Pasalao

parn dai nam c teum thai eek wa.

zack wrote:

---

parn dai nam c teum thai eek wa.

---

 ลาวท่วมหนักจนเขื่อนน้ำเทิน 2 ต้องหยุดปั่นไฟ

ทางการลาวรายงานว่าพายุนกเต็นที่พัดเข้าเขตภาคกลางและภาคใต้ของลาวในปลายเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนสิงหาคมนี้ได้ส่งผลทำให้ประชาชนลาวในพื้นที่กว่า 200 หมู่บ้านในเขตแขวงคำม่วนต้องเผชิญกับภัยน้ำท่วมอย่างหนักในเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขตเมืองมหาไซกับเมืองเซบั้งไฟนั้นนับเป็นเขตที่ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงที่สุด เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเซบั้ง ไฟได้สูงขึ้นถึง 21.29 เมตร ในขณะที่ระดับเตือนภัยอยู่ที่ 18.5 เมตร

 

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เมืองท่าแขกก็สูงถึง 13.16 เมตร ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่าระดับอันตรายแล้วนั้น นอกจากจะทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำเซบั้งไฟไม่สามารถไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้แล้วก็ยังได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงเขื่อนน้ำเทิน 2 ที่เมืองนากายอีกด้วย เนื่องจากภัยน้ำท่วมอย่างหนักนั้นทำให้เขื่อนน้ำเทิน 2 จำต้องหยุดการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยน้ำ ลงมาซ้ำเติมภัยน้ำท่วมในเขตตอนล่างของเขื่อน (เมืองมหาไซและเมืองเซบั้งไฟ) ทั้งๆที่ในช่วงก่อนการก่อสร้างเขื่อนนั้น ทั้งรัฐบาลลาว ธนาคารโลกและกลุ่มผู้ลงทุนนั้นต่างก็ได้ประสานเป็นเสียงเดียวกันว่าเขื่อนน้ำเทิน 2 ไม่เพียงจะช่วยลดปัญหาความยากจนของประชาชนลาวเท่านั้น หากยังจะช่วยต้านภัยแล้งและภัยน้ำท่วมในเขตตอนล่างของเขื่อนอีกด้วย

 

ทางด้าน สุซาด ไซยะกุมาน รองหัวหน้าห้องการ (รองปลัด) กระทรวงกสิกรรม-ป่าไม้ของลาว ยอมรับว่าลาวต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติหนักขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยแล้งและภัยน้ำท่วมนั้นยังได้ส่ง ผลกระทบต่อแผนการเสริมสร้างความมั่นคงด้านเสบียงอาหารของลาว ทั้งก็ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงแผนการลบล้างความยากจนของประชาชนลาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากว่าภัยแล้งและภัยน้ำท่วมนั้นได้ทำให้การผลิตในภาคการเกษตรของลาวไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนเกษตรกรลาวก็ต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นด้วยนั่นเอง

 

โดยในเวลานี้ ก็ปรากฏว่ามีประชาชนนับแสนคนที่อยู่ในแขวงคำม่วน สะหวันนะเขต และจำปาสัก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภัยน้ำท่วมที่มากับพายุนกเต็น เนื่องจากมีพื้นที่การเกษตรและที่นากว้างกว่า 5 หมื่นเฮกตาร์ที่จมอยู่ใต้น้ำ ส่วนบ้านเรือนของประชาชน อาคารสำนักงานของรัฐบาลและโครง สร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน ไฟฟ้า โทรศัพท์ และคลองชลประทาน เป็นต้น ก็เสียหายไปเป็นอันมาก

 

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของลาว ได้รายงานผลการสำรวจว่าภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในแขวงเวียงจันทน์ บอลิคำไซ เซียงขวาง หัวพัน คำม่วน อุดมไซและไซยะบุลี ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนั้นได้ทำให้ประชาชนลาวเสียชีวิตไปถึง 17 คน ส่วนทรัพย์สินของประชาชน และโครง สร้างพื้นฐานต่างๆ ก็เสียหายไปมากกว่า 7 แสนล้านกีบหรือกว่า 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่เสียหายมากที่สุดนั้นก็คือแขวงเซียงขวาง ติดตามด้วยแขวงไซยะบุลี แขวงเวียงจันทน์ แขวงบอลิคำไซ คำม่วน อุดมไซและหัวพันตามลำดับ ในขณะที่ประชาชนลาวนับแสนได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมดังกล่าว

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

zack wrote:

---

parn dai nam c teum thai eek wa.

---

 ลาวท่วมหนักจนเขื่อนน้ำเทิน 2 ต้องหยุดปั่นไฟ

ทางการลาวรายงานว่าพายุนกเต็นที่พัดเข้าเขตภาคกลางและภาคใต้ของลาวในปลายเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนสิงหาคมนี้ได้ส่งผลทำให้ประชาชนลาวในพื้นที่กว่า 200 หมู่บ้านในเขตแขวงคำม่วนต้องเผชิญกับภัยน้ำท่วมอย่างหนักในเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขตเมืองมหาไซกับเมืองเซบั้งไฟนั้นนับเป็นเขตที่ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงที่สุด เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเซบั้ง ไฟได้สูงขึ้นถึง 21.29 เมตร ในขณะที่ระดับเตือนภัยอยู่ที่ 18.5 เมตร

 

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เมืองท่าแขกก็สูงถึง 13.16 เมตร ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่าระดับอันตรายแล้วนั้น นอกจากจะทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำเซบั้งไฟไม่สามารถไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้แล้วก็ยังได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงเขื่อนน้ำเทิน 2 ที่เมืองนากายอีกด้วย เนื่องจากภัยน้ำท่วมอย่างหนักนั้นทำให้เขื่อนน้ำเทิน 2 จำต้องหยุดการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยน้ำ ลงมาซ้ำเติมภัยน้ำท่วมในเขตตอนล่างของเขื่อน (เมืองมหาไซและเมืองเซบั้งไฟ) ทั้งๆที่ในช่วงก่อนการก่อสร้างเขื่อนนั้น ทั้งรัฐบาลลาว ธนาคารโลกและกลุ่มผู้ลงทุนนั้นต่างก็ได้ประสานเป็นเสียงเดียวกันว่าเขื่อนน้ำเทิน 2 ไม่เพียงจะช่วยลดปัญหาความยากจนของประชาชนลาวเท่านั้น หากยังจะช่วยต้านภัยแล้งและภัยน้ำท่วมในเขตตอนล่างของเขื่อนอีกด้วย

 

ทางด้าน สุซาด ไซยะกุมาน รองหัวหน้าห้องการ (รองปลัด) กระทรวงกสิกรรม-ป่าไม้ของลาว ยอมรับว่าลาวต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติหนักขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยแล้งและภัยน้ำท่วมนั้นยังได้ส่ง ผลกระทบต่อแผนการเสริมสร้างความมั่นคงด้านเสบียงอาหารของลาว ทั้งก็ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงแผนการลบล้างความยากจนของประชาชนลาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากว่าภัยแล้งและภัยน้ำท่วมนั้นได้ทำให้การผลิตในภาคการเกษตรของลาวไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนเกษตรกรลาวก็ต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นด้วยนั่นเอง

 

โดยในเวลานี้ ก็ปรากฏว่ามีประชาชนนับแสนคนที่อยู่ในแขวงคำม่วน สะหวันนะเขต และจำปาสัก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภัยน้ำท่วมที่มากับพายุนกเต็น เนื่องจากมีพื้นที่การเกษตรและที่นากว้างกว่า 5 หมื่นเฮกตาร์ที่จมอยู่ใต้น้ำ ส่วนบ้านเรือนของประชาชน อาคารสำนักงานของรัฐบาลและโครง สร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน ไฟฟ้า โทรศัพท์ และคลองชลประทาน เป็นต้น ก็เสียหายไปเป็นอันมาก

 

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของลาว ได้รายงานผลการสำรวจว่าภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในแขวงเวียงจันทน์ บอลิคำไซ เซียงขวาง หัวพัน คำม่วน อุดมไซและไซยะบุลี ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนั้นได้ทำให้ประชาชนลาวเสียชีวิตไปถึง 17 คน ส่วนทรัพย์สินของประชาชน และโครง สร้างพื้นฐานต่างๆ ก็เสียหายไปมากกว่า 7 แสนล้านกีบหรือกว่า 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่เสียหายมากที่สุดนั้นก็คือแขวงเซียงขวาง ติดตามด้วยแขวงไซยะบุลี แขวงเวียงจันทน์ แขวงบอลิคำไซ คำม่วน อุดมไซและหัวพันตามลำดับ ในขณะที่ประชาชนลาวนับแสนได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมดังกล่าว

---

 ลาวเจอน้ำท่วมสาหัสถึง4ระลอก ตาย30อีก430,000คนเดือดร้อน

ลาวปีนี้ประสบอุทกภัยหนักหน่วงที่สุด พายุ 2 ลูกกับฝนที่ตกหนักติดต่อกันตลอด 3 เดือน ทำให้เกิดน้ำท่วมถึง 4 ระลอก เหนือจรดใต้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คน อีก 429,954 คน ได้รับผลกระทบโดยตรง ในขณะที่รัฐบาลกำลังระดมความเหลือช่วยเหลือราษฎรในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งน้ำท่วมมาตั้งแต่กลางเดือนนี้

อุทกภัยครอบคลุม 96 เมือง (อำเภอ) ใน 12 แขวง (จังหวัด) รวมราษฎรได้รับผลกระทบโดยตรง 1,790 ครัวเรือน พื้นที่ทำการผลิต 64,472 เฮกตาร์ (กว่า 4 แสนไร่) ถูกน้ำท่วม เส้นทางคมนาคมเสียหายรวม 323 สาย สะพานถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย 42 แห่ง

นอกจากนั้น ยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล ระบบไฟฟ้า น้ำประปา แหล่งท่องเที่ยว แหล่งพื้นฐานด้านอุตสาหกรรมและการค้า สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน หนังสือพิมพ์ “กองทัพประชาชน” รายงานตัวเลขทั้งหมดนี้จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีประจำเดือน ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 22-23 ก.ย.ที่ผ่านมา ในนครเวียงจันทน์

รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงกับหน่วยงานต่างๆ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายให้คืนสู่สภาพปรกติโดยเร็ว หนังสือพิมพ์ของกระทรวงป้องกันประเทศฉบับนี้ กล่าว

ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ระดมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยรวมเป็นเงินเกือบ 1,000 ล้านกีบ (กว่า 3.7 ล้านบาท) นอกจากนั้น ยังมีความช่วยเหลือจากภาคเอกชน สถานทูตบางประเทศ รวมทั้งองค์การระหว่างประเทศและองค์การเพื่อการกุศลต่างๆ อีกจำนวนมาก

ฝนที่ตกหนักจากพายุ “ไหหม่า” ในปลายเดือน มิ.ย.ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง น้ำป่าไหลหลาก ดินเลื่อนและดินถล่ม ใน 4 แขวงภาคกลางกับภาคเหนือ โชคดีที่ในเขตที่เกิดภัยพิบัติมีราษฎรอาศัยอยู่เบาบาง

เพียงข้ามสัปดาห์ พายุ “นกเต็น”ได้พัดเข้าอีกลูกหนึ่ง ทำให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมใหญ่อีกระลอก จนระดับน้ำในสาขาต่างๆ ของแม่น้ำโขงเอ่อขึ้นสูงตั้งแต่แขวง เชียงขวาง ไซยะบูลี เวียงจันทน์ และนครเวียงจันทน์ บอลิคำไซ และ คำม่วน ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำโขงสายหลักเพิ่มระดับขึ้นสูงในเวลาต่อมา และเกิดน้ำท่วมสาหัสที่สุดในหลายเมืองของแขวงจำปาสักที่อยู่ตอนใต้สุดของแม่น้ำสายสำคัญนี้

จากนั้นก็ยังเกิดฝนตกติดต่อกันมาไม่หยุด โดยตกหนักช่วงวันที่ 17 ก.ย.ในแขวงเวียงจันทน์ กับแขวงเชียงขวาง ซึ่งเป็นเขตป่าต้นน้ำ ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสาขาสูงขึ้นไม่หยุด และเกิดน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. จนปัจจุบันยังคงท่วมกินบริเวณกว้างในหลายเมืองของแขวงเวียงจันทน์ สาหัสที่สุดในเขตเมืองทุละคม ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่

สัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรี ทองสิง ทำมะวง ได้นำคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์สำรวจอาณาบริเวณน้ำท่วม และเยี่ยมเยียน แจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ตลอดจนมอบเงินเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยกว่า 1,300 หลังคาเรือน หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์ฉบับนี้ระบุ

ทางการในท้องถิ่น กล่าวว่า การปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำงึมเป็นปริมาณมากในช่วงที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในแขวงเวียงจันทน์ขณะนี้ แต่สัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่บริษัทผลิตไฟฟ้าลาวจำกัด ได้ออกแถลงว่าน้ำจากเขื่อนไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในขณะนี้

ช่วงที่ผ่านมาสื่อของทางการได้รายงานข่าวและตีพิมพ์ภาพถนนทางเข้าเขื่อนน้ำงึมที่ได้รับความเสียหายหนักจากฝนตกหนักเช่นกัน โดยถนนตอนที่ผ่านไหล่เขาถูกตัดขาดไปช่วงหนึ่ง เนื่องจากเกิดดินถล่ม

---

 ลาวก็เจอน้ำท่วมข่าวเงียบจัง ไทยน้ำท่วมทีแม่งเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก