Pasalao

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ພະຍາກອນວ່າ
Anonymous

Date:
ພະຍາກອນວ່າ


พระโคกินข้าวโพดและหญ้า ซึ่งมีคำพยากรณ์ว่า หากพระโคกิน ข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี และพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

556000005935118.JPEG  Image.aspx?ID=556000005935130



__________________
Anonymous

Date:
RE: พยากรณ์ว่า


พระโค=??

ພາສາລາວວ່າ ແນວໃດນໍ

ພະຍາງົວ ຫລືເຈົ້າຊີວິດງົວ?

ມີພຮະນາມວ່າຈັງໃດ  

 พระโคพยากรณ์    

 

 



__________________
Anonymous

Date:

เปัน ประเพณี

หลืความเชื่อฎื

คนลาวคิดว่าแนวใด

 

 



__________________
Anonymous

Date:

 

ເຊື່ອແນ່ ບໍ່ເຊື່ອແນ່

ຖ້າບໍ່ເຊື່ອ ກໍ່ຢ່າລົບລູ່ 



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

 

ພະໂຄ ບໍ່ເຄີຍສະເຫວີຍ ຫຍ້າ

ຈຶ່ງ ກິນເອົາ ກິນເອາ

ເຊື່ອ ຫລື ບໍ່ເຊື່ອ ຝົນມັນຕົກຢູ່ແລວ້ ແນວວ່າຍາມຝົນ 

 

ສວ່ນ ຂອງລາວ ຖ້າປີໃດ 8 ສອງຫົນ ລະວັງແຕ່ແລ້ງກາງປີ 

 


 



__________________
Anonymous

Date:

big rain

big flow

big flood kroong thep

Hehe



__________________
ລາວ ຄົງເຊໂດນ

Date:

Anonymous wrote:

big rain

big flow

big flood kroong thep

Hehe


 ລາວນອກປາກໝາໄດ້ຕະຫລອດອີຫຼີວ່ະ ຮ່າຮ່າຮ່າconfuseconfuseconfuseບັກລູກລາວໂຕນຂອງ



__________________
ຂອ້ງໃຈ

Date:

 

ງົວ ເພິ່ນ ຮອ້ງວ່າ ພະໂຄ

ບາດຄວາຍ ພັດຮອ້ງ ບັກຄວາຍ

 

ມັນຕ່າງກັນຫຍັງ ລະຫວ່າງ ສັດສອງປະເພດນີ້

ມີປະຫວັດຄວາມເປັນມາແນວໃດແດ່ 



__________________
Anonymous

Date:

ประวัติความเป็นมา
               พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีกรรม ๒ พิธีที่กระทำร่วมกัน คือ พิธีพืชมงคล กับพิธีแรกนาขวัญ 

               พิธีพืชมงคล เป็นพิธีทำขวัญเมล็ดพืชพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้างเหนียว ข้างฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา เผือก มัน เป็นต้น ฯลฯ มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้น ปราศจากโรคภัยและให้อุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามดี

                พิธีแรกนาขวัญ เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นอาณัติสัญญาณว่า บัดนี้ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนี้ มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ในหนังสือพระราชพิธีสิบสองเดือน ในพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ได้กล่าวถึงพิธีแรกนาไว้ดังนี้ 
                "การแรกนาที่ต้องเป็นธุระของผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในแผ่นดินเป็นธรรมเนียมโบราณ  เช่น  ในเมืองจีนสี่พันปีล่วงแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็ลงทรงไถนาเองเป็นคราวแรก พระมเหสีเลี้ยงตัวไหม ส่วนจดหมายเรื่องราวอันใดในประเทศสยามนี้ ที่มีปรากฏอยู่ในการแรกนานี้ก็มีอยู่เสมอเป็นนิตย์ไม่มีเวลาเว้นว่าง ด้วยการซึ่งผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือทำเองเช่นนี้ ก็เพื่อจำให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ชักนำให้มีใจหมั่นในการที่จะทำนา เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้อาศัยเลี้ยงชีวิตทั่วหน้า เป็นต้นเหตุของความตั้งมั่นและความเจริญไพบูลย์แห่งพระนครทั้งปวง แต่การซึ่งมีพิธีเจือปนต่าง ๆ ไม่เป็นแต่ลงมือไถนาเป็นตัวอย่าง เหมือนอย่างชาวนาทั้งปวงลงมือไถนาของตัวตามปรกติ ก็ด้วยความหวาดหวั่นต่ออันตราย คือ น้ำฝน น้ำท่ามากไปน้อยไป ด้วยเพลี้ยและสัตว์ต่าง ๆ จะบังเกิดเป็นเหตุอันตราย ไม่ให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิ และมีความปรารถนาที่จะได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิเป็นกำลัง จึงได้ต้องแส่หาทางที่จะแก้ไข และทางที่จะอุดหนุน และที่จะเสี่ยงทายให้รู้ล่วงหน้าจะได้เป็นที่มั่นอกมั่นใจ ก็การที่จะแก้ไขเยียวยาน้ำฝนน้ำท่าซึ่งเป็นของเป็นไปโดยฤดูปรกติเป็นเอง โดยอุบายลงแรงลงทุนอย่างไรไม่ได้ จึงต้องอาศัยคำอธิฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้งบ้าง ทำการซึ่งไม่มีโทษนับว่าเป็นการสวัสดิมงคล ตามซึ่งมาในพระพุทธศาสนาบ้าง บูชาเช่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์บ้าง ให้เป็นการช่วยแรงและเป็นที่มั่นใจตามความปรารถนาของมนุษย์ซึ่งคิดไม่มีที่สุด...." 

                 ธรรมเนียมการแตกนาซึ่งมีมาในสยามแต่โบราณ ตามที่ค้นได้ในหนังสือต่าง ๆ คือ ในหนังสือนพมาศเมื่อครั้งกรุงสุโขทัยนั้นมีข้อความว่า "ในเดือนหก พระราชพิธีไพศาลจรดพระนังคัล พราหมณ์ประชุมกันผูกพรดเชิญเทวรูปเข้าโรงพิธี ณ ท้องทุ่งละหานหลวงหน้าพระตำหนักห้าง เขากำหนดฤกษ์แรกนาว่าใช้วันอาทิตย์ พระเจ้าแผ่นดินทรงเครื่องต้นอย่างเทศ ทรงม้าพระที่นั่งพยุหยาตราเป็นพระบวนเพชรพวง พระอัครชายาและพระราชวงศานุวงศ์ พระสนมกำนัลเลือกแต่ที่ต้องพระราชหฤทัย ขึ้นรถประเทียบตามเสด็จไปในกระบวนหลังประทับที่พระตำหนักห้าง จึงโปรดให้ออกญาพลเทพธิบดีแต่งตัวอย่างลูกหลวง มีกระบวนแห่ประดับด้วยกรรเชิงบังสูร พราหมณ์เป่าสังข์โปรยข้าวตอกนำหน้า

                 ครั้นเมื่อถึงมณฑลท้องละหาน ก็นำพระโคอุสภราชเทียมไถทอง พระครูพิธีมอบยามไถและประฎักทอง ให้ออกญาพลเทพเป็นผู้ไถที่หนึ่งพระศรีมโหสถซึ่งเป็นบิดานางนพมาศเอาแต่งตัวเครื่องขาวอย่างพราหมณ์ ถือไถหุ้มด้วยรัตกัมพลแดง เทียมด้วยโคกระวินทั้งไม่ประฎัก พระโหราลั่นฆ้องชัยประโคมดุริยางค์ดนตรี ออกเดินไถเวียนซ้ายไปขวา ชีพ่อพราหมณ์ปรายข้าวตอกดอกไม้ บันลือเสียงสังข์ไม้บัณเฑาะว์นำหน้าไถ ขุนบริบูรณ์ธัญญา นายนักงานนาหลวงแต่งตัวนุ่งเพลาะคาดรัดประคดสวมหมวกสาน ถือกระเช้าโปรยหว่านพืชธัญญาหารตามทางไถจรดพระนังคัลถ้วนสามรอบ ในขณะนั้นมีการมหรสพ ระเบงระบำโมงครุ่มหกคะเมนไต่ลวด ลวดบ่วงรำแพนแทงวิสัยไก่ป่าช้าหงส์รายรอบปริมณฑลที่แรกนาขวัญ แล้วจึงปล่อยพระโคทั้งสามอย่างออกกินเสี่ยงทายของห้าสิ่ง แล้วโหรพราหมณ์ก็ทำนายตามตำรับไตรเพท ในขณะนั้นพระอัครชายาก็ดำรัสสั่งพระสนมให้เชิญเครื่องพระสุพรรณภาชน์มธุปายาสขึ้นถวายพระเจ้าอยู่หัวเสวย ราชมัลก็ยกมธุปายาสเลี้ยงลูกขุนทั้งปวง" เป็นเสร็จการพระราชพิธีซึ่งมีมาในเรื่องนพมาศ 

