Cobra Gold การฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ASEAN
การเชิญธงชาติของประเทศที่เข้าร่วมในพิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2013
พิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2013 โดยตัวแทนจากประเทศไทย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
กำลังผสมนาวิกโยธินไทยและอเมริกันฝึกการโจมตีด้วยเรือยางติดเครื่องยนต์
คอบร้าโกลด์ (อังกฤษ: Cobra Gold ตัวย่อ: CG) เป็นการฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศไทย เริ่มครั้งแรกจากการฝึกทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2525 ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแบบพหุภาคีโดยมีประเทศอื่น ๆ เข้าร่วม ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น วัตถุประสงค์ของการฝึกคอบร้าโกลด์ คือ ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชาติต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในการฝึก นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาค การตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลังเหตุการณ์คลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 ส่วนหนึ่งเป็นผลที่ได้รับจากการฝึกร่วม/ผสมนี้
การฝึกยิงปืนค.ด้วยกระสุนจริงของกำลังผสมนาวิกโยธินไทยและอเมริกัน
ประวัติ หลังสงครามโลกครั้งที่สองและในยุคสงครามเย็น ประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มุ่งเน้นด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัจจัยภายนอกที่สำคัญได้แก่ภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ทั้งสองประเทศได้เริ่มมีการฝึกทางทหารร่วมกันในปี พ.ศ. 2499 เป็นการฝึกผสมยกพลขึ้นบกระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือและหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯต่อมาเพื่อให้การฝึกมีลักษณะบูรณาการมากขึ้น กองทัพไทยและกองทัพสหรัฐอเมริกาได้เริ่มการฝึกร่วม/ผสมภายใต้รหัส "คอบร้าโกลด์" ในปี พ.ศ. 2525 ครั้งนั้นกองทัพเรือไทยและกองทัพอากาศไทยจัดกำลังเข้าร่วมการฝึกโดยดำเนินการฝึกปฏิบัติการทางเรือ ทางอากาศ และการยกพลขึ้นบก ร่วมกับกองทัพเรือและนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา กำหนดรหัสว่า "คอบร้าโกลด์ 82"ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 กองทัพบกไทยได้จัดหน่วยรบพิเศษเข้าร่วมการฝึกอีกเหล่าทัพหนึ่ง กล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกร่วมและผสมครบทั้งสามเหล่าทัพเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากนั้นกองบัญชาการทหารสูงสุดได้เข้ารับผิดชอบดำเนินการฝึกคอบร้าโกลด์ 86 ในปี พ.ศ. 2529 โดยเน้นการฝึกหน่วยทหารในการปฏิบัติการรบตามแบบ ด้วยกำลังขนาดใหญ่ระดับกองกำลังเฉพาะกิจร่วมและผสม เข้าปฏิบัติการในยุทธบริเวณ และดำเนินการฝึกต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน มีกำลังจากกองทัพไทยทุกเหล่าทัพเข้าร่วมฝึกหมุนเวียนไปตามกองทัพภาคและกองเรือภาค ในปัจจุบันการฝึกคอบร้าโกลด์ถือได้ว่าเป็นการฝึกร่วมและผสมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การฝึกใช้ชุดป้องกันอาวุธเคมี ชีวภาพ และกัมมันตภาพรังสีจากอาวุธนิวเคลียร์ของกำลังผสมนาวิกโยธินไทยและอเมริกัน
เมื่อสงครามเย็นยุติลง สถานการณ์ด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไปโดยแนวโน้มของการเกิดสงครามขนาดใหญ่มีความเป็นไปได้น้อย พ.ศ. 2543การฝึกคอบร้าโกลด์จึงได้เพิ่มรูปแบบการฝึกให้มีปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม ภายใต้กรอบของสหประชาชาติเข้าไว้ด้วย เช่น การรักษาสันติภาพ การต่อต้านการก่อการร้าย การบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติ และอื่น ๆ มีการขยายขอบเขตการฝึกจากการฝึกแบบทวิภาคีเป็นการฝึกเป็นพหุภาคี โดยสิงคโปร์เป็นชาติแรกที่เข้าร่วม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ประเทศที่สนใจจัดผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกได้
เฮลิคอปเตอร์ MV-22 Osprey จากฝูงVMM 265 บินขึ้นจากเรือยกพลขึ้นบกโจมตี USS Bonhomme Richard (LHD 6) ขณะลอยลำในอ่าวไทย
Cobra Gold 2013
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจับมือกับประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ หรือการฝึกร่วม/ผสมทางการทหาร เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการทหาร และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันมาโดยตลอด โดยในปี 2556 นี้ การฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold 2013) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ ณ จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย ลพบุรี ชลบุรี และจันทบุรี มีประเทศที่เข้าร่วมการฝึกหลัก 7 ประเทศ คือ ไทย สหรัฐอเมริกา เกาลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ด้วยกำลังพลกว่า 13,000 นาย
ทหารเรืออเมริกันและทหารจากกองทัพบกอินโดนีเซียปฏิบัติการพัฒนาสัมพันธ์สร้างอาคารเอนกประสงค์โรงเรียนประถมบ้านเปียง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
การฝึกยิงปืนพกของทหารอเมริกัน(Beretta92ขนาด9MM)และทหารไทย (M1911ขนาด.45) สังเกตุทหารอเมริกันจะสวมแว่นเพื่อป้องกันสะเก็ดกระสุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนทหารไทยสวมใจเกิน100อย่างเดียว
ทหารจากกองทัพบกเกาหลีใต้และทหารจากกองทัพบกสหรัฐฯในพื้นที่การฝึกอ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
การฝึกซ้อมการเคลื่อนย้ายพลเรือน-1 (การฝึกในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ) ด้วยเฮลิคอปเตอร์ CH-46 Sea Knight
การฝึกซ้อมการเคลื่อนย้ายพลเรือน-2 (การฝึกในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ) ด้วยเฮลิคอปเตอร์ CH-53E Super Stallion
ยานสะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพสหรัฐฯ จากเรือยกพลขึ้นบกโจมตี USS Bonhomme Richard (LHD 6) ขณะฝึกซ้อมยกพลขึ้นบก
ทหารหญิงแห่งหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯทดลองดื่มเลือดงูเห่าสด
การฝึกยกพลขึ้นบกของกองกำลังผสม
เครื่องบินลำเลียงและเติมน้ำมันกลางอากาศ KC-130Jของนาวิกโยธินสหรัฐฯ กำลัง TAXI ณ สนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมา
เครื่องขับไล่/โจมตี F/A-18D Hornet ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ กำลังบินขึ้นจากสนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมา
เครื่องบินโจมตี/ฝึก L-39 Albatross ของกองทัพอากาศไทย กำลัง TAXI ณ สนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมา
เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย กำลัง TAXI ณ สนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมา
เครื่องบินลำเลียงและเติมน้ำมันกลางอากาศ KC-130J ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ กำลังเติมน้ำมันให้เครื่องขับไล่/โจมตี F/A-18D Hornet (ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับCobra Gold แต่อยากให้เห็นการเติมน้ำมันกลางอากาศครับ)
ภาพและข่าวจากสื่อInternetหลายหลายสำนักและFB ExerciseCobraGold
ต้มมาม่ารอ 55+
ທ່ານໃດ໋ກໍ່ໄດ້ ຊ່ອຍເວົ້າສູ່ຟັງແດ່ວ່າເປົ້າໝາຍຮ່ວມຂອງ 7 ປະເທດ: ສະຫະຣັຖອາເມຣິກາ ເກົາຫຼີໃຕ້ ຍີ່ປຸ່ນ
ໄທ ສິງຄະໂປ ອິນໂດນິເຊັຽແລະມາເລເຊັຽ ໃນການຊ້ອມຮົບຄັ້ງນີ້ແມ່ນຫຍັງ? ແລະເປັນຫຍັງຈຶ່ງໃສ່ຊື່ວ່າ
ລູເຫົ່າຄໍາ 2013 ? ຂອບໃຈ
Anonymous wrote:ທ່ານໃດ໋ກໍ່ໄດ້ ຊ່ອຍເວົ້າສູ່ຟັງແດ່ວ່າເປົ້າໝາຍຮ່ວມຂອງ 7 ປະເທດ: ສະຫະຣັຖອາເມຣິກາ ເກົາຫຼີໃຕ້ ຍີ່ປຸ່ນໄທ ສິງຄະໂປ ອິນໂດນິເຊັຽແລະມາເລເຊັຽ ໃນການຊ້ອມຮົບຄັ້ງນີ້ແມ່ນຫຍັງ? ແລະເປັນຫຍັງຈຶ່ງໃສ່ຊື່ວ່າລູເຫົ່າຄໍາ 2013 ? ຂອບໃຈ
ເກົາຫລີໃຕ້ ຍິປຸ່ນ ໄທ ສິຄະໂປ ມາເລເຊຍ ແລະອິໂດເນເຊຍ ເປັນປະເທດທີ່ມບໍ່
ແມ່ນ ຄມນ ແລະກໍມີພົມແດນນ່ານນ້ຳຄິດກັບທະເລຈີນທາງທິດເໜືອແລະໃຕ້
ທີ່ຖືກໜາບຂູ່ຈາກກອງທັບເຮືອປະເທດຈີນກ່ຽວກັບພົມແດນນ່ານນ້ຳ. ສະຫະ
ຣັດອາເມຣິກາຈຶ່ງຊ້ອມຮົບເພື່ອຕຽມໄວ້ຮັບມືກັບຈີນ. ຫລັງຈາກ ການຊ້ອມຮົບ
ງູເຫົ່າຄຳ ນີ້ແລ້ວ ສະຫະຣັດ ກໍຈະມີການຊ້ອມຮົບກັບກອງທັບເຮືອ ຫວຽດນາມ
ຂະເໝນ ພະມ້າ ອີກດ້ວຍ. ອາເມຣິກາມັນມາມີບົດບາດຢູ່ ອາຊີ ຕາເວັນອອກ
ຄັ້ງນີ້ແມ່ນຕ່າງເກົ່າກັບຕອນມັນມາອິດູຈີນໃນຄັ້ງກ່ອນນັ້ນ.
I participated in Cobra Gold back in 1989 as a member of 3rd Bn. 1st SFG (A). It used to be an annual training exercise between
US and Thailand, but it was put on hold during Iraqi Freedom. I had lots of fun back then...
Anonymous wrote:Cobra Gold การฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ASEANการเชิญธงชาติของประเทศที่เข้าร่วมในพิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2013 พิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2013 โดยตัวแทนจากประเทศไทย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ กำลังผสมนาวิกโยธินไทยและอเมริกันฝึกการโจมตีด้วยเรือยางติดเครื่องยนต์ คอบร้าโกลด์ (อังกฤษ: Cobra Gold ตัวย่อ: CG) เป็นการฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศไทย เริ่มครั้งแรกจากการฝึกทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2525 ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแบบพหุภาคีโดยมีประเทศอื่น ๆ เข้าร่วม ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น วัตถุประสงค์ของการฝึกคอบร้าโกลด์ คือ ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชาติต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในการฝึก นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาค การตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลังเหตุการณ์คลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 ส่วนหนึ่งเป็นผลที่ได้รับจากการฝึกร่วม/ผสมนี้การฝึกยิงปืนค.ด้วยกระสุนจริงของกำลังผสมนาวิกโยธินไทยและอเมริกันประวัติ หลังสงครามโลกครั้งที่สองและในยุคสงครามเย็น ประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มุ่งเน้นด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัจจัยภายนอกที่สำคัญได้แก่ภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ทั้งสองประเทศได้เริ่มมีการฝึกทางทหารร่วมกันในปี พ.ศ. 2499 เป็นการฝึกผสมยกพลขึ้นบกระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือและหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯต่อมาเพื่อให้การฝึกมีลักษณะบูรณาการมากขึ้น กองทัพไทยและกองทัพสหรัฐอเมริกาได้เริ่มการฝึกร่วม/ผสมภายใต้รหัส "คอบร้าโกลด์" ในปี พ.ศ. 2525 ครั้งนั้นกองทัพเรือไทยและกองทัพอากาศไทยจัดกำลังเข้าร่วมการฝึกโดยดำเนินการฝึกปฏิบัติการทางเรือ ทางอากาศ และการยกพลขึ้นบก ร่วมกับกองทัพเรือและนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา กำหนดรหัสว่า "คอบร้าโกลด์ 82"ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 กองทัพบกไทยได้จัดหน่วยรบพิเศษเข้าร่วมการฝึกอีกเหล่าทัพหนึ่ง กล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกร่วมและผสมครบทั้งสามเหล่าทัพเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากนั้นกองบัญชาการทหารสูงสุดได้เข้ารับผิดชอบดำเนินการฝึกคอบร้าโกลด์ 86 ในปี พ.ศ. 2529 โดยเน้นการฝึกหน่วยทหารในการปฏิบัติการรบตามแบบ ด้วยกำลังขนาดใหญ่ระดับกองกำลังเฉพาะกิจร่วมและผสม เข้าปฏิบัติการในยุทธบริเวณ และดำเนินการฝึกต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน มีกำลังจากกองทัพไทยทุกเหล่าทัพเข้าร่วมฝึกหมุนเวียนไปตามกองทัพภาคและกองเรือภาค ในปัจจุบันการฝึกคอบร้าโกลด์ถือได้ว่าเป็นการฝึกร่วมและผสมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้การฝึกใช้ชุดป้องกันอาวุธเคมี ชีวภาพ และกัมมันตภาพรังสีจากอาวุธนิวเคลียร์ของกำลังผสมนาวิกโยธินไทยและอเมริกัน เมื่อสงครามเย็นยุติลง สถานการณ์ด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไปโดยแนวโน้มของการเกิดสงครามขนาดใหญ่มีความเป็นไปได้น้อย พ.ศ. 2543การฝึกคอบร้าโกลด์จึงได้เพิ่มรูปแบบการฝึกให้มีปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม ภายใต้กรอบของสหประชาชาติเข้าไว้ด้วย เช่น การรักษาสันติภาพ การต่อต้านการก่อการร้าย การบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติ และอื่น ๆ มีการขยายขอบเขตการฝึกจากการฝึกแบบทวิภาคีเป็นการฝึกเป็นพหุภาคี โดยสิงคโปร์เป็นชาติแรกที่เข้าร่วม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ประเทศที่สนใจจัดผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกได้เฮลิคอปเตอร์ MV-22 Osprey จากฝูงVMM 265 บินขึ้นจากเรือยกพลขึ้นบกโจมตี USS Bonhomme Richard (LHD 6) ขณะลอยลำในอ่าวไทยCobra Gold 2013 ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจับมือกับประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ หรือการฝึกร่วม/ผสมทางการทหาร เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการทหาร และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันมาโดยตลอด โดยในปี 2556 นี้ การฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold 2013) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ ณ จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย ลพบุรี ชลบุรี และจันทบุรี มีประเทศที่เข้าร่วมการฝึกหลัก 7 ประเทศ คือ ไทย สหรัฐอเมริกา เกาลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ด้วยกำลังพลกว่า 13,000 นายทหารเรืออเมริกันและทหารจากกองทัพบกอินโดนีเซียปฏิบัติการพัฒนาสัมพันธ์สร้างอาคารเอนกประสงค์โรงเรียนประถมบ้านเปียง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่การฝึกยิงปืนพกของทหารอเมริกัน(Beretta92ขนาด9MM)และทหารไทย (M1911ขนาด.45) สังเกตุทหารอเมริกันจะสวมแว่นเพื่อป้องกันสะเก็ดกระสุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนทหารไทยสวมใจเกิน100อย่างเดียว ทหารจากกองทัพบกเกาหลีใต้และทหารจากกองทัพบกสหรัฐฯในพื้นที่การฝึกอ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัยการฝึกซ้อมการเคลื่อนย้ายพลเรือน-1 (การฝึกในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ) ด้วยเฮลิคอปเตอร์ CH-46 Sea Knightการฝึกซ้อมการเคลื่อนย้ายพลเรือน-2 (การฝึกในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ) ด้วยเฮลิคอปเตอร์ CH-53E Super Stallionยานสะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพสหรัฐฯ จากเรือยกพลขึ้นบกโจมตี USS Bonhomme Richard (LHD 6) ขณะฝึกซ้อมยกพลขึ้นบก ทหารหญิงแห่งหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯทดลองดื่มเลือดงูเห่าสดการฝึกยกพลขึ้นบกของกองกำลังผสม เครื่องบินลำเลียงและเติมน้ำมันกลางอากาศ KC-130Jของนาวิกโยธินสหรัฐฯ กำลัง TAXI ณ สนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมาเครื่องขับไล่/โจมตี F/A-18D Hornet ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ กำลังบินขึ้นจากสนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมาเครื่องบินโจมตี/ฝึก L-39 Albatross ของกองทัพอากาศไทย กำลัง TAXI ณ สนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมาเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย กำลัง TAXI ณ สนามบิน กองบิน1 จ.นครราชสีมาเครื่องบินลำเลียงและเติมน้ำมันกลางอากาศ KC-130J ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ กำลังเติมน้ำมันให้เครื่องขับไล่/โจมตี F/A-18D Hornet (ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับCobra Gold แต่อยากให้เห็นการเติมน้ำมันกลางอากาศครับ)ภาพและข่าวจากสื่อInternetหลายหลายสำนักและFB ExerciseCobraGold
CHINA AND RUSSIA ARE LAUGHING AT THEM..LOL..HA HA HA!!!
After 1975 ppl has been killed by commie about halft millions and took vietnamese became to replayed location who else was got killed. Trying made like same ...lao people still had 3 millions by that time.
ຝຶກໄປໂລດບໍ່ເກັ່ງຂື້ນດອກປະຫັຍດລູກປືນໄວ້ໃຫ້ທະຫານຍິງຄົນປະທວງດີກ່ວາຮາຯຯຯຯຊິມີປະໂຫຍດກ່ວາ
ບໍ່ມີຫຍັງໝົດ ເປົ້າໝາຍແມ່ນເພື່ອນາບຂູ່ປະເທດໃກ້ຄຽງ
ສ້າງຄວາມເຄັ່ງຕືງໃນພາກພື້ນ ເທົ່ານັ້ນລະ
เขาฝึกกันประจำอยู่ทุกปี ตั้งแต่ข้าน้อยยังบ่เกิด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525
บ่ว่าแต่ไทยดอก อยู่ประเทศอื่นๆเขากะมีโครงการฝึกร่วมแบบนี้ประจำ
ทหารเด้ เข้าใจคำว่าทหารอยู่บ่
ทหาร มันต้องฝึก
บ่เห็นมีหยังแปลก
ບໍ່ລອງເອົາປືນເຫລັກຍາວໄປຍີງຍົນນີ້ເບີ່ງຈັກໜ້ອຍແດ່ເນາະວ່າມັນຊິທົນບໍ່
ແລ້ວກໍ່ລອງເອົາ B41 ໄປເຈາະລົດຖັງນີ້ເບີ່ງຊິທົນຊຳ່ໃດ
ຂ້ອຍມັກຮູບຕອນທີທະຫານຍິງອ້າປາກຖ້າກິນເລຶອດງູສົດ ເບິ່ງແລ້ວຄືກັບຢູ່ໃນໜັງເລຶ້ອງໜຶ່ງທີ່ຂ້ອຍມັກ ເພາະວ່າຢູ່ໃນໜັງເລຶ້ອງນັ້ນ ເວລາໃກ້ຈະຈົບນາງເອກຈະນັ່ງຄູ້ເຂົ່າແລ້ວອ້າປາກແຍ່ລີ້ນອອກມາ ຄືແນວນີ້ລະ....
ສະຫະລັດ ອາເມລິກາ ຢ້ານ ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນຈີນ ຈົນຂີ້ແຕກລະເນາະບາດນິ ຫາຊ້ອມລົບສົງຄາມກັບປະເທດນັ້ນ ປະເທດນີ້ໃນແຖບອາຊີຕະເວັນອອກສຽງໄຕ້ ເນື່ອງມາຈາກກອງທັບອາກາດ ກອງທັບບົກ ກອງທັບເຮືອ ຂອງອາເມລິກາເອງຊຸດໂຊມຊະໂລໂຕເຕ ມາຈາກການເຮັດສົງຄາມກັບທະວີບອາຊີຕາເວັນອອກກາງ ອາເມລິກາເກັ່ງແຕ່ໃຊ້ກຳລັງທາງທະຫານຢ່າງດຽວ ທະຫານຕົນເອງຕາຍຫຼາຍກວ່າແສນຄົນຕົວະຊາວໂລກວ່າຕາຍແຕ່ສອງສາມໜື່ນ ນີ້ເອງເປັນສາເຫດໃຫ້ອາເມລິການັ່ງບໍ່ຕິດຕັ່ງ ສ່ວນຈີນຫັນສະຫຼາດປະໃຫ້ເສືອກັດກັນເອງ ແລ້ວຕົນເອງຈື່ງລົງມືຜະເດັດການພາຍຫຼັງ ຖ້າມອງເບີ່ງພາບລວມອາເມລິກາເສຍໄຊຕັ້ງແຕ່ສົງຄາມຍັງບໍ່ທັນໄດ້ເລີ່ມລະແຫຼ້ ເພາະອາເມລິກາມີສັດຕູຫຼາຍໂພດ ນັບຕັ້ງແຕ່ ປະເທດທີ່ນັບຖືສາສະໜາອິດສະລາມ ແລະ ປະເທດຄອມມູນີດ ພວກເຮົາຄົນລາວໝົດທຸກຄົນ ຄວນຈະຈັບຕາເບີ່ງຢ່າຊູຜິດຖຽງກັນ ສົງຄາມໂລກຄັ້ງທີສຸດທ້າຍ ອາດຈະເກີດຂື້ນໃນມໍ່ໆນີ້ກໍເປັນໄດ້ ຍ້ອນທຸກໆປະເທດເກີດມີຄວາມລະແວງເຊີ່ງກັນແລະກັນ ບໍ່ຮັກແພງກັນ
ຈະໄປຕົວະຊາວໂລກໄດ້ແນວໃດ ຕາຍເທົ່າໃດເຂົາກໍ່ບອກຕາມຈໍານວນ
Michael Moore ກໍ່ຍັງເວົ້າໂປ້ງໆວ່າ Bush ເອົາທະຫານໄປຕາຍໃນສົງ
ຄາມຕ້ານພວກກໍ່ການຮ້າຍໄກ້ຈະຮອດໝື່ນຄົນແລ້ວ , ບາດເຈັບຫັ້ນ
ຫຼາຍແສນແທ້. ພວກສື່ມວນຊົນອາເມຣິກັນບໍ່ໃຫ້ຣັຖບານຕົວະໄດ້ງ່າຍໆ
ໃດ໋ອາດຍາເອີຍ !
Anonymous wrote:ສະຫະລັດ ອາເມລິກາ ຢ້ານ ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນຈີນ ຈົນຂີ້ແຕກລະເນາະບາດນິ ຫາຊ້ອມລົບສົງຄາມກັບປະເທດນັ້ນ ປະເທດນີ້ໃນແຖບອາຊີຕະເວັນອອກສຽງໄຕ້ ເນື່ອງມາຈາກກອງທັບອາກາດ ກອງທັບບົກ ກອງທັບເຮືອ ຂອງອາເມລິກາເອງຊຸດໂຊມຊະໂລໂຕເຕ ມາຈາກການເຮັດສົງຄາມກັບທະວີບອາຊີຕາເວັນອອກກາງ ອາເມລິກາເກັ່ງແຕ່ໃຊ້ກຳລັງທາງທະຫານຢ່າງດຽວ ທະຫານຕົນເອງຕາຍຫຼາຍກວ່າແສນຄົນຕົວະຊາວໂລກວ່າຕາຍແຕ່ສອງສາມໜື່ນ ນີ້ເອງເປັນສາເຫດໃຫ້ອາເມລິການັ່ງບໍ່ຕິດຕັ່ງ ສ່ວນຈີນຫັນສະຫຼາດປະໃຫ້ເສືອກັດກັນເອງ ແລ້ວຕົນເອງຈື່ງລົງມືຜະເດັດການພາຍຫຼັງ ຖ້າມອງເບີ່ງພາບລວມອາເມລິກາເສຍໄຊຕັ້ງແຕ່ສົງຄາມຍັງບໍ່ທັນໄດ້ເລີ່ມລະແຫຼ້ ເພາະອາເມລິກາມີສັດຕູຫຼາຍໂພດ ນັບຕັ້ງແຕ່ ປະເທດທີ່ນັບຖືສາສະໜາອິດສະລາມ ແລະ ປະເທດຄອມມູນີດ ພວກເຮົາຄົນລາວໝົດທຸກຄົນ ຄວນຈະຈັບຕາເບີ່ງຢ່າຊູຜິດຖຽງກັນ ສົງຄາມໂລກຄັ້ງທີສຸດທ້າຍ ອາດຈະເກີດຂື້ນໃນມໍ່ໆນີ້ກໍເປັນໄດ້ ຍ້ອນທຸກໆປະເທດເກີດມີຄວາມລະແວງເຊີ່ງກັນແລະກັນ ບໍ່ຮັກແພງກັນ
Where did you get your info? We don't and will never lie about our casualties, that is the American way!
ໃຫ້ເຈົ້າຍ້ອງແລະຍໍຫາງໃຫ້ຈີນຢ່າວາງເດີ້ສະຫາຍ ບາດຈີນ
ຍ່ອງກັບຫວຽດນາມຍາມໃດບາດນັ້ນລະທີ່ສະຫາຍຈະບໍ່ຮູ້
ຈະຕັດສິນໃຈເຂົ້າຂ້າງໃດ? ແມ້ແຕ່ຫວຽດນາມຍັງອະນຸຍາດ
ໃຫ້ສະຫະຣັດເຂົ້າມາໃຊ້ທ່າເຮືອເກົ່າຂອງເຂົາຢູ່ດານັງ ແລະມີ
ແຜນການຊ້ອມຮົບນຳກັນໃນທະເລຈີນຕອນໃຕ້ຮ່ວມກັນທີ່
ມີປະເທດອາເມຣິກາ-ຫວຽດນາມ-ຂະເໝນ-ພະມ້າ ແລະ ຟີ
ລິບປິນ ໃນບໍ່ຊ້ານີ້.
ທ່ານ Leon Panetta ໄດ້ອອກມາຍອມຮັບຕໍ່ໜ້ານັກສື່ຂ່າວທົ່ວໂລກວ່າ ໃນປີ 2050 ຈີນຈະນໍາໜ້າ
ທາງດ້ານການທະຫານເພາະວ່າຈີນໄດ້ເພິ້ມງົບເຂົ້າໃນການທະຫານປີນຶ່ງ 30% ຂອງງົບປະມານແຫ່ງ
ຊາດ ໃນຂະນະທີ່ອາເມຣິກາຕັດງົບໃນປານປ້ອງກັນປະເທດປີລະ 50%.
ເມື່ອຖືກນັກຂ່າວປະເທດເວເນຊູເອລາຖາມວ່າ: ຫຼາຍສັດຕະວັດມານີ້ ອາເມຣິກາໄດ້ທຸ້ມເງິນ 692 ພັນ
ລ້ານຕໍ່ປີເພື່ອບໍາຣຸງກອງທັບຈົນມີ 5113 warheads ໃນຂະນະດຽວກັນ ຈີນໄດ້ທຸ້ມງົບປະມານປີນຶ່ງ
ພຽງແຕ່ 100 ພັນລ້ານເຂົ້າໃນການປ້ອງກັນປະເທດ ແລະມີ 240 warheads, ທ່ານຈະອະທິບາຍ
ໃຫ້ພວກເຮົາຮູ້ຕື່ມໄດ້ບໍ?
ເມື່ອພົບທາງຕັນ ທ່ານ Leon Panetta ກໍ່ຟ້າວຫຼົບເຂົ້າເຕັນໂດຍບໍ່ໃຫ້ຄໍາຕອບຫຍັງເລີຍ !
มหามิตรที่แท้จริงของไทย ไม่ใช่อเมริกาหรอกครับ เอาประวัติศาสตร์มาตีแผ่ให้ฟัง
คนไทยบางคน และประเทศอื่นคงคิดไม่ึถึง มิตรแท้เขาดูกันตอนที่ตกทุกข์ได้ยาก
ไทยเปิดสงครามอินโดจีนครั้งล่าสุดกับเวียดนาม ในขณะนั้นเขาเรียกสงคราม
ช่องบก ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งที่ตรงนั้นเขาเรียกสามเหลี่ยม
มรกต เป็นรอยต่อ 3 ประเทศ คือ ไทย เขมร ลาว ในขณะนั้นเวียดนามยึดลาว
เขมรไว้ได้หมดสิ้น กำลังจะยึดอีสานของไทยรวมเข้าเป็นพื้นที่อินโดจีนรอบใหม่
แทนฝรั่งเศส หลังจากอเมริกาถอนกำลังทหารกลับ ได้ทิ้งอาวุธและยุทโธปกรณ์
ทางทหารไว้ อย่างมากมายเลยครับ เวียดนามในขณะนั้นมีกองทัพที่ใครก็สู้ได้ยาก
ได้ยึดพื้นที่ของจังหวัดอุบลเข้ามา 3 ก.ม. ทำให้ทหารไทยต้องผลักดันออกไป
ศึกนี้ยืดเยื้อสู้กัน 2 ปี ไม่มีแพ้ชนะ จีนในขณะนั้นมีความหวั่นไหวทันที่ หากเวียดนาม
ยึดไทยได้ เวียดนามจะเป็นมหาอนาจทันทีในภูมิภาคนี้ จีนเลยต้องส่งกำลังทหาร
เข้ามาสั่งสอนเวียดนาม โดยจีนข้ามพรมแดนเข้าแล้วกำลังจะยึดเมืองหลวง
เวียดนามได้แล้วแต่ไม่ทำกลับถอนกำลังทหารกลับ จีนบอกได้รับชัยชนะแล้ว
เพราะการบุกของจีนในขณะนั้น เวียดนามต้องถอนกำลังทหาร ที่อำเภอน้ำยืน และที่
ลาวและเขมรกลับประเทศโดยด่วนเพื่อไปป้องกันเมืองหลวงจากจีน
สงครามร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.เพชรบูรณ์ ไทยเปิดศึกกับลาว โดยมีข้อพิพาท
จากการแบ่งปันเขตแดน ไทยได้ยิงปืนใหญ่ กว่า 3 หมื่นนัด จนลูกปืนใหญ่ของไทย
หมดประเทศ ไทยร้องขอไปที่อเมริกา อเมริกาไม่ให้ความช่วยเหลือ พลเอกเชาวลิต
ยงใจยุทธ ผบ.ทบ. ในขณะนั้น จึงตัดสินใจส่งทูตลับพิเศษไปประเทศจีน ขอความช่วย
เหลือจากจีน จีนได้ให้ปืนใหญ่พร้อมลูกกระสุน ทำให้กองทัพไทยมีปืนใหญ่ใช้ทันที
หลังจากไทยใช้ปืนใหญ่จีนยิงไปตกที่ฝั่งลาว ทำให้ลาวยอมเจรจาสงบศึกทันที่
สาเหตุ เพราะไทยไม่ได้รบเพียงลำพังแล้วแต่มีมหาอำนาจคือจีน ให้ความช่วยเหลือ
สงครามครั้งนั้นจบลงโดยการเจรจา โดยท่านไกสอน พรมวิหาร กับรัฐบาลไทย
เจรจาสงบศึกที่กรุงเทพ สงคราครั้งนั้น ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน
ปัจจุบันนอกจากไทยจะซ้อมรบกับอเมริกาและประเทสรอบข้างแล้ว ไทยยังได้ซ้อมรบ
ร่วมกับจีนอีก ทั้งที่การปกครองของทั้ง 2 ประเทศต่างกันสุดขั้วเลย การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย และคอมมิวนิส แต่เป็นมหามิตรกันได้ โดยมีประเทศจีนประเทศเดียวที่
มีการปกครองในะบอบคอมมิวนิสที่ไทยซ้อมรบทางทหารด้วยมาตลอด จีนได้ให้การช่วยเหลือ
กองทัพไทยหลายๆด้านเช่น ขายรถถัง รุ่น T-69 ให้ไทยในราคาถูกแทบจะให้ฟรีเลยก็ว่าได้
ผ่านไปกว่า 30 ปี รถถังรุ่นนี้เสียหมดแล้วใช้การไม่ได้จอดทิ้ง เกือบหมด แต่พี่จีนใจดี
ซ่อมรถถังรุ่นนี้ แถมอัพเกรดให้ทันสะไหมอีกต่างหาก โดยไม่เสียเงินเลยซักบาทเดียว
(คอบบร้าโกล ไม่มีจีนเพราะจีนไม่ถูกกันกับอเมริกา) และไทยกับจีนซ้อมรบกันโดยไม่มีชาติอื่น
ไทยกับจีนไม่มีพืนที่ทางบกและทะเลติดกัน ทำให้ไม่เกิดข้อพิพาท เหมือนกับที่จีนมีกับอีกหลาย
ประเทศที่มีพื้นที่ติดกัน
ຢາກໄດ້ຍີນປັນຍາຊົນຫຼືຜູ້ບໍລິຫານງານຕ່າງໆຢູ່ໃນປະເທດຂອງ...ສປປລາວ...ຕອບພາບການຊ້ອມຮົບລະຫ່ວາງ
ກອງທັບຣາຊະອານາຈັກໄທແລະກອງທັບປະຊາຊົນຈີນຈະມີຂໍ້ຄິດເຫັນກັບສາເຫດນີ້ຢ່າງໃດ?
ເຊີນພາກັນອອກມາເຫົ່າຫອນຕາມວິທີປັນຍາແກ້ຕົວແບບ(ບັກຊຽງໝ້ຽງ)ລອງເບິ່ງ ມັນຈະເປັນແນວໃດ?
ຢ່າເວົ້າໄປແກ້ ສະຫຼິບແມ່ສູເດິ! ມັນເໝັນຫຼາຍຄົນບໍ່ມັກນຳ.
สงครามในอดีตเป็นบทเรียนของไทย ที่ทำให้รู้ว่าใครคือมิตรแท้ หรือมิตรเทียม