เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 5 ต.ค.52 พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จ.ลำปาง พ.ต.อ.มนตรี สัมบุญนานนท์ รอง ผบก. แถลงข่าวจับกุมตัวนายจันทร์หรือ เสิฐ กาส่งเดช อายุ 22 ปี ลูกจ้างชาวลาว ผู้ต้องหาฆ่านางประกาย มีทอง อายุ 59 ปี เจ้าของสวน ภรรยาของนายธัญญา มีทอง อายุ 59 ปี สารวัตรเครื่องจักรรถไฟ ระดับ 8 สถานีรถไฟลำปาง พร้อมของกลางไม้ที่ใช้ทุบตีผู้ตาย โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ สืบเนื่องเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตรรับแจ้ง มีเหตุคนถูกฆ่าแล้วนำมายัดไว้ท้ายรถเก๋ง ในบ้านสวนไม่มีเลขที่เขตหมู่บ้านดอน ม.10 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ต่อมาทราบว่าผู้ตายรายนี้ชื่อนางประกาย มีทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ถ.นาก่วมเหนือ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นภรรยาของนายธัญญา จากการตรวจชันสูตร พบที่ลำคอผู้ตายมีผ้าสีขาวรัดอยู่ และที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ คาดอาจจะถูกตีด้วยของแข็ง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านั้น นายธัญญา กับนางประกายได้จ้างคนงานซึ่งเป็นชาวลาวไว้เฝ้าสวน ก่อนเกิดเหตุนายธัญญาได้เดินทางไปกรุงเทพ และปล่อยให้ภรรยาเข้ามาในสวนตามลำพัง กระทั่งกลับมาและพบว่านางประกายเสียชีวิต แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าคนงานซึ่งเป็นชาวลาวได้หายจากสวนไป ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุดโดยอาจจะเป็นฆาตรกรลงมือฆ่านายจ้างโหดครั้งนี้ก็เป็นได้ จากนั้นทาง พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ห้างฉัตร จึงประสานไปยังตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงและจังหวัดเขตติดต่อโดยแจ้งเกี่ยวกับลักษณะรูปพรรณของคนงานชาวลาวต้องสงสัยรายนี้ไว้ให้ กระทั่งจับกุมได้ที่บริเวณถนนในหมู่บ้านเขต ต.เวียงหนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ขณะเดินทางไปหานายจ้างเก่าในพื้นที่ สอบสวนเบื้องต้น นายจันทร์ ให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่านางประกายจริง เนื่องจากที่ผ่านมานางประกายได้ดุด่าตนตลอด กินข้าวก็ให้กินเพียงแหนมหนึ่งห่อและข้าวเหนียว 5 บาท ตนก็ไม่เคยบ่น แต่ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนทำงานอยู่ในสวน จู่ๆนางประกายดาวได้เข้ามาใช้ให้ตนไปตัดไม้ไผ่ ทั้งที่ตนเองทำงานตั้งแต่เช้าและยังไม่ได้กินข้าว แต่ตนก็ยังไปทำงานตามที่สั่ง หลังจากตัดต้นไผ่มาแล้ว ยังถูกผู้ตายดุด่าต่างๆ นานาและได้ใช้ไม้ไผ่ไล่ตีตน ตนจึงโกรธโมโห จึงได้แย่งไม้ตีจากนางประกายและทุบตีจนสลบไป ตนก็ไม่ทราบว่านายจ้างเสียชีวิตหรือไม่ แต่ด้วยความกลัวจึงได้นำร่างของนางประกายไปใส่ไว้หลังกระโปรงรถเก๋งก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือและเงินจำนวน 100 บาท ของนางประกายหลบหนีไป โดยใช้เงิน 100 บาทซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารไปที่ จ.ลำพูน เพื่อจะไปหานายจ้างเก่า เมื่อไปถึงได้จ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้ขับไปส่งที่ ต.เวียงหนองล่อง แต่ตนไม่มีเงินจ่ายค่ารถ จึงได้ให้โทรศัพท์มือถือเป็นค่าจ้างไป จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงหนองล่องจับตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาและอำพรางซ่อนเร้นทำลายศพ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทราบว่านายจันทร์ ไม่มีใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองโดยเป็นชาวต่างด้าวที่ได้หลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทย จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกข้อหาหนึ่ง ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Anonymous wrote:เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 5 ต.ค.52 พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จ.ลำปาง พ.ต.อ.มนตรี สัมบุญนานนท์ รอง ผบก. แถลงข่าวจับกุมตัวนายจันทร์หรือ เสิฐ กาส่งเดช อายุ 22 ปี ลูกจ้างชาวลาว ผู้ต้องหาฆ่านางประกาย มีทอง อายุ 59 ปี เจ้าของสวน ภรรยาของนายธัญญา มีทอง อายุ 59 ปี สารวัตรเครื่องจักรรถไฟ ระดับ 8 สถานีรถไฟลำปาง พร้อมของกลางไม้ที่ใช้ทุบตีผู้ตาย โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ สืบเนื่องเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตรรับแจ้ง มีเหตุคนถูกฆ่าแล้วนำมายัดไว้ท้ายรถเก๋ง ในบ้านสวนไม่มีเลขที่เขตหมู่บ้านดอน ม.10 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ต่อมาทราบว่าผู้ตายรายนี้ชื่อนางประกาย มีทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ถ.นาก่วมเหนือ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นภรรยาของนายธัญญา จากการตรวจชันสูตร พบที่ลำคอผู้ตายมีผ้าสีขาวรัดอยู่ และที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ คาดอาจจะถูกตีด้วยของแข็ง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านั้น นายธัญญา กับนางประกายได้จ้างคนงานซึ่งเป็นชาวลาวไว้เฝ้าสวน ก่อนเกิดเหตุนายธัญญาได้เดินทางไปกรุงเทพ และปล่อยให้ภรรยาเข้ามาในสวนตามลำพัง กระทั่งกลับมาและพบว่านางประกายเสียชีวิต แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าคนงานซึ่งเป็นชาวลาวได้หายจากสวนไป ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุดโดยอาจจะเป็นฆาตรกรลงมือฆ่านายจ้างโหดครั้งนี้ก็เป็นได้ จากนั้นทาง พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ห้างฉัตร จึงประสานไปยังตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงและจังหวัดเขตติดต่อโดยแจ้งเกี่ยวกับลักษณะรูปพรรณของคนงานชาวลาวต้องสงสัยรายนี้ไว้ให้ กระทั่งจับกุมได้ที่บริเวณถนนในหมู่บ้านเขต ต.เวียงหนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ขณะเดินทางไปหานายจ้างเก่าในพื้นที่ สอบสวนเบื้องต้น นายจันทร์ ให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่านางประกายจริง เนื่องจากที่ผ่านมานางประกายได้ดุด่าตนตลอด กินข้าวก็ให้กินเพียงแหนมหนึ่งห่อและข้าวเหนียว 5 บาท ตนก็ไม่เคยบ่น แต่ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนทำงานอยู่ในสวน จู่ๆนางประกายดาวได้เข้ามาใช้ให้ตนไปตัดไม้ไผ่ ทั้งที่ตนเองทำงานตั้งแต่เช้าและยังไม่ได้กินข้าว แต่ตนก็ยังไปทำงานตามที่สั่ง หลังจากตัดต้นไผ่มาแล้ว ยังถูกผู้ตายดุด่าต่างๆ นานาและได้ใช้ไม้ไผ่ไล่ตีตน ตนจึงโกรธโมโห จึงได้แย่งไม้ตีจากนางประกายและทุบตีจนสลบไป ตนก็ไม่ทราบว่านายจ้างเสียชีวิตหรือไม่ แต่ด้วยความกลัวจึงได้นำร่างของนางประกายไปใส่ไว้หลังกระโปรงรถเก๋งก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือและเงินจำนวน 100 บาท ของนางประกายหลบหนีไป โดยใช้เงิน 100 บาทซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารไปที่ จ.ลำพูน เพื่อจะไปหานายจ้างเก่า เมื่อไปถึงได้จ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้ขับไปส่งที่ ต.เวียงหนองล่อง แต่ตนไม่มีเงินจ่ายค่ารถ จึงได้ให้โทรศัพท์มือถือเป็นค่าจ้างไป จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงหนองล่องจับตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาและอำพรางซ่อนเร้นทำลายศพ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทราบว่านายจันทร์ ไม่มีใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองโดยเป็นชาวต่างด้าวที่ได้หลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทย จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกข้อหาหนึ่ง ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
who care about it, it's just one lao guy's case in 10 millions. compare to siam's society, they kill each other more than 100 in one day!
Anonymous wrote:Anonymous wrote:เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 5 ต.ค.52 พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จ.ลำปาง พ.ต.อ.มนตรี สัมบุญนานนท์ รอง ผบก. แถลงข่าวจับกุมตัวนายจันทร์หรือ เสิฐ กาส่งเดช อายุ 22 ปี ลูกจ้างชาวลาว ผู้ต้องหาฆ่านางประกาย มีทอง อายุ 59 ปี เจ้าของสวน ภรรยาของนายธัญญา มีทอง อายุ 59 ปี สารวัตรเครื่องจักรรถไฟ ระดับ 8 สถานีรถไฟลำปาง พร้อมของกลางไม้ที่ใช้ทุบตีผู้ตาย โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ สืบเนื่องเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตรรับแจ้ง มีเหตุคนถูกฆ่าแล้วนำมายัดไว้ท้ายรถเก๋ง ในบ้านสวนไม่มีเลขที่เขตหมู่บ้านดอน ม.10 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ต่อมาทราบว่าผู้ตายรายนี้ชื่อนางประกาย มีทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ถ.นาก่วมเหนือ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นภรรยาของนายธัญญา จากการตรวจชันสูตร พบที่ลำคอผู้ตายมีผ้าสีขาวรัดอยู่ และที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ คาดอาจจะถูกตีด้วยของแข็ง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านั้น นายธัญญา กับนางประกายได้จ้างคนงานซึ่งเป็นชาวลาวไว้เฝ้าสวน ก่อนเกิดเหตุนายธัญญาได้เดินทางไปกรุงเทพ และปล่อยให้ภรรยาเข้ามาในสวนตามลำพัง กระทั่งกลับมาและพบว่านางประกายเสียชีวิต แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าคนงานซึ่งเป็นชาวลาวได้หายจากสวนไป ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุดโดยอาจจะเป็นฆาตรกรลงมือฆ่านายจ้างโหดครั้งนี้ก็เป็นได้ จากนั้นทาง พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ห้างฉัตร จึงประสานไปยังตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงและจังหวัดเขตติดต่อโดยแจ้งเกี่ยวกับลักษณะรูปพรรณของคนงานชาวลาวต้องสงสัยรายนี้ไว้ให้ กระทั่งจับกุมได้ที่บริเวณถนนในหมู่บ้านเขต ต.เวียงหนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ขณะเดินทางไปหานายจ้างเก่าในพื้นที่ สอบสวนเบื้องต้น นายจันทร์ ให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่านางประกายจริง เนื่องจากที่ผ่านมานางประกายได้ดุด่าตนตลอด กินข้าวก็ให้กินเพียงแหนมหนึ่งห่อและข้าวเหนียว 5 บาท ตนก็ไม่เคยบ่น แต่ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนทำงานอยู่ในสวน จู่ๆนางประกายดาวได้เข้ามาใช้ให้ตนไปตัดไม้ไผ่ ทั้งที่ตนเองทำงานตั้งแต่เช้าและยังไม่ได้กินข้าว แต่ตนก็ยังไปทำงานตามที่สั่ง หลังจากตัดต้นไผ่มาแล้ว ยังถูกผู้ตายดุด่าต่างๆ นานาและได้ใช้ไม้ไผ่ไล่ตีตน ตนจึงโกรธโมโห จึงได้แย่งไม้ตีจากนางประกายและทุบตีจนสลบไป ตนก็ไม่ทราบว่านายจ้างเสียชีวิตหรือไม่ แต่ด้วยความกลัวจึงได้นำร่างของนางประกายไปใส่ไว้หลังกระโปรงรถเก๋งก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือและเงินจำนวน 100 บาท ของนางประกายหลบหนีไป โดยใช้เงิน 100 บาทซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารไปที่ จ.ลำพูน เพื่อจะไปหานายจ้างเก่า เมื่อไปถึงได้จ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้ขับไปส่งที่ ต.เวียงหนองล่อง แต่ตนไม่มีเงินจ่ายค่ารถ จึงได้ให้โทรศัพท์มือถือเป็นค่าจ้างไป จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงหนองล่องจับตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาและอำพรางซ่อนเร้นทำลายศพ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทราบว่านายจันทร์ ไม่มีใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองโดยเป็นชาวต่างด้าวที่ได้หลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทย จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกข้อหาหนึ่ง ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป who care about it, it's just one lao guy's case in 10 millions. compare to siam's society, they kill each other more than 100 in one day!
agree
http://news.mthai.com/general-news/174958.html
ເລື່ອງນີ້ມີຈິງບໍ
ถามว่าไผแคร์ ก็พวกข่อยนี้ล่ะแคร์
อย่าเฮ็ดตัวให้มันน่ารังเกียจหลายเด้อ นับมื้อแหงน่าสมเพช
เอาไว้เมื่อหน้า มันไปฆ่าแม่เจ้า
who care about it,
http://news.sanook.com/1128273/%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%A2-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2/
ໃຜ ກະ ທຳ ຜິດ ລົງ ໂທດ ຜູ້ ນັ້ນ ເດີ ໄທ ເອີຍ! ຖ້າບໍ່ມີຄວາມສາມາດ ຈັບຜູ້ກະທຳຜິດ ກະລູນາ ມາຫາ ຕຳຫຼວດ ລາວ ຊ່ວຍ ເດີ. ຢ່າມາລວດ ລາຍ, ຢ່າມາທຳຕົວເປັນຄົນດີ.
ຄົນໄທດີຫຼືຊົ່ວ ໃຫ້ໄປເບິ່ງສະຖິຕິ ຂ້າຕີກັນ ທຸກໆໆວັນບໍ່ມີເວັ້ນ. ອັນວ່າຢູ່ປະເທດໄທຫັ້ນນາ, ພຽງແຕ່ມືນຕາກໍ່ຍັງຖືກ ຂ້າຕາຍ, ຄຶດເບິ່ງ ພວກເຈົ້າ!
"ໂຄດ"ແບບໂຄດພໍ່ໂຄດແມ່ຫັ້ນຫວາ?
ຮູ້ສຶກສູງຂື້ນບໍ່ຄົນໄທ?
ໝໍນີ້ຄືຊິແຄ້ນໃຫ້ຄົນລາວແຮງນໍ ຄົນລາວບໍ່ເປັນແນວນີ້ໝົດທຸກຄົນດອກໂຍມເອີຍ...ເຮັດຈິດໃຈໃຫ້ປອດໃສ ແລະ ຮູ້ຈັກໃຫ້ອະໄພ ແລ້ວເຮົາຈະພົບກັບຄວາມສຸກທີ່ແທ້ຈິງ...ເວນກຳ