                  การแรกนาที่ในกรุงเทพฯ นี้มีเสมอมาแต่ปฐมรัชกาลไม่ได้ยกเว้นแต่ถือว่าเป็นตำแหน่งเจ้าพระยาพลเทพคู่กันกับยืนชิงช้า เจ้าพระยาพลเทพแรกนายืนชิงช้าผู้เดียวไม่ได้ผลัดเปลี่ยนครั้นตกมาภายหลังเมื่อเจ้าพระยาพลเทพป่วย ก็โปรดให้พระยาประชาชีพแทนบ้าง และเมื่อเจ้าพระยานิกรบดินทร์ยืนชิงช้าก็โปรดให้แรกนาด้วย ในครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เกือบจะตกลงเป็นธรรมเนียมว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้เป็นผู้แรกนาด้วย ครั้นมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาพลเทพ (หลวง) แรกนา

                  การแรกนาที่กรุงเทพฯนี้ไม่ได้เป็นการหน้าพระที่นั่ง นั่ง เว้นไว้แต่มีพระราชประสงค์จะทอดพระเนตรเมื่อใด จึงได้ทอดพระเนตร เล่ากันว่าเมื่อแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ขณะเมื่อทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ ในปีมะแมเบญจศก ศักราช ๑๑๘๕ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการทุกวัน

                  ครั้นเมื่อถึงพระราชพิธีจรดพระนังคัลจะใคร่ทอดพระเนตรจึงโปรดให้ยกการพระราชพิธีมาตั้งที่ปรกหลังวัดอรุณฯ 
ครั้นมาในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรแรกนาที่ทุ้งส้มป่อยครั้งหนึ่ง ภายหลังโปรดให้มีการแรกนาที่กรุงเก่า และที่เพชรบุรีได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร พระยาเพชรบุรี (บัว) แรกนาที่เขาเทพพนมขวดครั้งหนึ่งหรือสองครั้ง ในแผ่นดินปัจจุบันนี้ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรแรกนาที่ทุ้งส้มป่อยครั้งหนึ่ง 
การพระราชพิธีจรดพระนังคัลแต่ก่อนมีแต่พิธีพราหมณ์ ไม่มีพิธีสงฆ์ ครั้งมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงเพิ่มพิธีสงฆ์ในพระราชพิธีต่าง ๆ จึงได้เพิ่มในการจรดพระนังคัลนี้ด้วย แต่ยกเป็นพิธีหนึ่งต่างหาก เรียกว่าพืชมงคล โปรดให้ปลูกพลับพลาขึ้นในที่หน้าท้องสนามหลวง และสร้างหอพระเป็นที่ไว้พระคันธารราษฎร์สำหรับการพระราชพิธีพืชมงคลอย่างหนึ่ง พุทธศาสตร์อย่างหนึ่ง แต่ก่อนมาพระยาผู้จะแรกนาก็มิได้ฟังสวด เป็นแต่กราบถวายบังคมลาแล้วก็ไปเข้าพิธีเหมือนตรียัมปวาย กระเช้าข้าวโปรยก็ใช้พนักงานกรมนาหาบ ไม่ได้มีนางเทพีเหมือนทุกวันนี้

                  เมื่อโปรดให้มีพระราชพิธีพืชมงคลขึ้น จึงได้ให้มีนางเทพีสี่คน จัดเจ้าจอมเถ้าแก่ที่มีทุนรอนพาหนะพอจะแต่งตัวและมีเครื่องใช้ไม้สอย ติดตามให้ไปหาบกระเช้าข้าวโปรย เมื่อวันสวดมนต์พระราชพิธีพืชมงคล ก็ให้ฟังสวดพร้อมด้วยพระยาผู้จะแรกนา และให้มีการราชบัณฑิตเชิญพระเต้าเทวบิฐ ซึ่งเป็นพระเจ้าเกิดขึ้นใหม่ในรัชกาลนั้นประพรมที่แผ่นดินนำหน้าพระยาที่แรกนา ให้เป็นสวัสดิมงคลอีกชั้นหนึ่ง การพระราชพิธีนี้ ในเวลาบ่ายวันที่จะสวดมนต์ก็มีกระบวนแห่พระพุทธรูปออกไปจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

                  พระราชพิธีจรดพระนังคัล เริ่มแต่เวลาบ่ายวันสวดมนต์พระราชพิธีพืชมงคล มีกระบวนแห่พระเทวรูปพระอิศวร ๑ พระอุมาภควดี ๑ พระนารายณ์ ๑ พระมหาวิฆเนศวร ๑ พระพลเทพแบกไถ ๑ กระบวนแห่มีธงมีคู่แห่เครื่องสูงกลองชนะ คล้ายกันกับที่แห่พระพุทธรูปเป็นแต่ลดหย่อนลงไปบ้าง ออกจากในพระบรมมหาราชวังไปโดยทางบก เข้าโรงพิธีที่ทุ่งส้มป่อยนาหลวง เวลาค่ำพระมหาราชครูพิธีเหมือนอย่างพิธีทั้งปวง ไม่มีการแปลกประหลาดอันใด

                  รุ่งขึ้นเวลาเช้าตั้งแต่กระบวนแห่พระยาผู้แรกนา กำหนดเกณฑ์คนเข้ากระบวนแห่ ๕๐๐ กระบวน นั้นไม่เป็นกระบวนใหญ่เหมือนอย่างแห่ยืนชิงช้า พระยาแรกนาแต่งตัวเหมือนยืนชิงช้า เมื่อถึงโรงพระราชพิธีเข้าไปจุดเทียนบูชาพระพุทธรูป แล้วตั้งจิตอธิษฐานจับผ้าสามผืน ผ้านั้นใช้ผ้าลายหกคืบผืน ๑ ห้าคืบผืน ๑ สี่คืบผืน ๑ ถ้าจับได้ผ้าที่กว้างเป็นคำทำนายว่าน้ำจะน้อย ถ้าได้ผ้าที่แคบว่าน้ำจะมาก

                   เมื่อจับได้ผ้าผืนใดก็นุ่งผ้าผืนนั้น ทับผ้านุ่งเดิมอีกชั้นหนึ่ง นุ่งอย่างบ่าวขุนออกไปแรกนา มีราชบัณฑิตคนหนึ่ง เชิญพระเต้าเทวบิฐประน้ำพระพุทธมนต์ไปหน้า พราหมณ์เชิญพระพลเทพคนหนึ่งเป่าสังข์ ๒ คน พระยาจับยามไถ พระมหาราชครูพิธียื่นประตักด้านหุ้มแดงไถดะไปโดยรีสามรอบ แล้วไถแปรโดยกว้างสามรอบ นางเทพีทั้ง ๔ จึงได้หาบกระเช้าข้าวปลูก กระเช้าทอง ๒ คน กระเช้าเงิน ๒ คน ออกไปให้พระยาโปรยหว่านข้าว และไถกลบอีกสามรอบจึงกลับเข้ามายังที่พัก ปลดพระโคออกกินเลี้ยงของเสี่ยงทาย ๗ สิ่ง คือ ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่ว เหล้า น้ำ หญ้า ถ้าพระโคกินสิ่งไรก็มีคำทำนาย แต่คำทำนายมักจะว่ากันว่า ถ้าพระโคกินสิ่งใดสิ่งนั้นจะบริบูรณ์

                   การเท่านี้เป็นเสร็จพระราชพิธีจรดพระนังคัลแห่พระยากลับ แล้วเทวรูปกลับ ในการจรดพระนังคัลเป็นเวลาคนมาประชุมมาก ถึงจุดอยู่บ้านไกลๆ ก็มักจะมาด้วยมีประโยชน์ความต้องการเมื่อเวลาโปรยข้าวปลูกลงในนา พอพระยากลับก็พากันเข้าแย่งเก็บข้าว จนไม่มีเหลืออยู่ในท้องนาเลย เมื่อรัชกาลที่ ๕ ได้โปรดให้ไปชันสูตรหลายครั้งว่ามีข้าวงอกบ้างหรือไม่ ก็ไม่พบเหลืออยู่จนงอกเลย เมื่อทอดพระเนตรแรกนาที่เพชรบุรี พอคนที่เข้ามาแย่งเก็บพรรณข้าวปลูกออกไปหมดแล้ว รับสั่งให้ตำรวจหลายคนออกไปค้นหาเมล็ดข้าวว่าจะเหลืออยู่บ้างหรือไม่ ก็ไม่ได้มาเลยจนสักเมล็ดหนึ่ง พรรณข้าวปลูกซึ่งเก็บไปนั้น ไปใช้เจือในพรรณข้าวปลูกของตัว ให้เป็นสวัสดิมงคลแก่นาบ้าง ไปปนลงไว้ในถุงเงินให้เกิดประโยชน์งอกงามบ้าง การแรกนาจึงเป็นที่นิยมของคนทั้งปวงไม่จืด ยังนับว่าเป็นพระราชพิธีซึ่งเป็นที่ต้องใจคนเป็นอันมาก

                   จากพระราชนิพนธ์บางส่วนที่อัญเชิญมา ทำให้รู้ว่า พระราชพิธีจรดพระนังคัลและแรกนาขวัญนี้ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และจัดขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ราษฎรซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ในสมัยสุโขทัยนั้น พระมหากษัตริย์จะเสด็จเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีทุกครั้ง ครั้นถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ทรงกระทำเหมือนสมัยสุโขทัยแต่จะมอบอาญาสิทธิ์และทรงจำศีลอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลา ๓ วัน ซึ่งกระทำอย่างนี้เรื่อยมาจนถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การประกอบพระราชพิธีนี้เริ่มมีมาแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ผู้กระทำการแรกนาเป็นเจ้าพระยาพหลเทพคู่กับการยืนชิงช้า แต่พอมาในสมัยรัชกาลที่ ๓ กลับให้ผู้ยืนชิงช้าเป็นพระยาแรกนา ส่วนในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในทุกพระราชพิธี ดังนั้นการเริ่มต้น "พระราชพิธีพืชมงคล" จึงเกิดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พร้อมกับคำว่า "จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ" มารวมเข้าไว้ด้วยกัน พระราชพิธีเต็มรูปแบบนั้นได้กระทำเรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๙ จึงได้เว้นไปชั่วระยะหนึ่ง ด้วยสถานการณ์โลกและบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่สมควรจะจัดงานใด ๆ จึงได้ว่างเว้นไปถึง ๑๐ ปี ต่อมาได้ทำการรื้อฟื้นประเพณีเก่าแก่อันเป็นมงคลนี้ขึ้นอีก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๐ แต่มีแค่พระราชพิธีพืชมงคลเท่านั้น (พิธีเต็มรูปแบบว่างเว้นไปถึง ๒๓ ปี) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จึงจัดให้มีราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ร่วมกับพิธีพืชมงคลนับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้  
 
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปัจจุบัน
                    พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในปัจจุบันนี้ได้ดำเนินตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี เว้นแต่บางอย่างได้มีการดัดแปลงให้เหมาะแก่กาลสมัย อาทิ พิธีของพราหมณ์ก็มีการตัดทอนให้เหลือน้อยลง พระยาแรกนาก็ให้ตกเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพระราชพิธีทุกปี มีข้าราชการขั้นผู้ใหญ่ ทูตานุทูต และประชาชนได้มาชมการแรกนาเป็นจำนวนมาก เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ประชาชนจะพากันแย่งเก็บเมล็ดข้าว นำไปผสมกับพันธุ์ข้าวที่ปลูกหรือเก็บไว้เป็นถุงเงินเพื่อความสิริมงคล

                    สำหรับพระโคที่จะเข้าพระราชพิธีแรกนาขวัญ จะถูกเลี้ยงดูอย่างดีในทุ่งหญ้าที่จังหวัดราชบุรี อาหารที่ใช้เลี้ยงพระโคมื้อเข้าและกลางวันจะเลี้ยงดูด้วยหญ้าขน และต้นข้าวโพดเทียม ส่วนมื้อเย็นจะเป็นอาหารเสริมปรกอบด้วยข้าวโพดบด กากปาล์ม เกลือแร่ต่าง ๆ

                   พระโคที่ใช้ในพระราชพิธี จะต้องมีลักษณะที่ดีขาดเกินไม่ได้คือ หูดี ตาดี แข็งแรง เข้าทั้งสองตั้งตรงสวยงาม พระโคแต่ละคู่ต้องสีเหมือนกัน ซึ่งจะมีการคัดเลือกพระโคเพียงสองสีเท่านั้น คือ สีขาวสำลีและสีน้ำตาลแดง และเจาะจงแต่เพศผู้เท่านั้นและต้องผ่านการ "ตอน" เสียก่อนด้วย

หมายเหตุ.... วันพืชมงคลในแต่ละปีจะไม่ตรงกัน (ดูในปฏิทินเดือนพฤษภาคม)
 
 
กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันพืชมงคล
๑. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ 
๒. จัดนิทรรศการ แสดงประวัติความเป็นมา และความสำคัญของวันพืชมงคล รวมทั้งพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ  


__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

big rain

big flow

big flood kroong thep

Hehe


 

คือ น้ำท่วมใหญ่ มันอาจเป้นความสุขของคุณที่ได้เห็น กรุงเทพ น้ำท่วมใหญ่

แต่คนที่โดน จริงๆ เขาไม่มีความสุขเลยน่ะ ข้าวของเสียดาย นักเรียนยังผม หนังสือ กระดาษ เปียก หายไปกับน้ำ

บางคนข้าวของเสียหาย ไม่มีเงินที่จะซื้อ

 

เบื่อคนลาวที่ชอบ ว่ากรุงเทพ เมืองไทย เจริญแต่ วัตถนิยม ลาว เจริญทางด้าน จิตใจ

ไม่เป็นความจริงๆ เลยเพราะลาว ไม่เจริญทั้งด้านวตถุและด้านจิตใจ

 



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

big rain

big flow

big flood kroong thep

Hehe


 

คือ น้ำท่วมใหญ่ มันอาจเป้นความสุขของคุณที่ได้เห็น กรุงเทพ น้ำท่วมใหญ่

แต่คนที่โดน จริงๆ เขาไม่มีความสุขเลยน่ะ ข้าวของเสียดาย นักเรียนยังผม หนังสือ กระดาษ เปียก หายไปกับน้ำ

บางคนข้าวของเสียหาย ไม่มีเงินที่จะซื้อ

 

เบื่อคนลาวที่ชอบ ว่ากรุงเทพ เมืองไทย เจริญแต่ วัตถนิยม ลาว เจริญทางด้าน จิตใจ

ไม่เป็นความจริงๆ เลยเพราะลาว ไม่เจริญทั้งด้านวตถุและด้านจิตใจ

 


 

คือ น้ำท่วมใหญ่ มันอาจเป้นความสุขของคุณที่ได้เห็น กรุงเทพ น้ำท่วมใหญ่

แต่คนที่โดน จริงๆ เขาไม่มีความสุขเลยน่ะ ข้าวของเสียหาย นักเรียนยังผม หนังสือ กระดาษ เปียก หายไปกับน้ำ

บางคนข้าวของเสียหาย ไม่มีเงินที่จะซื้อ แต่ในก็ได้เห็นคนไทยได้ช่วยเหลือกัน

 

เบื่อคนลาวที่ชอบ ว่ากรุงเทพ เมืองไทย เจริญแต่ วัตถนิยม                        ลาว เจริญทางด้าน จิตใจ

 

 

ไม่เป็นความจริงๆ เลย เพราะลาว  ไม่เจริญ ทั้งด้านวัตถุนิยมและด้านจิตใจ

 



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

big rain

big flow

big flood kroong thep

Hehe


 

คือ น้ำท่วมใหญ่ มันอาจเป้นความสุขของคุณที่ได้เห็น กรุงเทพ น้ำท่วมใหญ่

แต่คนที่โดน จริงๆ เขาไม่มีความสุขเลยน่ะ ข้าวของเสียดาย นักเรียนยังผม หนังสือ กระดาษ เปียก หายไปกับน้ำ

บางคนข้าวของเสียหาย ไม่มีเงินที่จะซื้อ

 

เบื่อคนลาวที่ชอบ ว่ากรุงเทพ เมืองไทย เจริญแต่ วัตถนิยม ลาว เจริญทางด้าน จิตใจ

ไม่เป็นความจริงๆ เลยเพราะลาว ไม่เจริญทั้งด้านวตถุและด้านจิตใจ

 

 

 

*******แค่บางคนน่ะครับ ไม่ใช่ทุกคน เพราะทุกสังคมย่อมมีคนดีและคน

 


 

คือ น้ำท่วมใหญ่ มันอาจเป้นความสุขของคุณที่ได้เห็น กรุงเทพ น้ำท่วมใหญ่

แต่คนที่โดน จริงๆ เขาไม่มีความสุขเลยน่ะ ข้าวของเสียหาย นักเรียนยังผม หนังสือ กระดาษ เปียก หายไปกับน้ำ

บางคนข้าวของเสียหาย ไม่มีเงินที่จะซื้อ แต่ในก็ได้เห็นคนไทยได้ช่วยเหลือกัน

 

เบื่อคนลาวที่ชอบ ว่ากรุงเทพ เมืองไทย เจริญแต่ วัตถนิยม                        ลาว เจริญทางด้าน จิตใจ

 

 

ไม่เป็นความจริงๆ เลย เพราะลาว  ไม่เจริญ ทั้งด้านวัตถุนิยมและด้านจิตใจ

 


 



__________________
Anonymous

Date:

Thank you for marking your comment with this: 

*******แค่บางคนน่ะครับ ไม่ใช่ทุกคน เพราะทุกสังคมย่อมมีคนดีและคน



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

big rain

big flow

big flood kroong thep

Hehe


 

คือ น้ำท่วมใหญ่ มันอาจเป้นความสุขของคุณที่ได้เห็น กรุงเทพ น้ำท่วมใหญ่

แต่คนที่โดน จริงๆ เขาไม่มีความสุขเลยน่ะ ข้าวของเสียดาย นักเรียนยังผม หนังสือ กระดาษ เปียก หายไปกับน้ำ

บางคนข้าวของเสียหาย ไม่มีเงินที่จะซื้อ

 

เบื่อคนลาวที่ชอบ ว่ากรุงเทพ เมืองไทย เจริญแต่ วัตถนิยม ลาว เจริญทางด้าน จิตใจ

ไม่เป็นความจริงๆ เลยเพราะลาว ไม่เจริญทั้งด้านวตถุและด้านจิตใจ

 


 please don't put all lao people@the same boat Sir. I assume  you're an educated person, What would you think if I call all thai lady a whores ? of couse you probably don't like it, Right !!! 

so please use your ................................................



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

พระโคกินข้าวโพดและหญ้า ซึ่งมีคำพยากรณ์ว่า หากพระโคกิน ข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี และพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

556000005935118.JPEG  Image.aspx?ID=556000005935130


พะโคกินเหล้า ข้อยขอทำนายว่า พะโคเมา wink

http://www.whereisthailand.info/wp-content/uploads/2012/05/IG-Royal-Ploughing-Ceremony.png



__________________
Anonymous

Date:



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

พระโคกินข้าวโพดและหญ้า ซึ่งมีคำพยากรณ์ว่า หากพระโคกิน ข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี และพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

556000005935118.JPEG  Image.aspx?ID=556000005935130


พะโคกินเหล้า ข้อยขอทำนายว่า พะโคเมา wink

http://www.whereisthailand.info/wp-content/uploads/2012/05/IG-Royal-Ploughing-Ceremony.png


 biggrinbiggrinbiggrinbiggrinbiggrin



__________________
Anonymous

Date:
RE: ພະຍາກອນວ່າ


 

งัวเปันพระ แต่ควายเปันสัด

ควายทำนา พระโคกินเข้า

คนแดกทังงัวทังควาย

 

 



__________________
Page 1 of 1  sorted by
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard