สปป.ลาวกลาย เป็นจุดมุ่งหมายย้ายฐานการผลิตอีกแห่ง หลังผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจชาวญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นจะกลายเป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุดใน สปป.ลาวเป็นอันดับที่ 4 สืบเนื่องจากแผนการย้ายฐานการผลิตของบรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจากจีนและไทย เข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว และนอกจากนี้ เจโทรยังขานรับเตรียมพร้อมที่จะตั้งสำนักงานในนครหลวงเวียงจันทน์อีกด้วย
สำนักข่าววีโอเอ ลาว รายงานโดยอ้างคำพูดของ ศาสตราจารย์ โมโตโยชิ ซูซูกิ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจชาวญี่ปุ่น ในฐานะที่ปรึกษาประจำรัฐบาล สปป.ลาว และกระทรวงแผนการและการลงทุนว่า การลงทุนของบรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในลาวจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 2 ปีต่อจากนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศลงทุนใหญ่อันดับ 4 รองจากจีน เวียดนาม และไทย ภายในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่เข้าสู่ประชาคมอาเซียนผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่า การลงทุนของบรรดาเอกชนญี่ปุ่นในลาวจะเน้นหนักไปด้านอุตสาหกรรม ภาคแปรรูปสินค้าเกษตรกรรม และภาคบริการ ที่จะช่วยให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น มากกว่าประเทศอื่นที่เข้ามาลงทุนโดยเน้นหนักในการพัฒนาที่ดิน อย่างการสร้างสนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นการสร้างงานให้กับชาวลาวได้อย่างจำกัด และสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ชาวลาวต้องไปลักลอบทำงานในไทยมากขึ้น ก่อนหน้านี้ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร รายงานว่า บรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นหลายบริษัทมีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนและไทยเข้าสู่ลาวมากยิ่งขึ้น โดยสาเหตุการย้ายฐานมาจากค่าจ้างแรงงานที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน และความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในไทย นอกจากนี้ เพื่อเตรียมพร้อมให้กับบรรดาบริษัทญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุน เจโทรก็มีการเตรียมเปิดสำนักงานที่นครหลวงเวียงจันทน์ในต้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความตกลงหลายๆ ด้าน ระหว่างการเดินทางเยือน สปป.ลาวของนายซินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อปลายปีที่ผ่านมานายทองสิน ทำมะวง นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้แถลงว่า ทั้ง สปป.ลาวและญี่ปุ่น เห็นพ้องกันที่จะเปิดสำนักงานตัวแทนเจโทรที่นครหลวงเวียงจันทน์ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนในการขยายอาคารโดยสาร สนามบินวัดไต ซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติ และโครงการปล่อยเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศ ก่อนหน้านี้ การประชุมครั้งที่ 6 ภาครัฐและเอกชนระหว่างญี่ปุ่นและลาว บรรดาผู้แทนบริษัทเอกชนญี่ปุ่นมองว่า ลาวคือจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการลงทุน โดยภาคธุรกิจญี่ปุ่นสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในลาวมากที่สุดคือ ด้านการเกษตร การแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมพลังงาน ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และด้านบริการ ทั้งนี้ ทางรัฐบาล สปป.ลาวเชื่อมั่นว่า จะสามารถรองรับการลงทุนจากบรรดาบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นได้ด้วยการเร่งพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นได้ลงทุนใน สปป.ลาว ปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าร่วม 428 ล้านดอลลาร์ ใน 104 โครงการ และเป็นประเทศที่ลงทุนในลาวอันดับที่ 7
[urlhttp://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393217308[/url]
Anonymous wrote:ญี่ปุ่นเตรียมย้ายฐานผลิตหนีไทย-จีน จ่อลงทุนในลาวเพิ่ม สปป.ลาวกลาย เป็นจุดมุ่งหมายย้ายฐานการผลิตอีกแห่ง หลังผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจชาวญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นจะกลายเป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุดใน สปป.ลาวเป็นอันดับที่ 4 สืบเนื่องจากแผนการย้ายฐานการผลิตของบรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจากจีนและไทย เข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว และนอกจากนี้ เจโทรยังขานรับเตรียมพร้อมที่จะตั้งสำนักงานในนครหลวงเวียงจันทน์อีกด้วยสำนักข่าววีโอเอ ลาว รายงานโดยอ้างคำพูดของ ศาสตราจารย์ โมโตโยชิ ซูซูกิ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจชาวญี่ปุ่น ในฐานะที่ปรึกษาประจำรัฐบาล สปป.ลาว และกระทรวงแผนการและการลงทุนว่า การลงทุนของบรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในลาวจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 2 ปีต่อจากนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศลงทุนใหญ่อันดับ 4 รองจากจีน เวียดนาม และไทย ภายในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่เข้าสู่ประชาคมอาเซียนผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่า การลงทุนของบรรดาเอกชนญี่ปุ่นในลาวจะเน้นหนักไปด้านอุตสาหกรรม ภาคแปรรูปสินค้าเกษตรกรรม และภาคบริการ ที่จะช่วยให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น มากกว่าประเทศอื่นที่เข้ามาลงทุนโดยเน้นหนักในการพัฒนาที่ดิน อย่างการสร้างสนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นการสร้างงานให้กับชาวลาวได้อย่างจำกัด และสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ชาวลาวต้องไปลักลอบทำงานในไทยมากขึ้น ก่อนหน้านี้ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร รายงานว่า บรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นหลายบริษัทมีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนและไทยเข้าสู่ลาวมากยิ่งขึ้น โดยสาเหตุการย้ายฐานมาจากค่าจ้างแรงงานที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน และความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในไทย นอกจากนี้ เพื่อเตรียมพร้อมให้กับบรรดาบริษัทญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุน เจโทรก็มีการเตรียมเปิดสำนักงานที่นครหลวงเวียงจันทน์ในต้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความตกลงหลายๆ ด้าน ระหว่างการเดินทางเยือน สปป.ลาวของนายซินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อปลายปีที่ผ่านมานายทองสิน ทำมะวง นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้แถลงว่า ทั้ง สปป.ลาวและญี่ปุ่น เห็นพ้องกันที่จะเปิดสำนักงานตัวแทนเจโทรที่นครหลวงเวียงจันทน์ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนในการขยายอาคารโดยสาร สนามบินวัดไต ซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติ และโครงการปล่อยเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศ ก่อนหน้านี้ การประชุมครั้งที่ 6 ภาครัฐและเอกชนระหว่างญี่ปุ่นและลาว บรรดาผู้แทนบริษัทเอกชนญี่ปุ่นมองว่า ลาวคือจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการลงทุน โดยภาคธุรกิจญี่ปุ่นสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในลาวมากที่สุดคือ ด้านการเกษตร การแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมพลังงาน ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และด้านบริการ ทั้งนี้ ทางรัฐบาล สปป.ลาวเชื่อมั่นว่า จะสามารถรองรับการลงทุนจากบรรดาบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นได้ด้วยการเร่งพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นได้ลงทุนใน สปป.ลาว ปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าร่วม 428 ล้านดอลลาร์ ใน 104 โครงการ และเป็นประเทศที่ลงทุนในลาวอันดับที่ 7http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393217308
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393217308
ມີແຕ່ຖືກຕົ້ມ ເປັນເວລາ ສີ່ສີບປີ ຣົຖໄຟ ຊິຂົນ ສົງສີນຄ້າເຂົ້າອອກ ປະເທດກະບໍ່ມີ
ໄປຂໍທານ ຣົຖໄຟອາຍນໍ້າ ຈາກ ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ເຂົາມາໃຊ້ຊາ.
______________________________________________
ຄວາມຮູ້ທໍ່ຫາງອື່ງຍັງມາຄຸຍໂມ້ອອກຄວາມເຫັນ ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ແປວ່າຫຍັງຄຳສັບນີ້? ບໍ່ແມ່ນຂຽນຜິດດອກຕັ້ງບໍ່ຮູ້ຄຳສັບ
ທີ່ວ່າ ຫໍພິພິດທະພັນ
Anonymous wrote:ມີແຕ່ຖືກຕົ້ມ ເປັນເວລາ ສີ່ສີບປີ ຣົຖໄຟ ຊິຂົນ ສົງສີນຄ້າເຂົ້າອອກ ປະເທດກະບໍ່ມີໄປຂໍທານ ຣົຖໄຟອາຍນໍ້າ ຈາກ ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ເຂົາມາໃຊ້ຊາ.
ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ແມ່ນຫໍອິຫຍັງແລະແມ່ນພາສາຫຍັງກັນແທ້ ບໍ່ເຄີຍໄດ້ຍິນ
ໄດ້ເຫັນຈັກເທື່ອມາກ່ອນ ເທື່ອນີ້ເປັນເທື່ອທຳອິດ. ອີ່ຕົນພາສາລາວເດໜໍນັບມື້ນັບ
ກຸດສ້ວຍລົງສ້ວຍລົງເໝືອນຫາງອ່ຽນ. ຍ້ອນການຮຽນການສຶກສາຫລືວ່າຍ້ອນເຫດ
ຜົນອັນໃດພາສາຈຶ່ງບໍ່ເປັນພາສາ?
ສູ້ໄທບໍ່ໄດ້ດອກ ດຽວນີ້ປະເທດລາວກຳລັງຂາດແຮງງານມີສີມື
ສິ່ງທີ່ເໝາະກັບປະເທດລາວບໍ່ແມ່ນໂຮງງານ ຫລືການເພີ່ມ GDP ດອກ
ແຕ່ແມ່ນການເຮັດກະສິກຳແລະການທ່ອງທ່ຽວ
Anonymous wrote:ມີແຕ່ຖືກຕົ້ມ ເປັນເວລາ ສີ່ສີບປີ ຣົຖໄຟ ຊິຂົນ ສົງສີນຄ້າເຂົ້າອອກ ປະເທດກະບໍ່ມີໄປຂໍທານ ຣົຖໄຟອາຍນໍ້າ ຈາກ ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ເຂົາມາໃຊ້ຊາ. ມັນບໍ່ແມ່ນພາສາລາວກຸດຫ້ຽນຄືດັ່ງບາງທ່ານຕີລາຄາດອກ, ມັນເປັນນຳບຸກຄົນ ບໍ່ຮູ້ວ່າບັກຜີບໍ່ຢາກນີ້ ມັນແມ່ນຄົນລາວ 100% ຢູ່ໃນລາວບໍ່?ຫຼືວ່າມັນເປັນຄົນຊາດອື່ນ ຫຼືວ່າຄົນລາວທີ່ລືມຊາດ ຫາແຕ່ແນວມາເວົ້າປັກປ້ຳ ໂຈມຕີລັດຖະບານ ສປປລ ພີມໜັງສືພຽງແຕ່ແຖວເຄີ່ງກໍ່ຈີ່ງຜິດຕະພຶດ ຕະພືແບບນີ້
ມັນບໍ່ແມ່ນພາສາລາວກຸດຫ້ຽນຄືດັ່ງບາງທ່ານຕີລາຄາດອກ, ມັນເປັນນຳ
ບຸກຄົນ ບໍ່ຮູ້ວ່າບັກຜີບໍ່ຢາກນີ້ ມັນແມ່ນຄົນລາວ 100% ຢູ່ໃນລາວບໍ່?
ຫຼືວ່າມັນເປັນຄົນຊາດອື່ນ ຫຼືວ່າຄົນລາວທີ່ລືມຊາດ ຫາແຕ່ແນວມາເວົ້າ
ປັກປ້ຳ ໂຈມຕີລັດຖະບານ ສປປລ ພີມໜັງສືພຽງແຕ່ແຖວເຄີ່ງກໍ່ຈີ່ງຜິດ
ຕະພຶດ ຕະພືແບບນີ້
luffy wrote:ສູ້ໄທບໍ່ໄດ້ດອກ ດຽວນີ້ປະເທດລາວກຳລັງຂາດແຮງງານມີສີມືສິ່ງທີ່ເໝາະກັບປະເທດລາວບໍ່ແມ່ນໂຮງງານ ຫລືການເພີ່ມ GDP ດອກແຕ່ແມ່ນການເຮັດກະສິກຳແລະການທ່ອງທ່ຽວ
ຄົນລາວເຮົາໄປເປັນແຮງງານຢູ່ປະເທດໄທນັບເປັນແສນຄົນ, ຄົນງານລາວເຫຼົ່ານັ້ນລະທີ່ຈະເປັນແຮງງານ
ໃຫ້ບໍລິສັດຜະຫຼິດຕ່າງໆທີ່ຍີ່ປຸ່ນຈະມາຕັ້ງຢູ່ລາວເຮົາ. ມີລູກຫລານຄົນລາວກຳລັງຮຽນຢູ່ຕ່າງປະເທດ ບໍ່ວ່າ
ຈະເປັນປະເທດເສລີແລະສັງຄົມນິຍົມກໍຈະທະຍອຍກັນກັບຄືນສູ່ພູມລຳເນົາແຕ່ລະປີລະປີເພື່ອເປັນພະລັງ
ອັນສຳຄັນໃນການສ້າງສາພັດທະນາປະເທດຂອງເຮົາໃຫ້ເຂົ້າໄປສູ່ຫລັກໄຊທີ່ພັກລັດໄດ້ວາງໄວ້. ທ່ານ luffy
ບໍ່ຕ້ອງຢ້ານສູ້ໄທບໍ່ໄດ້ດອກເດີ້ ເມື່ອມີບໍລິສັດໃດບໍລິສັດໜຶ່ງຂອງປະເທດທຶນນິຍົມເຂົ້າມາສ່ຽງຕັ້ງໂຮງງານ
ຜະຫຼິດສິ່ງໃດສິ່ງໜຶ່ງຂຶ້ນໃນລາວແລ້ວບໍລິສັດນັ້ນໄດ້ປະສົບຜົນສຳເລັດ ແນ່ນອນບໍລິສັດຕ່າງໆຂອງປະເທດ
ທຶນນິຍົມທີ່ຊ້ອງຊາບລາວຢູ່ນັ້ນຕ້ອງຍາດແຍ່ງກັນເຂົ້າມາເປີດໂຮງງານຜະຫຼິດສິ່ງຂອງແລະວັດຖຸຕ່າງໆຢູ່
ປະເທດລາວຂອງພວກເຮົາແນ່ນອນ. ແຕ່ສິ່ງດຽວຂໍໃຫ້ລັດຖະບານຂອງພວກເຮົາໃຫ້ຄວາມຕ້ອນຮັບແບບ
ສາກົນແລະບໍ່ເຂົ້າຂ້າງວ່າເປັນທຶນນິຍົມຫຼືສັງຄົມນິຍົມ ບາດນັ້ນລະປະເທດລາວຂອງພວກເຮົາຈະມີແຕ່ໂຮງ
ງານອຸດສາຫະກຳນ້ອຍໃຫຍ່ເກີດຂຶ້ນ ດີບໍ່ດີ ປະຫວັດສາດຈະຫວນກັບ ແຮງງານໄທຈະຫລັ່ງໄຫລເຂົ້າມາລາວ
ເໝືອນດັ່ງກ່ອນ 75 ນັ້ນ.
Anonymous wrote:Anonymous wrote:ມີແຕ່ຖືກຕົ້ມ ເປັນເວລາ ສີ່ສີບປີ ຣົຖໄຟ ຊິຂົນ ສົງສີນຄ້າເຂົ້າອອກ ປະເທດກະບໍ່ມີໄປຂໍທານ ຣົຖໄຟອາຍນໍ້າ ຈາກ ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ເຂົາມາໃຊ້ຊາ. ຫໍຕະນິດ ຕະພັນ ແມ່ນຫໍອິຫຍັງແລະແມ່ນພາສາຫຍັງກັນແທ້ ບໍ່ເຄີຍໄດ້ຍິນໄດ້ເຫັນຈັກເທື່ອມາກ່ອນ ເທື່ອນີ້ເປັນເທື່ອທຳອິດ. ອີ່ຕົນພາສາລາວເດໜໍນັບມື້ນັບກຸດສ້ວຍລົງສ້ວຍລົງເໝືອນຫາງອ່ຽນ. ຍ້ອນການຮຽນການສຶກສາຫລືວ່າຍ້ອນເຫດຜົນອັນໃດພາສາຈຶ່ງບໍ່ເປັນພາສາ?
ຂ້ອຍເປັນ ລາວ-ຫວຽດ ບໍ່ກີນໝາ ເກີດຢູ່ ປາກເຊ
ບໍ່ໃດ້ເຂົ້າ ໂຣງຮຽນລາວ.
ເຫັນດີນຳທ່ານມາກທີ່ສຸດ.ເຂື່ອນມີ,ໄຟຟ້າ,ນໍ້າ.ແຕ່ໃນຕົວຈິງລັດຂາດການສົ່ງເສີມຊາວນາຊຶ່ງຕ່າງກັບປະເທດ
ທີ່ເຂົາສົ່ງສິນຄ້າກະສີກັມຕີຕລາດໂລກ.ຂໍໃຫ້ ພັກ-ລັດ ກໍ່ຄືບຸຄຄົນໃນເມື່ອກ່ອນເລາະຕາມຊາຍປ່າແຄມນາປະ
ຊາຊົນເພື່ອຈອບມອງວ່າເມື່ອໃດປະຊາຊົນຈະເອົາກ້ອງເຂົ້າມາຫ້ອຍທີ່ງ່າໄມ້.ຄວນຄິດເຫັນເຂົາແດ່.ຢ່າຟ້າວລືມ
ຫຼາຍຄຳໝັ້ນສັນຍາອັນຈອມປອມຫັ້ນ.ບໍ່ແມ່ນເວົ້າຕົວະກິນເຂົ້າເຂົາແລ້ວເຮັດເສີຍຄືໝາປະຫຳບໍ່ເປັນໄດ໋.
ໝາແທ້ໆມັນຍັງເຝົ້າເຮືອນຮັກສາເຈົ້າຂອງມັນ.
ถือว่า เป็นข่าวที่ดีข่าวนึงสำหรับประเทศลาวเลยครับ
การลงทุนโดยเฉพาะภาคบริการจะส่งผลดีต่อ การจ้างงานในประเทศลาวแน่นอน
แต่อันนี้ต้องเตือนสติคนลาว อย่าหลงดีใจ ว่าประเทศจะเจริญเติบโตก้าวหน้า โดยพึ่งพาจากการลงทุน FDI เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในไทยนะครับ
เพราะอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตรถยนต์ หรือชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ ฯลฯ ที่จะก่อให้เกิดการจ้างงาและการเติบโตของ GDP มหาศาล
ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศลาว
เนื่องจากการจะลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว ต้องการปัจจัยที่เอื้ออยู่สองข้อคือ
1. การคมนาคมขนส่งสินค้าที่สะดวก ราคาถูก (การขนส่งสินค้าประเภทนี้ต้องขนผ่านทางเรือเท่านั้น ประเทศลาวไม่ติดทะเล ทำให้ค่าขนส่งแพงมาก
เทียบกับเวียตนาม หรือประเทศไทยที่ตั้งโรงงานอยู่ที่มาบตะพุด ผลิตเสร็จ ใส่เรือ ส่งออกได้เลย)
2. แรงงานคุณภาพที่เพียงพอ (แรงงานของประเทศลาวด้อยทั้งในเรื่องของคุณภาพและปริมาณ ระบบการศึกษาที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และมีจำนวนคนน้อยมาก เมื่อเทียบกับแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน)
ຖ້າຍີ່ປຸ່ນມາລົງທຶນເຮັດອຸດສະຫະກັມ-ກະສິກັມໃນປະເທດລາວແທ້ ກໍ່ຈະເປັນໂອກາດດີສຳລັບ
ຊາວກະສິກັມລາວ, ແຕ່ຕາມທີ່ຮູ້ຂ່າວ ເຂດເສດຖະກິດພິເສດແລະເສດຖະກິດສະເພາະຈຳນວນ
10 ແຫ່ງໃນປະເທດລາວມີຄົນງານທັງໝົດປະມານ 7200 ຄົນ ແຮງງານຄົນລາວມີພຽງແຕ່ 1260 ຄົນ
ເທົ່ານັ້ນ. ຫວັງວ່ານັກລົງທຶນຍີ່ປຸ່ນຄົງຈະສ້າງບຸກຄະລາກອນລາວໃຫ້ຫລາຍໆເພື່ອຮອງຮັບໃນການ
ໂຄງການຂອງເພິ່ນ.
Anonymous wrote:ญี่ปุ่นเตรียมย้ายฐานผลิตหนีไทย-จีน จ่อลงทุนในลาวเพิ่ม สปป.ลาวกลาย เป็นจุดมุ่งหมายย้ายฐานการผลิตอีกแห่ง หลังผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจชาวญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นจะกลายเป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุดใน สปป.ลาวเป็นอันดับที่ 4 สืบเนื่องจากแผนการย้ายฐานการผลิตของบรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจากจีนและไทย เข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว และนอกจากนี้ เจโทรยังขานรับเตรียมพร้อมที่จะตั้งสำนักงานในนครหลวงเวียงจันทน์อีกด้วยสำนักข่าววีโอเอ ลาว รายงานโดยอ้างคำพูดของ ศาสตราจารย์ โมโตโยชิ ซูซูกิ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจชาวญี่ปุ่น ในฐานะที่ปรึกษาประจำรัฐบาล สปป.ลาว และกระทรวงแผนการและการลงทุนว่า การลงทุนของบรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในลาวจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 2 ปีต่อจากนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศลงทุนใหญ่อันดับ 4 รองจากจีน เวียดนาม และไทย ภายในปี 2558 ซึ่งจะเป็นปีที่เข้าสู่ประชาคมอาเซียนผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่า การลงทุนของบรรดาเอกชนญี่ปุ่นในลาวจะเน้นหนักไปด้านอุตสาหกรรม ภาคแปรรูปสินค้าเกษตรกรรม และภาคบริการ ที่จะช่วยให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น มากกว่าประเทศอื่นที่เข้ามาลงทุนโดยเน้นหนักในการพัฒนาที่ดิน อย่างการสร้างสนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นการสร้างงานให้กับชาวลาวได้อย่างจำกัด และสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ชาวลาวต้องไปลักลอบทำงานในไทยมากขึ้น ก่อนหน้านี้ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร รายงานว่า บรรดาบริษัทเอกชนญี่ปุ่นหลายบริษัทมีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนและไทยเข้าสู่ลาวมากยิ่งขึ้น โดยสาเหตุการย้ายฐานมาจากค่าจ้างแรงงานที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน และความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในไทย นอกจากนี้ เพื่อเตรียมพร้อมให้กับบรรดาบริษัทญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุน เจโทรก็มีการเตรียมเปิดสำนักงานที่นครหลวงเวียงจันทน์ในต้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความตกลงหลายๆ ด้าน ระหว่างการเดินทางเยือน สปป.ลาวของนายซินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อปลายปีที่ผ่านมานายทองสิน ทำมะวง นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้แถลงว่า ทั้ง สปป.ลาวและญี่ปุ่น เห็นพ้องกันที่จะเปิดสำนักงานตัวแทนเจโทรที่นครหลวงเวียงจันทน์ในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนในการขยายอาคารโดยสาร สนามบินวัดไต ซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติ และโครงการปล่อยเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศ ก่อนหน้านี้ การประชุมครั้งที่ 6 ภาครัฐและเอกชนระหว่างญี่ปุ่นและลาว บรรดาผู้แทนบริษัทเอกชนญี่ปุ่นมองว่า ลาวคือจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการลงทุน โดยภาคธุรกิจญี่ปุ่นสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในลาวมากที่สุดคือ ด้านการเกษตร การแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมพลังงาน ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และด้านบริการ ทั้งนี้ ทางรัฐบาล สปป.ลาวเชื่อมั่นว่า จะสามารถรองรับการลงทุนจากบรรดาบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นได้ด้วยการเร่งพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นได้ลงทุนใน สปป.ลาว ปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าร่วม 428 ล้านดอลลาร์ ใน 104 โครงการ และเป็นประเทศที่ลงทุนในลาวอันดับที่ 7[urlhttp://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393217308[/url]
ຫົວໃຈຂອງນັກລົງທຶນ
1. ແຮງງານຖືກ
2. ຕົ້ນທືນການຜລິດຖືກ
3. ຄົມມະນາຄົມຖືກ
4. ວັດຖຸດິບຖືກ
5. ກົດໝາຍເອື້ອອຳນວນ
- ກຳໄລງາມ (ນັ້ນລະເຂົາຈະລົງທຶນ)
Anonymous wrote:ຖ້າຍີ່ປຸ່ນມາລົງທຶນເຮັດອຸດສະຫະກັມ-ກະສິກັມໃນປະເທດລາວແທ້ ກໍ່ຈະເປັນໂອກາດດີສຳລັບຊາວກະສິກັມລາວ, ແຕ່ຕາມທີ່ຮູ້ຂ່າວ ເຂດເສດຖະກິດພິເສດແລະເສດຖະກິດສະເພາະຈຳນວນ10 ແຫ່ງໃນປະເທດລາວມີຄົນງານທັງໝົດປະມານ 7200 ຄົນ ແຮງງານຄົນລາວມີພຽງແຕ່ 1260 ຄົນເທົ່ານັ້ນ. ຫວັງວ່ານັກລົງທຶນຍີ່ປຸ່ນຄົງຈະສ້າງບຸກຄະລາກອນລາວໃຫ້ຫລາຍໆເພື່ອຮອງຮັບໃນການໂຄງການຂອງເພິ່ນ.
ຄາຕອກ: ໃຫ້ເອົາຜີ່ນ້ອງ ນາວ ມາແຕ່ ຮານ້ອຍ ສັກ ສອງລ້າງຄົງ...ດີແລ..
ໃຜວ່າເມືອງລາວເສົ້າ ..........ເຊົາສາເຍີຢ່າຟ້າວວ່າ...
ເຈັກແກວແໝ້ນອຶ້ງຕຶ້ງ........ຄຶງລາວໄວ້ໃຫ້ຮັ່ງມີ...ແທ້ໃດ..
ຂ້ອຍເອງໄດ້ໄປຮຽນຢູ່ຕ່າງປະເທດເປັນເວລາ 6 ປີ ຍາມພັກແລ້ງຂ້ອຍກໍໄປຊອກເຮັດວຽກກຳມະກອນ
ກໍ່ສ້າງ... ແລະມີປີໜື່ງຂ້ອຍໄປສະໝັກເຮັດວຽກຢູ່ໂຮງງານເຮັດແອເຢັນ
ຫົວນ້າພະແນກໄດ້ແອບຂ້ອຍ ເອົາທໍ່ແອສຸບໃສ່ຮູແລ້ວຈອດ ພຽງເຊົ້າດຽວ
ພໍຕອນກິນເຂົ້າເພນມາເຂົາກໍສົ່ງຂ້ອຍເຂົ້າເຮັດຮ່ວມກັບຄົນເຂົາ
ມືຕໍ່ໄປເຂົາກໍປ່ອຍຂ້ອຍເຮັດເອງ
ພີ່ນ້ອງຂ້ອຍເຮັດການຢູ່ອາເມລິກາ ຢູ່ໂຮງງານເຮັດເຄື່ອງໄຟຟ້າ
ລາວເປັນຜູ້ຍິງເສັງແຊກຢູ່ລາວໄດ້
ເຂົາເອົາລາວໄປບຳລຸງ 3 ເດືອນກໍເຂົ້າໄປສ່ວຍເອົາອຸປະກອນເອເລັກໂຕຣນິກໄດ້ສະບາຍຮອດທຸກມື້ນີ້
ຕໍມາລາວກໍໄດ້ຖືກແຕ່ງຕັ້ງເປັນຮອງພະແນກພຸ້ນເດີ
ຂ້ອຍວ່າວຽກໃດທີ່ງ່າຍກໍແອບຝຶກເອົາຄົນລາວກໍ່ໄດ້
Anonymous wrote:luffy wrote:ສູ້ໄທບໍ່ໄດ້ດອກ ດຽວນີ້ປະເທດລາວກຳລັງຂາດແຮງງານມີສີມືສິ່ງທີ່ເໝາະກັບປະເທດລາວບໍ່ແມ່ນໂຮງງານ ຫລືການເພີ່ມ GDP ດອກແຕ່ແມ່ນການເຮັດກະສິກຳແລະການທ່ອງທ່ຽວ ຂ້ອຍເອງໄດ້ໄປຮຽນຢູ່ຕ່າງປະເທດເປັນເວລາ 6 ປີ ຍາມພັກແລ້ງຂ້ອຍກໍໄປຊອກເຮັດວຽກກຳມະກອນກໍ່ສ້າງ... ແລະມີປີໜື່ງຂ້ອຍໄປສະໝັກເຮັດວຽກຢູ່ໂຮງງານເຮັດແອເຢັນຫົວນ້າພະແນກໄດ້ແອບຂ້ອຍ ເອົາທໍ່ແອສຸບໃສ່ຮູແລ້ວຈອດ ພຽງເຊົ້າດຽວ ພໍຕອນກິນເຂົ້າເພນມາເຂົາກໍສົ່ງຂ້ອຍເຂົ້າເຮັດຮ່ວມກັບຄົນເຂົາມືຕໍ່ໄປເຂົາກໍປ່ອຍຂ້ອຍເຮັດເອງພີ່ນ້ອງຂ້ອຍເຮັດການຢູ່ອາເມລິກາ ຢູ່ໂຮງງານເຮັດເຄື່ອງໄຟຟ້າລາວເປັນຜູ້ຍິງເສັງແຊກຢູ່ລາວໄດ້ເຂົາເອົາລາວໄປບຳລຸງ 3 ເດືອນກໍເຂົ້າໄປສ່ວຍເອົາອຸປະກອນເອເລັກໂຕຣນິກໄດ້ສະບາຍຮອດທຸກມື້ນີ້ຕໍມາລາວກໍໄດ້ຖືກແຕ່ງຕັ້ງເປັນຮອງພະແນກພຸ້ນເດີຂ້ອຍວ່າວຽກໃດທີ່ງ່າຍກໍແອບຝຶກເອົາຄົນລາວກໍ່ໄດ້
ງານອຸດສາຫະກຳເປັນງານຕ່ອງໂສ້ ຄົນຜູ້ໜຶ່ງຈະມີໜ້າທີ່ເຮັດຢ່າງດຽວ ແຕ່ຕ້ອງແມ່ນຢຳ ແລະວ່ອງໄວ ບໍ່ວ່າຕີ ຄົນລາວຈະຮຽນເຮັດວຽກແນວນັ້ນບໍ່ໄດ້, ຂໍພຽງແຕ່ສອນໃຫ້ເຂົາເຮັດ ຮູ້ທີ່ໄປທີ່ມາ ແລະເຫດ/ຜົນ ອາທິດໜຶ່ງກໍໜ້າຈະພໍເລີ່ມເຮັດວຽກໄດ້ ..