นๆ เพราะพวกเขามีพื้นที่ว่างเหมาะแก่การรวมกลุ่มกันเล่นกีฬาสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่ฟุตบอลที่เขารัก โดยแผนของเนวินในการสร้างบ้านแปลงเมืองครั้งใหญ่ต่อจากปราสาทสายฟ้าคือ “BIC” หรือโครงการ ”บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ” สนามแข่งรถมาตรฐานเอฟไอเอ มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน ขนาด 700 ไร่ โครงการนี้จะแล้วเสร็จในอีก 11 เดือนข้างหน้าและจะทำให้ไทยมีสนามแข่งรถสนามเดียวที่เป็นระดับเวิลด์คลาส โดยรองรับการแข่งขันทุกรายการระดับยกเว้น ฟอร์มูลา 1 เพราะเขาเห็นว่าในโลกนี้มีสนามเอฟวันมากเกินไป เกินกว่าจำนวนการแข่งในแต่ละปี สนามแห่งนี้คาดว่าจะคืนทุนใน 5 ปี เนวินบอกว่า การที่เขาลงทุน บุรีรัมย์สไตล์ ต้องที่สุดในโลก และทำเร็ว ดังนั้นหน้าที่ออกแบบจึงเป็นของนักออกแบบสนามอันดับหนึ่งของโลก ทิลเก ซึ่งรับค่าเหนื่อย 3 ล้านดอลลาร์ในการออกแบบ เป็นที่คาดหมายกันว่าเมื่อสนามเสร็จธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอื่นๆ จะตามมาอีกมากและสร้างเงินหมุนเวียนในพื้นที่ที่เคยแห้งแล้งและโดดเดี่ยวแห่งนี้ แน่นอนว่าโครงการเนรมิตสิ่งใหม่ๆ ให้แก่บุรัมย์ของเขายังไม่จบลงเท่านี้ เนวินบอกว่า "บุรีรัมย์สไตล์ เซาะกราวสไตล์" ยังมีเรื่องตื่นเต้นให้ติดตามอีกมากมาย เปิดผังเซอร์กิตหลัก BRIC รายละเอียดของสนาม BRIC ได้รับการเปิดเผยครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ในงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BRIC ซึ่งจัดการแถลงที่สนามฟุตบอลไอโมบาย จ.บุรีรัมย์ โดย BRIC เป็นสนามออกแบบเพื่อให้ได้มาตรฐานระดับเอฟไอเอ คลาส 2 (FIA Category 2) จากสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือเอฟไอเอ (Federation International de I’Automobile : FIA) ซึ่งมาตรฐานนี้ จะทำให้สนามสามารถรองรับการแข่งขันระดับ F3, GT1, GT2 และ GT3 ได้ (สนามไม่รองรับเอฟ 1 หรือรายการเทียบเท่าเพียงรายการเดียว) ในขณะที่อดีตที่ผ่านมาไทยมีสนามที่ได้มาตรฐานเอฟไอเอ เพียงสนามเดียวคือ สนามพีระฯ พัทยา แต่เป็น Category 3 ในส่วนของจักรยานยนต์ รองรับมาตรฐาน FIM Grade A จากสหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือเอฟไอเอ็ม (Federation International de Motocyclisme : FIM) ซึ่งสามารถจัดการแข่งขันระดับโมโต จีพี (Moto GP) หรือรายการซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพได้เปิดผังทางแข่งหลัก "ทิคเก" อดีตนักแข่งเอฟ 1 ในฐานะผู้ออกแบบ ได้ออกแบบ BRIC ในลักษณะเซอร์กิตความเร็วสูง เพื่อรองรับรถยนต์สมัยใหม่ ทางโค้งกว้าง ที่เรียกว่าโค้งอารีนา (Arena) รองรับ การเร่งความเร็วสูงสุดในทางตรงได้ถึง 270 km/h ก่อนถึงจุดเข้าโค้ง สำหรับรถจักรยานยนต์ สามารถเร่งความเร็วสูงสุด 290 km/h ก่อนถึงจุดเข้าโค้ง BRIC ระยะทางต่อรอบยาวมากกว่า 4,077 เมตร (อยู่ในการพิจารณาปรับขั้นสุดท้ายเพื่อเพิ่มความยาว) เส้นทางเป็นแบบตามเข็มนาฬิกา จำนวนโค้งรวม 16 โค้ง ลักษณะสนาม มีทางตรง ผสมผสานกับ โค้งความเร็วสูง มีการยกความเอียงโค้ง บิดแทร็ก เพื่อให้เกิดลักษณะดาวฮิลล์ เพื่อช่วยให้การขับสนุกมากขึ้น และลดข้อจำกัดของทำเลสนามที่เป็นพื้นที่ราบ ในพื้นที่ของสนามมีแทร็ก ช็อตคัต 3 ลักษณะเพื่อปรับเปลี่ยนไลน์ หากต้องการรอบวิ่งที่สั้นลงเปิด 5 โค้งเด่น BRIC โค้ง 2-4 เป็นทางตรงยาว ราวๆ 700 เมตร (รอพิจารณาปรับเพิ่มความยาว) ความเร็วสุดปลายโค้ง (จุดเบรก) สามารถรองรับรถ ทัวริ่งคาร์ ที่ความเร็ว 270km/h ส่วนจักรยานยนต์รองรับได้ 290 km/hระยะทางยาวๆ ผู้แข่งจะต้องหาจุดเบรกให้ถูกต้องเพราะว่า เป็นจุดแรกในแทร็กหลักออกสตาร์ทที่เปิดให้แซงได้ โค้ง 5 เป็นโค้งซ้าย แบบเร็วพิเศษ รองรับความเร็วมากกว่า 200 km/h เป็นโค้งที่มีแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ หรือค่าGที่สูงมาก โค้ง 8-9 โค้งซ้อนโค้ง สั้นๆ ราว 70 องศา ที่ท้าทาย การเปิดคันเร่ง ที่แฝงไปด้วยความเร็วสูงได้ถึง160 km/h โค้ง 11-12 ลักษณะโค้งตัวS ที่รถต้องมาด้วยการเดินคันเร่งเต็ม โค้ง12 เป็นส่วนที่ทำให้รถแซงกันได้อีกครั้งเมื่อ ระยะได้ที่โค้ง13 โค้ง 14 เป็นโค้งแฮร์พิน หรือ หักศอก 126 องศา เป็นจุดที่ท้าทายของการหาจุดเบรก และหาเส้นที่เร็วที่สุดซึ่งมีหลากหลายเส้น และเป็นจุดที่แซงได้แกรนด์สแตนมองเห็น 3D สนาม BRIC ออกแบบพิท ทั้งหมด 30 พิท อาคารเป็นแบบสองชั้น โดยชั้นสองเป็น วีไอพีเลาท์ 1 พิทต่อ 1 เลาท์ รวมบรรจุคนได้ 1,300 คน มีห้องมีเดียเซ็นเตอร์ รองรับสื่อมวลชนได้ 90 คนการออกแบบสนามส่วนของแกรนด์สแตน ได้คำนึงถึงทิศของแสงแดดและลม ตลอดจนมุมของการชมการแข่งขัน โดยวางตำแหน่งของแกรนด์สแตน ที่รองรับคนได้ 4,900 ที่นั่งให้สามารถมองเห็นการแข่งขันทุกโค้งได้ทั้งหมด 100% ภาพของรถแข่งในระดับสายตา จะมีมิติเหมือนการชมเกม 3 มิติ ตำแหน่งของ VVIP เลาท์ เป็นอาคารอิสระ หันหน้าเข้าหา พิท เลนและ PADDOCK สามารถมองเห็นกิจกรรมต่างในพื้นที่รถแข่งได้ทั้งหมด ตัวอาคารออกแบบผสมผสาน ในแบบสถาบัตยกรรม โดยเน้นหลังคาที่มีกลิ่นอายไทยและสีสันตะวันออก PADDOCK มีขนาด 34,000 ตารางเมตรสนามแดรกซ์ สนามทดสอบรถ BRIC ยังรองรับการแข่งขันควอเตอร์ไมล์ โดยออกแบบให้สนามวิ่งทางตรง 400 เมตร ผ่ากลางเมนแทร็ก นอกจากนี้ยังมีสนามซูเปอร์ครอส สำหรับการแข่งขันจักรยานยนต์แบบออฟโรด ศักยภาพของ BRIC ยังออกแบบไว้รองรับการจัดโปรโมชั่นของสินค้าต่างๆ มีพื้นที่ส่วนกิจกรรม นอกจากนี้ยังรองรับการทดสอบรถ สำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ด้วยสนามทดสอบสมรรถนะ (Proving ground )รถยนต์, รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณท์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นผิวลักษณะต่างๆ (wet track, surface course, winding course) หากก่อสร้างแล้วเสร็จจะถือว่า BRIC มีศักยภาพเป็นสนามที่อยู่ในชั้นแนวหน้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(จากปราสาทสายฟ้า สู่ เวิลด์คลาสเซอร์กิต'เนวิน ชิดชอบ เซาะกราวสไตล์' : คอลัมน์ เปิดโลกยนตกรรม : โดย...ยุทธพงษ์ ภาษี)บุรีรัมย์ เซอร์กิต สนามแข่งขันรถซูเปอร์ จีที พ.ศ. 2557-2558 ที่คาดว่า จะดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบุรีรัมย์ได้อย่างมหาศาล จากการที่สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ และการแข่งขันระดับทวีป ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของจังหวัดนี้เพิ่มพูนตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า จ.บุรีรัมย์ จะโด่งดังเฉพาะฟุตบอลเพียงอย่างเดียว เพราะในปีหน้า (พ.ศ. 2557) จ.บุรีรัมย์ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ชื่อว่า “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์ทีจี 2014” (Buriram United Super GT 2014) อีกด้วย สำหรับการเซ็นสัญญาจัดการแข่งขัน ทางบริษัท จีทีเอ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย และเวียนแข่งตามประเทศต่าง ๆ ที่ได้เป็นเจ้าภาพ มีทีมเข้าร่วมแข่งขันกว่า 33 ทีม ได้เดินทางมาเซ็นสัญญาให้สิทธิ์กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต (บีอาร์ไอซี) ให้เป็นสนามแข่งรถเก็บคะแนนประจำปี โดยทางประเทศไทยจะได้สิทธิ์ในการจัด 2 ปี คือ พ.ศ. 2557-2558 จ่ายค่าลิขสิทธิ์ปีละ 60 ล้านบาท หลังจากที่เซ็นสัญญาแล้ว ทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต จึงลงทุนสร้างสนามแข่งขันมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเสร็จภายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 โดยสนามแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามฟุตบอลไอ โมบายล์ สเตเดียม ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ อีกทั้งยังมีความใหญ่โตกว่า 1,000 ไร่ จุผู้ชมได้กว่า 50,000 คน นอกจากนี้ ภายในสนามยังมีโรงแรมระดับห้าดาวไว้รองรับแขกอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ คือ สามารถมองเห็นพื้นที่สนามแข่งขันได้ทั้งหมดจากห้องพัก http://hilight.kapook.com/view/91292ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะที่ปรึกษาโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า แม้ว่าโครงการนี้จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์สูง แต่เชื่อว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยและจังหวัดบุรีรัมย์ และหลังจากนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมหรือใช้สนามไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านคนMY STORYMY TOWNMY TEAMVersion: Mobile | WebCreated with Weeblyสมปอง จันทรี ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์
