Pasalao

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ມື້ທີ່ວັນໂສກເສົ້າ ແລະ ລືມບໍ່ໄດ້ທີ່ ອາເມຣິກາ...9-11-2001
Anonymous

Date:
ມື້ທີ່ວັນໂສກເສົ້າ ແລະ ລືມບໍ່ໄດ້ທີ່ ອາເມຣິກາ...9-11-2001


ຂໍໃຫ້ດວງວິນຍານຂອງຜູ້ທີ່ເສຍຊີວິດຈົ່ງໄປທີ່ສຸຂຄະຕິດ້ວຍເທີ້ນ...worship.gif

17172782693510330953.jpg



__________________
Anonymous

Date:
RE: ມື້ທີ່ວັນໂສກເສົ້າ ແລະ ລືມບໍ່ໄດ້ທີ່ ອາເມຣິກາ...9-11-2001


ຂໍກົ້ມຫົວໄຫວ້ອາໄລນໍາຜູ່ທີ່ປະສົບເຄາະຮ້າຍທຸກໆຄົນ.



__________________
Anonymous

Date:

ມີຄົນລາວຕາຍບໍໃນເຫດການຄັ້ງນັ້ນ?



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

ມີຄົນລາວຕາຍບໍໃນເຫດການຄັ້ງນັ້ນ?


 ຕາມທີ່ເຄີຍຕິດຕາມຟັງຂ່າວວິໂອເອ ຄືບໍ່ປາກົດໄດ້ຍິນຂ່າວວ່າມີຄົນລາວເສັຽຊີວິດໃນເຫດການນີ້

ໄດ້ຍິນແຕ່ວ່າມີຄົນລາວເປີດຮ້ານອາຫານຢູ່ໄກ້ໆແຖວນັ້ນ ແລະມີຄົນລາວເປັນພະນັກງານດັບເພີງ

ໄດ້ສ່ຽງຊີວິດເຂົ້າໄປຊ່ອຍເຫຼືອຜູ່ປະສົບເຄາະຮ້າຍຕອນເກີດເຫດ.



__________________
Anonymous

Date:

ເປັນຕາສົງສານປະຊາຊົນຜູ້ເປັນຍາດມິດຂອງຜູ້ເຄາະຮ້າຍຊຶ່ງເປັນຜູ້ຮັບກັມແທນລັດຖະບານ, ຜູ້ກໍ່ກັມທຳເຂັນ ກົດຂີ່ຂົ່ມເຫັງຄົນທົ່ວໂລກ ພຽງແຕ່ເພື່ອຜົນປະໂຫຽດຂອງພວກພ້ອງເຂົາແມ່ນ ຕະກຸນ ຈອດບູດ ແລະຄະນະລັດຖະບານຂອງມັນ ພວກນີ້ສົມຄວນປະຫານ 1,000 ຊົ່ວໂຄດ ມັນໄປສ້າງເຄາະກັມໃຫ້ປະເທດອື່ນແຕ່ມັນກັບສະເຫວຍສຸກຢູ່ເຮືອນມັນ ຜູ້ຮັບກັມແມ່ນພົນລະເມືອງອາເມລິກາທຸກໆຄົນ.



__________________
Anonymous

Date:

“ดร.เทียนชัย” ชำแหละ 11 กันยา ซีไอเอรู้ความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อการมาโดยตลอด แต่จงใจปล่อยให้ทำ เพียงเพื่อเป็นข้ออ้างถล่มอัฟกานิสถาน-อิรัก เปิดทางโกยผลประโยชน์มหาศาลฟื้นเศรษฐกิจประเทศ พร้อมหวังผลขัดขวางการเติบใหญ่ของจีน ชี้ “อิหร่าน” เป้าหมายต่อไป ถ้า “มิตต์ รอมนีย์” จากรีพับลิกันได้เป็นประธานาธิบดีมีโอกาสเกิดสงครามใหญ่ 
       
       วันที่ 11 ก.ย. 55 ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ นักเขียนนามปากกา “ยุค ศรีอาริยะ” ได้กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยา อเมริกาเกิดฟองสบู่แตกตอนปี 2000 เวลาเศรษฐกิจทรุด มีวิธีการแก้หลายแบบ แต่มีวิธีหนึ่งที่เคยใช้ในช่วงสงครามโลก เรียกว่าลัทธิเคนส์เซียน คือรัฐจะเข้าไปกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดการจ้างงาน แต่มีเคนส์เซียนอีกอันเรียกว่า เคนส์เซียนทางทหาร วิธีนี้ทำให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยใช้เงื่อนไขต่างๆ ในการก่อสงคราม เวลาทำต้องนึกให้ดีทำแล้วต้องโกยผลประโยชน์มาให้ได้มาก เคยถูกใช้ในสมัยฮิตเลอร์ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจเยอรมันตกต่ำ ก็เลยใช้ลัทธิเคนส์เซียนทางทหารบุกประเทศอื่นแล้วโกยความมั่งคั่งกลับมา
       
       ก่อนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยา ตนเคยนึกสงสัยว่าอเมริกาจะกล้าใช้สูตรนี้หรือเปล่า เพราะถ้าใช้จะต้องมีเงื่อนไขในการอ้างทำสงคราม ซึ่งตอนนั้นมีผู้ก่อการร้ายที่สามารถก่อสถานการณ์แบบสาสากลได้ มีอยู่เพียงกลุ่มเดียว คือ อัลกออิดะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจากฝีมือของอเมริกาเอง โดยร่วมกับซาอุฯ เป็นแบ็กอัพให้เกิดอัลกออิดะห์ เพื่อเคลื่อนไหวล้มอิทธิพลของรัสเซียที่เข้ามาที่อัฟกานิสถาน
       
       พอเห็นเครื่องบินชนตึก ตนรู้เลยว่าอเมริกาคิดใหญ่มาก ปั้นน้ำเป็นตัวแบบน่ากลัวมาก ทฤษฎีเก่าๆ ถูกเอามาใช้แล้ว เหมือนกับเป็นการสร้างภาพครั้งใหญ่ หลอกคนทั้งโลกเพียงเพื่อเงื่อนไขในการประกาศสงคราม พอทั้งโลกเห็นว่าถึงขั้นชนตึก คนตายเกือบ 3 พันคน มันใหญ่พอที่จะอ้างความชอบธรรมในการประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้ายที่มีเพียงกลุ่มเดียว
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวต่อว่า ตนขอใช้คำว่าอเมริกาเปิดเงื่อนไขให้มีการโจมตี ภายหลังมีการเช็กข้อมูลพบว่า คนทำเป็นนักศึกษาซาอุฯ ที่เข้ามาเรียนแถวยุโรปจำนวน 18 คน ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่อัลกออิดะห์ แล้วการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มนี้ ซีไอเอรับรู้มาตลอดว่ากลุ่มนี้คิดอะไรอยู่ แต่เขาปล่อยให้เด็กทำ แล้วมันง่ายหรือที่เด็ก 18 คนจะปล้นเครื่องบินได้ถึง 4-5 ลำ ถ้าซีไอเอรู้มาโดยตลอด
       
       ที่น่าสงสัยกว่านั้น คือ ที่เพนตากอน ข่าวออกว่ามีเครื่องบินชนเพนตากอน แต่ตรวจสอบหลังจากนั้นไม่พบแม้แต่ซากเครื่องบิน มีแค่ระเบิด ซึ่งใครทำก็ไม่รู้ แสดงว่าอาจไม่มีการจี้เครื่องบินเกินกว่า 2 ลำ คนอเมริกาเองก็เริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการสร้างหนังเรื่อง 9/11 หนังได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจ คือ หลังจากเกิดเหตุการณ์มีการสั่งปิดสนามบิน ห้ามเครื่องบินออกเลย แต่มีเครื่องบินลำหนึ่งบินออกไปได้ พบว่าผู้โดยสารในเครื่องบินลำนั้นล้วนแต่มีชื่อลงท้ายด้วย “บิน ลาดิน” คนตระกูลบิน ลาดิน ส่วนใหญ่เรียนที่อเมริกาเยอะ มีที่เป็นนักธุรกิจด้วย โดยตระกูลบิน ลาดินนั้นทำธุรกิจใกล้ชิดกับกษัตริย์ซาอุฯ พอหลังจากให้ออกจากประเทศ อเมริกาก็ประกาศว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์คือบินลาเด็น
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวอีกว่า ในยุคนั้นเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อเมริกากังวลว่าโลกจะพลิกผัน ซึ่งจีนนั้นผลิตอุตสาหกรรม จึงต้องขึ้นอยู่กับน้ำมันเป็นหลัก ถ้าอเมริกาควบคุมแหล่งน้ำมันได้ก็เอาจีนอยู่ ตอนนั้นจีนกำลังพุ่งเป้าไปลงทุนน้ำมันในย่านประเทศยุโรปตะวันออกที่แตกออกมาจากรัสเซีย นี่คือแหล่งน้ำมันใหญ่อันดับสองของโลกรองจากตะวันออกกลาง แต่ออกสู่ทะเลไม่ได้ จะออกสู่ทะเลต้องผ่านอัฟกานิสถาน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้อเมริกาเลือกที่จะโจมตีอัฟกานิสถาน โดยอ้างว่าให้ที่หลบซ่อนแก่บิน ลาดิน น่าแปลก ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แค่ใช้ทหารปิดล้อมก็เอาอยู่แล้ว แต่นี่โจมตีและยึดครอง ก็เพื่อยุทธศาสตร์ในการปิดเส้นทางลำเลียงน้ำมันจากยุโรปตะวันออกเข้าจีน แล้วหลังจากยึดอัฟกานิสถานแล้ว ยังไม่ติดตามตัวบินลา ดิน แต่ดันไปอิรักต่อ อ้างว่าซัดดัมหนุนผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่ซัดดัมไม่เคยรู้จักกับอัลกออิดะห์เลย ไม่เกี่ยวพันกันแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะอิรักคือแหล่งน้ำมันอันดับสองของตะวันออกกกลางรองจากซาอุฯ ซึ่งซาอุฯ เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ อยู่แล้ว ถ้ายึดสองที่นี้ได้ สหรัฐฯ ก็คุมน้ำมันโลกได้แล้ว
       
       หลังก่อสงคราม เศรษฐกิจอเมริกาก็ฟื้น เพราะเมื่อมีสงคราม รัฐบาลจะสั่งซื้ออาวุธมหาศาลจากบริษัทค้าอาวุธ เกิดการจ้างคนเพิ่ม มีการขนคนนับแสนไปทำสงครามด้วยค่าจ้างค่อนข้างสูง นี่คือการฟื้นเศรษฐกิจด้วยยุทธศาสตร์ทางทหาร แก้ได้ทั้งเศรษฐกิจฟองสบู่ และสถาปนาตัวเองขึ้นมามีอำนาจเหนือระบบโลกได้ด้วย ทำสองประเด็นพร้อมๆ กัน
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นดูเหมือนสหรัฐฯ จะทำสำเร็จในการควบคุมตะวันออกกลาง ปิดทางออกของแหล่งน้ำมัน ยึดครองอิรักได้ เหมือนระบบโครงสร้างอำนาจ อเมริกาสามารถจัดระเบียบโลกใหม่ได้แล้ว เศรษกิจฟื้นตัว จนกระทั่งมาเกิดแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส นั่นก็เพราะว่าอเมริกาพยายามทำให้เศรษฐกิจจีนทรุดให้ได้ ช่วงหนึ่งพยายามดันราคาน้ำมันให้สูง โดยอ้างว่าน้ำมันกำลังจะหมดโลก จนกระทั่งเศรษฐกิจย่านเอเชียสั่นคลอนเป็นทิวแถว จีนเองก็กระทบแต่พยายามฝืนราคาตลาด สู้อยู่ 1-2 ปี ทีนี้ปัญหาน้ำมันแพงมันย้อนไปที่อเมริกา แต่อเมริกาไม่คิดว่าฟองสบู่จะแตก เผอิญมีจุดอ่อนคือซับไพรม์ ยอมให้คนไม่มีรายได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ พอราคาน้ำมันแพง คนไม่มีเงินเลยหยุดการจ่ายหนี้ อเมริกาคิดไม่ถึงตรงนี้ว่ามันจะย้อนกลับมาทำให้ประเทศตัวเองฟองสบู่แตกรอบสอง
       
       ดร.เทียนชัยยังกล่าวว่า อเมริกาเล็งถล่มอิหร่าน แต่ต้องคิดเยอะเพราะพื้นที่ใหญ่ แล้วคนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งฐานชีอะห์ใหญ่มาก ถ้าเปิดศึกอิหร่านต้องใช้สงครามใหญ่ อิสราเอลพยายามดึงแผนสงครามนี้เพื่อให้อเมริกาโจมตีอิหร่านให้ได้ คนรับแผนก็คือรีพับลิกัน ซึ่งถ้าหากนายมิตต์ รอมนีย์ ได้เป็นประธานาธิบดี อาจเปิดแผนนี้ แต่นายโอบามาไม่เอาแน่ เพราะเกรงว่าถ้าพลาดไม่คุ้ม อาจปิดประวัติศาสตร์อเมริกาเลยก็ได้



__________________
Anonymous

Date:

ຫລັງຈາກເຫດການດັ່ງກ່າວນີ້ ໄດ້ເກີດມີຂໍ້ສົງໃສຫລາຍຢ່າງວ່າ ລັດຖະບານອາເມລິກາ ເປັນຜູ້ຈັດສາກ (inside job), ດັ່ງທີ່ເຄີຍເຮັດຜ່ານມາໃນຫລາຍໆເຫດການໃນປະຫວັດສາດ, ໂດຍມີຈຸດປະສົງເພື່ອຮຸກຮານອີຣັກໃນໄລຍະນັ້ນ ແລະ ໂດຍສ່ວນຕົວກໍເຊື່ອວ່າ ມີຄວາມເປັນໄປໄດ້ສູງ, ບັນດາທ່ານເດ໋ ຄິດວ່າແນວໃດ?



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

ເປັນຕາສົງສານປະຊາຊົນຜູ້ເປັນຍາດມິດຂອງຜູ້ເຄາະຮ້າຍຊຶ່ງເປັນຜູ້ຮັບກັມແທນລັດຖະບານ, ຜູ້ກໍ່ກັມທຳເຂັນ ກົດຂີ່ຂົ່ມເຫັງຄົນທົ່ວໂລກ ພຽງແຕ່ເພື່ອຜົນປະໂຫຽດຂອງພວກພ້ອງເຂົາແມ່ນ ຕະກຸນ ຈອດບູດ ແລະຄະນະລັດຖະບານຂອງມັນ ພວກນີ້ສົມຄວນປະຫານ 1,000 ຊົ່ວໂຄດ ມັນໄປສ້າງເຄາະກັມໃຫ້ປະເທດອື່ນແຕ່ມັນກັບສະເຫວຍສຸກຢູ່ເຮືອນມັນ ຜູ້ຮັບກັມແມ່ນພົນລະເມືອງອາເມລິກາທຸກໆຄົນ.


ຄົນຕາຍຢູ່ສອງຕຶກນີ້ເປັນຄົນເກືອບທຸກປະເທດໃນໂລກນີ້. ຖ້າສະຫາຍບໍ່ຮູ້ຈັກຄັກກ່ຽວກັບເລື່ອງນີ້ດີກໍບໍ່ຄວນ

ເວົ້າ. ສະຫາຍຄືສິຖືກສ້ຽມສອນໃຫ້ໂກດໃຫ້ແຄ້ນອາເມລິກາມາແຕ່ນ້ອຍຈົນໃຫຍ່ລະນໍ້? ຮຽນປະວັດສາດໂລກ

ແດ່ເພື່ອຈະໄດ້ຮູ້ວ່າອາເມລິກາມັນມີດີແນວໃດແດ່? ແມ່ນໃຜຊ່ອຍໂຊວຽດທຳລາຍທະຫານເຢັຍລະມັນກ່ອນເຂົາ

ຈະເຂົ້າຍຶດມອສະກູ? ໂຊວຽດຕຽມຈະຈຳນົນຕໍ່ເຢັຍລະມັນແລ້ວ ຖ້າອາເທລິກາຊ້າຊົ່ວໄມງດຽວ ປະເທດໂຊວຽດຖືກ

ເຢັຍລະມັນຍຶດໄປແລ້ວ. ສມັຍຈີນຖືກຢິ່ປຸນຍຶດແລະຕົກຢູ່ພາຍໃຕ້ການປົກຄອງເຂົາ ແມ່ນໃຜຊ່ວຍຈີນຂັບົລ່ຢິ່ປຸ່ນ

ອອກຈາກຈີນ? ອາເມລິກາຫັນແລ້ວສິບອກໃຫ້.

ແຜນການພວກກໍ່ການຮ້າຍມົສະລິມພວກນີ້ທີ່ຈະຖະຫລົ່ມສອງຕຶກນີ້ມີມາແຕ່ສະໄໝ ຈີມມີ ຄາເຕີ ພຸ້ນ. ບູດຜູ້ພໍ່

ຄລິນຕັນ ແລະ ບູດຜູ່ລູກ ບໍ່ຢາກຂ້າບັກໜວດນັ້ນດອກ ຖ້າເຂົາຢາກຂ້າສິເຫລືອບໍ່?  ເຫັນບໍ່ບັກແຫລ້ ໂອບາມາ

ເພາະມັນບໍ່ຢາກໃຫ້ບັກໜວດຢູ່ຮ່ວມໂລກກັບມັນໆສັ່ງເດັດຊີວີດບັກໜວດ ເຫລືອບໍ່?



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

“ดร.เทียนชัย” ชำแหละ 11 กันยา ซีไอเอรู้ความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อการมาโดยตลอด แต่จงใจปล่อยให้ทำ เพียงเพื่อเป็นข้ออ้างถล่มอัฟกานิสถาน-อิรัก เปิดทางโกยผลประโยชน์มหาศาลฟื้นเศรษฐกิจประเทศ พร้อมหวังผลขัดขวางการเติบใหญ่ของจีน ชี้ “อิหร่าน” เป้าหมายต่อไป ถ้า “มิตต์ รอมนีย์” จากรีพับลิกันได้เป็นประธานาธิบดีมีโอกาสเกิดสงครามใหญ่ 
       
       วันที่ 11 ก.ย. 55 ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ นักเขียนนามปากกา “ยุค ศรีอาริยะ” ได้กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยา อเมริกาเกิดฟองสบู่แตกตอนปี 2000 เวลาเศรษฐกิจทรุด มีวิธีการแก้หลายแบบ แต่มีวิธีหนึ่งที่เคยใช้ในช่วงสงครามโลก เรียกว่าลัทธิเคนส์เซียน คือรัฐจะเข้าไปกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดการจ้างงาน แต่มีเคนส์เซียนอีกอันเรียกว่า เคนส์เซียนทางทหาร วิธีนี้ทำให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยใช้เงื่อนไขต่างๆ ในการก่อสงคราม เวลาทำต้องนึกให้ดีทำแล้วต้องโกยผลประโยชน์มาให้ได้มาก เคยถูกใช้ในสมัยฮิตเลอร์ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจเยอรมันตกต่ำ ก็เลยใช้ลัทธิเคนส์เซียนทางทหารบุกประเทศอื่นแล้วโกยความมั่งคั่งกลับมา
       
       ก่อนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยา ตนเคยนึกสงสัยว่าอเมริกาจะกล้าใช้สูตรนี้หรือเปล่า เพราะถ้าใช้จะต้องมีเงื่อนไขในการอ้างทำสงคราม ซึ่งตอนนั้นมีผู้ก่อการร้ายที่สามารถก่อสถานการณ์แบบสาสากลได้ มีอยู่เพียงกลุ่มเดียว คือ อัลกออิดะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจากฝีมือของอเมริกาเอง โดยร่วมกับซาอุฯ เป็นแบ็กอัพให้เกิดอัลกออิดะห์ เพื่อเคลื่อนไหวล้มอิทธิพลของรัสเซียที่เข้ามาที่อัฟกานิสถาน
       
       พอเห็นเครื่องบินชนตึก ตนรู้เลยว่าอเมริกาคิดใหญ่มาก ปั้นน้ำเป็นตัวแบบน่ากลัวมาก ทฤษฎีเก่าๆ ถูกเอามาใช้แล้ว เหมือนกับเป็นการสร้างภาพครั้งใหญ่ หลอกคนทั้งโลกเพียงเพื่อเงื่อนไขในการประกาศสงคราม พอทั้งโลกเห็นว่าถึงขั้นชนตึก คนตายเกือบ 3 พันคน มันใหญ่พอที่จะอ้างความชอบธรรมในการประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้ายที่มีเพียงกลุ่มเดียว
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวต่อว่า ตนขอใช้คำว่าอเมริกาเปิดเงื่อนไขให้มีการโจมตี ภายหลังมีการเช็กข้อมูลพบว่า คนทำเป็นนักศึกษาซาอุฯ ที่เข้ามาเรียนแถวยุโรปจำนวน 18 คน ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่อัลกออิดะห์ แล้วการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มนี้ ซีไอเอรับรู้มาตลอดว่ากลุ่มนี้คิดอะไรอยู่ แต่เขาปล่อยให้เด็กทำ แล้วมันง่ายหรือที่เด็ก 18 คนจะปล้นเครื่องบินได้ถึง 4-5 ลำ ถ้าซีไอเอรู้มาโดยตลอด
       
       ที่น่าสงสัยกว่านั้น คือ ที่เพนตากอน ข่าวออกว่ามีเครื่องบินชนเพนตากอน แต่ตรวจสอบหลังจากนั้นไม่พบแม้แต่ซากเครื่องบิน มีแค่ระเบิด ซึ่งใครทำก็ไม่รู้ แสดงว่าอาจไม่มีการจี้เครื่องบินเกินกว่า 2 ลำ คนอเมริกาเองก็เริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการสร้างหนังเรื่อง 9/11 หนังได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจ คือ หลังจากเกิดเหตุการณ์มีการสั่งปิดสนามบิน ห้ามเครื่องบินออกเลย แต่มีเครื่องบินลำหนึ่งบินออกไปได้ พบว่าผู้โดยสารในเครื่องบินลำนั้นล้วนแต่มีชื่อลงท้ายด้วย “บิน ลาดิน” คนตระกูลบิน ลาดิน ส่วนใหญ่เรียนที่อเมริกาเยอะ มีที่เป็นนักธุรกิจด้วย โดยตระกูลบิน ลาดินนั้นทำธุรกิจใกล้ชิดกับกษัตริย์ซาอุฯ พอหลังจากให้ออกจากประเทศ อเมริกาก็ประกาศว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์คือบินลาเด็น
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวอีกว่า ในยุคนั้นเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อเมริกากังวลว่าโลกจะพลิกผัน ซึ่งจีนนั้นผลิตอุตสาหกรรม จึงต้องขึ้นอยู่กับน้ำมันเป็นหลัก ถ้าอเมริกาควบคุมแหล่งน้ำมันได้ก็เอาจีนอยู่ ตอนนั้นจีนกำลังพุ่งเป้าไปลงทุนน้ำมันในย่านประเทศยุโรปตะวันออกที่แตกออกมาจากรัสเซีย นี่คือแหล่งน้ำมันใหญ่อันดับสองของโลกรองจากตะวันออกกลาง แต่ออกสู่ทะเลไม่ได้ จะออกสู่ทะเลต้องผ่านอัฟกานิสถาน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้อเมริกาเลือกที่จะโจมตีอัฟกานิสถาน โดยอ้างว่าให้ที่หลบซ่อนแก่บิน ลาดิน น่าแปลก ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แค่ใช้ทหารปิดล้อมก็เอาอยู่แล้ว แต่นี่โจมตีและยึดครอง ก็เพื่อยุทธศาสตร์ในการปิดเส้นทางลำเลียงน้ำมันจากยุโรปตะวันออกเข้าจีน แล้วหลังจากยึดอัฟกานิสถานแล้ว ยังไม่ติดตามตัวบินลา ดิน แต่ดันไปอิรักต่อ อ้างว่าซัดดัมหนุนผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่ซัดดัมไม่เคยรู้จักกับอัลกออิดะห์เลย ไม่เกี่ยวพันกันแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะอิรักคือแหล่งน้ำมันอันดับสองของตะวันออกกกลางรองจากซาอุฯ ซึ่งซาอุฯ เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ อยู่แล้ว ถ้ายึดสองที่นี้ได้ สหรัฐฯ ก็คุมน้ำมันโลกได้แล้ว
       
       หลังก่อสงคราม เศรษฐกิจอเมริกาก็ฟื้น เพราะเมื่อมีสงคราม รัฐบาลจะสั่งซื้ออาวุธมหาศาลจากบริษัทค้าอาวุธ เกิดการจ้างคนเพิ่ม มีการขนคนนับแสนไปทำสงครามด้วยค่าจ้างค่อนข้างสูง นี่คือการฟื้นเศรษฐกิจด้วยยุทธศาสตร์ทางทหาร แก้ได้ทั้งเศรษฐกิจฟองสบู่ และสถาปนาตัวเองขึ้นมามีอำนาจเหนือระบบโลกได้ด้วย ทำสองประเด็นพร้อมๆ กัน
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นดูเหมือนสหรัฐฯ จะทำสำเร็จในการควบคุมตะวันออกกลาง ปิดทางออกของแหล่งน้ำมัน ยึดครองอิรักได้ เหมือนระบบโครงสร้างอำนาจ อเมริกาสามารถจัดระเบียบโลกใหม่ได้แล้ว เศรษกิจฟื้นตัว จนกระทั่งมาเกิดแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส นั่นก็เพราะว่าอเมริกาพยายามทำให้เศรษฐกิจจีนทรุดให้ได้ ช่วงหนึ่งพยายามดันราคาน้ำมันให้สูง โดยอ้างว่าน้ำมันกำลังจะหมดโลก จนกระทั่งเศรษฐกิจย่านเอเชียสั่นคลอนเป็นทิวแถว จีนเองก็กระทบแต่พยายามฝืนราคาตลาด สู้อยู่ 1-2 ปี ทีนี้ปัญหาน้ำมันแพงมันย้อนไปที่อเมริกา แต่อเมริกาไม่คิดว่าฟองสบู่จะแตก เผอิญมีจุดอ่อนคือซับไพรม์ ยอมให้คนไม่มีรายได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ พอราคาน้ำมันแพง คนไม่มีเงินเลยหยุดการจ่ายหนี้ อเมริกาคิดไม่ถึงตรงนี้ว่ามันจะย้อนกลับมาทำให้ประเทศตัวเองฟองสบู่แตกรอบสอง
       
       ดร.เทียนชัยยังกล่าวว่า อเมริกาเล็งถล่มอิหร่าน แต่ต้องคิดเยอะเพราะพื้นที่ใหญ่ แล้วคนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งฐานชีอะห์ใหญ่มาก ถ้าเปิดศึกอิหร่านต้องใช้สงครามใหญ่ อิสราเอลพยายามดึงแผนสงครามนี้เพื่อให้อเมริกาโจมตีอิหร่านให้ได้ คนรับแผนก็คือรีพับลิกัน ซึ่งถ้าหากนายมิตต์ รอมนีย์ ได้เป็นประธานาธิบดี อาจเปิดแผนนี้ แต่นายโอบามาไม่เอาแน่ เพราะเกรงว่าถ้าพลาดไม่คุ้ม อาจปิดประวัติศาสตร์อเมริกาเลยก็ได้


 ມັນກໍ່ໜ້າຄິດຢູ່ໃດເນາະ ສ່ວນຕົວອາເມລິກາເອງມັນຊົ່ວຢູ່ແລ້ວ



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

“ดร.เทียนชัย” ชำแหละ 11 กันยา ซีไอเอรู้ความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อการมาโดยตลอด แต่จงใจปล่อยให้ทำ เพียงเพื่อเป็นข้ออ้างถล่มอัฟกานิสถาน-อิรัก เปิดทางโกยผลประโยชน์มหาศาลฟื้นเศรษฐกิจประเทศ พร้อมหวังผลขัดขวางการเติบใหญ่ของจีน ชี้ “อิหร่าน” เป้าหมายต่อไป ถ้า “มิตต์ รอมนีย์” จากรีพับลิกันได้เป็นประธานาธิบดีมีโอกาสเกิดสงครามใหญ่ 
       
       วันที่ 11 ก.ย. 55 ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ นักเขียนนามปากกา “ยุค ศรีอาริยะ” ได้กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยา อเมริกาเกิดฟองสบู่แตกตอนปี 2000 เวลาเศรษฐกิจทรุด มีวิธีการแก้หลายแบบ แต่มีวิธีหนึ่งที่เคยใช้ในช่วงสงครามโลก เรียกว่าลัทธิเคนส์เซียน คือรัฐจะเข้าไปกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดการจ้างงาน แต่มีเคนส์เซียนอีกอันเรียกว่า เคนส์เซียนทางทหาร วิธีนี้ทำให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยใช้เงื่อนไขต่างๆ ในการก่อสงคราม เวลาทำต้องนึกให้ดีทำแล้วต้องโกยผลประโยชน์มาให้ได้มาก เคยถูกใช้ในสมัยฮิตเลอร์ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจเยอรมันตกต่ำ ก็เลยใช้ลัทธิเคนส์เซียนทางทหารบุกประเทศอื่นแล้วโกยความมั่งคั่งกลับมา
       
       ก่อนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยา ตนเคยนึกสงสัยว่าอเมริกาจะกล้าใช้สูตรนี้หรือเปล่า เพราะถ้าใช้จะต้องมีเงื่อนไขในการอ้างทำสงคราม ซึ่งตอนนั้นมีผู้ก่อการร้ายที่สามารถก่อสถานการณ์แบบสาสากลได้ มีอยู่เพียงกลุ่มเดียว คือ อัลกออิดะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจากฝีมือของอเมริกาเอง โดยร่วมกับซาอุฯ เป็นแบ็กอัพให้เกิดอัลกออิดะห์ เพื่อเคลื่อนไหวล้มอิทธิพลของรัสเซียที่เข้ามาที่อัฟกานิสถาน
       
       พอเห็นเครื่องบินชนตึก ตนรู้เลยว่าอเมริกาคิดใหญ่มาก ปั้นน้ำเป็นตัวแบบน่ากลัวมาก ทฤษฎีเก่าๆ ถูกเอามาใช้แล้ว เหมือนกับเป็นการสร้างภาพครั้งใหญ่ หลอกคนทั้งโลกเพียงเพื่อเงื่อนไขในการประกาศสงคราม พอทั้งโลกเห็นว่าถึงขั้นชนตึก คนตายเกือบ 3 พันคน มันใหญ่พอที่จะอ้างความชอบธรรมในการประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้ายที่มีเพียงกลุ่มเดียว
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวต่อว่า ตนขอใช้คำว่าอเมริกาเปิดเงื่อนไขให้มีการโจมตี ภายหลังมีการเช็กข้อมูลพบว่า คนทำเป็นนักศึกษาซาอุฯ ที่เข้ามาเรียนแถวยุโรปจำนวน 18 คน ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่อัลกออิดะห์ แล้วการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มนี้ ซีไอเอรับรู้มาตลอดว่ากลุ่มนี้คิดอะไรอยู่ แต่เขาปล่อยให้เด็กทำ แล้วมันง่ายหรือที่เด็ก 18 คนจะปล้นเครื่องบินได้ถึง 4-5 ลำ ถ้าซีไอเอรู้มาโดยตลอด
       
       ที่น่าสงสัยกว่านั้น คือ ที่เพนตากอน ข่าวออกว่ามีเครื่องบินชนเพนตากอน แต่ตรวจสอบหลังจากนั้นไม่พบแม้แต่ซากเครื่องบิน มีแค่ระเบิด ซึ่งใครทำก็ไม่รู้ แสดงว่าอาจไม่มีการจี้เครื่องบินเกินกว่า 2 ลำ คนอเมริกาเองก็เริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการสร้างหนังเรื่อง 9/11 หนังได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจ คือ หลังจากเกิดเหตุการณ์มีการสั่งปิดสนามบิน ห้ามเครื่องบินออกเลย แต่มีเครื่องบินลำหนึ่งบินออกไปได้ พบว่าผู้โดยสารในเครื่องบินลำนั้นล้วนแต่มีชื่อลงท้ายด้วย “บิน ลาดิน” คนตระกูลบิน ลาดิน ส่วนใหญ่เรียนที่อเมริกาเยอะ มีที่เป็นนักธุรกิจด้วย โดยตระกูลบิน ลาดินนั้นทำธุรกิจใกล้ชิดกับกษัตริย์ซาอุฯ พอหลังจากให้ออกจากประเทศ อเมริกาก็ประกาศว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์คือบินลาเด็น
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวอีกว่า ในยุคนั้นเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อเมริกากังวลว่าโลกจะพลิกผัน ซึ่งจีนนั้นผลิตอุตสาหกรรม จึงต้องขึ้นอยู่กับน้ำมันเป็นหลัก ถ้าอเมริกาควบคุมแหล่งน้ำมันได้ก็เอาจีนอยู่ ตอนนั้นจีนกำลังพุ่งเป้าไปลงทุนน้ำมันในย่านประเทศยุโรปตะวันออกที่แตกออกมาจากรัสเซีย นี่คือแหล่งน้ำมันใหญ่อันดับสองของโลกรองจากตะวันออกกลาง แต่ออกสู่ทะเลไม่ได้ จะออกสู่ทะเลต้องผ่านอัฟกานิสถาน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้อเมริกาเลือกที่จะโจมตีอัฟกานิสถาน โดยอ้างว่าให้ที่หลบซ่อนแก่บิน ลาดิน น่าแปลก ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แค่ใช้ทหารปิดล้อมก็เอาอยู่แล้ว แต่นี่โจมตีและยึดครอง ก็เพื่อยุทธศาสตร์ในการปิดเส้นทางลำเลียงน้ำมันจากยุโรปตะวันออกเข้าจีน แล้วหลังจากยึดอัฟกานิสถานแล้ว ยังไม่ติดตามตัวบินลา ดิน แต่ดันไปอิรักต่อ อ้างว่าซัดดัมหนุนผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่ซัดดัมไม่เคยรู้จักกับอัลกออิดะห์เลย ไม่เกี่ยวพันกันแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะอิรักคือแหล่งน้ำมันอันดับสองของตะวันออกกกลางรองจากซาอุฯ ซึ่งซาอุฯ เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ อยู่แล้ว ถ้ายึดสองที่นี้ได้ สหรัฐฯ ก็คุมน้ำมันโลกได้แล้ว
       
       หลังก่อสงคราม เศรษฐกิจอเมริกาก็ฟื้น เพราะเมื่อมีสงคราม รัฐบาลจะสั่งซื้ออาวุธมหาศาลจากบริษัทค้าอาวุธ เกิดการจ้างคนเพิ่ม มีการขนคนนับแสนไปทำสงครามด้วยค่าจ้างค่อนข้างสูง นี่คือการฟื้นเศรษฐกิจด้วยยุทธศาสตร์ทางทหาร แก้ได้ทั้งเศรษฐกิจฟองสบู่ และสถาปนาตัวเองขึ้นมามีอำนาจเหนือระบบโลกได้ด้วย ทำสองประเด็นพร้อมๆ กัน
       
       ดร.เทียนชัยกล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นดูเหมือนสหรัฐฯ จะทำสำเร็จในการควบคุมตะวันออกกลาง ปิดทางออกของแหล่งน้ำมัน ยึดครองอิรักได้ เหมือนระบบโครงสร้างอำนาจ อเมริกาสามารถจัดระเบียบโลกใหม่ได้แล้ว เศรษกิจฟื้นตัว จนกระทั่งมาเกิดแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส นั่นก็เพราะว่าอเมริกาพยายามทำให้เศรษฐกิจจีนทรุดให้ได้ ช่วงหนึ่งพยายามดันราคาน้ำมันให้สูง โดยอ้างว่าน้ำมันกำลังจะหมดโลก จนกระทั่งเศรษฐกิจย่านเอเชียสั่นคลอนเป็นทิวแถว จีนเองก็กระทบแต่พยายามฝืนราคาตลาด สู้อยู่ 1-2 ปี ทีนี้ปัญหาน้ำมันแพงมันย้อนไปที่อเมริกา แต่อเมริกาไม่คิดว่าฟองสบู่จะแตก เผอิญมีจุดอ่อนคือซับไพรม์ ยอมให้คนไม่มีรายได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ พอราคาน้ำมันแพง คนไม่มีเงินเลยหยุดการจ่ายหนี้ อเมริกาคิดไม่ถึงตรงนี้ว่ามันจะย้อนกลับมาทำให้ประเทศตัวเองฟองสบู่แตกรอบสอง
       
       ดร.เทียนชัยยังกล่าวว่า อเมริกาเล็งถล่มอิหร่าน แต่ต้องคิดเยอะเพราะพื้นที่ใหญ่ แล้วคนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งฐานชีอะห์ใหญ่มาก ถ้าเปิดศึกอิหร่านต้องใช้สงครามใหญ่ อิสราเอลพยายามดึงแผนสงครามนี้เพื่อให้อเมริกาโจมตีอิหร่านให้ได้ คนรับแผนก็คือรีพับลิกัน ซึ่งถ้าหากนายมิตต์ รอมนีย์ ได้เป็นประธานาธิบดี อาจเปิดแผนนี้ แต่นายโอบามาไม่เอาแน่ เพราะเกรงว่าถ้าพลาดไม่คุ้ม อาจปิดประวัติศาสตร์อเมริกาเลยก็ได้


 He read too much liberal leftwing website and translated into Thai language and continue to lie to most estupido thais 555.



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

ຫລັງຈາກເຫດການດັ່ງກ່າວນີ້ ໄດ້ເກີດມີຂໍ້ສົງໃສຫລາຍຢ່າງວ່າ ລັດຖະບານອາເມລິກາ ເປັນຜູ້ຈັດສາກ (inside job), ດັ່ງທີ່ເຄີຍເຮັດຜ່ານມາໃນຫລາຍໆເຫດການໃນປະຫວັດສາດ, ໂດຍມີຈຸດປະສົງເພື່ອຮຸກຮານອີຣັກໃນໄລຍະນັ້ນ ແລະ ໂດຍສ່ວນຕົວກໍເຊື່ອວ່າ ມີຄວາມເປັນໄປໄດ້ສູງ, ບັນດາທ່ານເດ໋ ຄິດວ່າແນວໃດ?


 Here another extrem liberal leftwing...



__________________


Senior Member

Status: Offline
Posts: 212
Date:

ຄົນບໍ່ພໍຈັກຄົນສ້າງບາບໃຫ້ຄົນຕາດຳຯ 3000 ກ່ວາຄົນຮັບບາບແທນ ພຽງເພື່ອຍາກໄດ້ຊັບພະຍາກອນຂອງຊາດອື່ນ ຂໍດວງວິນຍານທ່ານທັງຫລາຍຈົ່ງສູ່ສຸຂະຕິເຖີດ ຂໍຄຸນພຮະພຸດທະອົງຈົ່ງນຳຄວາມສຸກແລະສັນຕິພາບມາສູ່ໂລກນີ້ດ້ວຍເຖີ້ນສາທຸ

__________________
Anonymous

Date:



__________________


Senior Member

Status: Offline
Posts: 212
Date:

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

ຫລັງຈາກເຫດການດັ່ງກ່າວນີ້ ໄດ້ເກີດມີຂໍ້ສົງໃສຫລາຍຢ່າງວ່າ ລັດຖະບານອາເມລິກາ ເປັນຜູ້ຈັດສາກ (inside job), ດັ່ງທີ່ເຄີຍເຮັດຜ່ານມາໃນຫລາຍໆເຫດການໃນປະຫວັດສາດ, ໂດຍມີຈຸດປະສົງເພື່ອຮຸກຮານອີຣັກໃນໄລຍະນັ້ນ ແລະ ໂດຍສ່ວນຕົວກໍເຊື່ອວ່າ ມີຄວາມເປັນໄປໄດ້ສູງ, ບັນດາທ່ານເດ໋ ຄິດວ່າແນວໃດ?


 Here another extrem liberal leftwing...


 ຖ້າທ່ານມີຄວາມຄຶດແບບນີ້ຕ້ອງເບີ່ງຫນັງນີ້ (Sword Fish)



__________________
Page 1 of 1  sorted by
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard