Pasalao

OOOOO BOY, what a MASS!!!!

คนดี" ชอบแก้ไข




ในทางการตลาด "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เหมือนเป็น "สินค้าใหม่" ทางการเมือง

แม้จะเป็น "สินค้า" ที่ทุกคนทายถูกตั้งแต่เริ่มต้นว่าพรรคเพื่อไทยต้องเลือกเธอเป็นผู้สมัคร ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1

ตามสโลแกน "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"

แต่การเปิดตัวสินค้าที่รู้กันอยู่แล้วอย่าง "ยิ่งลักษณ์" ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ถือว่าสร้างความฮือฮาพอสมควร

โดยเฉพาะการแถลงเปิดใจครั้งแรก

"ยิ่งลักษณ์" ให้เหตุผลที่ก้าวมารับตำแหน่งนี้ว่าเป็นผลต่อเนื่องจากการรัฐประหารปี 2549

"แม้ เวลาผ่านไปกว่า 5 ปี ประชาชนทุกคนก็ยังคิดถึงพี่ชายและคิดถึงนโยบายเก่าๆ ที่เคยทำมาในอดีต รวมถึงให้ความอบอุ่นและเมตตากับครอบครัวของดิฉัน ดังนั้น จึงรู้สึกว่าครอบครัวของดิฉันเป็นหนี้ประชาชน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเหตุผลใหญ่ที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานทางการเมือง"

แม้น้ำเสียงนุ่มนวลและสั่นบ้างเพราะตื่นเต้น แต่เนื้อหาในคำแถลงของ "ยิ่งลักษณ์" ก็ยังแฝงคมเขี้ยวทางการเมือง

เธอ ตั้งใจยกตัวอย่างประสบการณ์สมัยที่เป็น "ซีอีโอ" ของ "เอไอเอส" ช่วงแก้ปัญหาระบบโทรศัพท์ล่มในเหตุการณ์สึนามี เมื่อปี 2547 เป็นตัวอย่างที่บอกให้รู้ว่างานบริการประชาชนนั้นรอไม่ได้

"บางอย่างต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วทันที"

การ ยกตัวอย่างเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามินั้น "ยิ่งลักษณ์" ต้องการกระทบชิ่ง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่โดนโจมตีอย่างหนักว่าไม่ทันท่วงที

และเป็นการฟื้นความทรงจำถึง "ผลงาน" ที่ได้รับการยกย่องของ "ทักษิณ ชินวัตร"

หรือ การใช้คำว่า "ดิฉันพร้อมที่จะเข้ารับการพิสูจน์กับสาธารณชนภายใต้กติกามารยาทที่เป็น ธรรม" ซึ่งเป็นการตอบโต้ "บุญยอด สุขถิ่นไทย" ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ตั้งใจเล่นงานเรื่องส่วนตัวของ "ยิ่งลักษณ์"

ท่ามกลาง "จุดอ่อน" ของความเป็น "ผู้หญิง" แต่ "ยิ่งลักษณ์" ได้แปร "จุดอ่อน" เป็น "จุดแข็ง" เพราะทำให้ "ประชาธิปัตย์" ไม่กล้าใช้วาทศิลป์ที่รุนแรงทางการเมืองกับเธอได้

แม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่บุคลิกภาพของ "ยิ่งลักษณ์" ต่างจาก "สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ที่มีลักษณ์เป็น "ดอกไม้เหล็ก"

แต่ภาพลักษณ์ของ "ยิ่งลักษณ์" คือผู้หญิงที่หน้าตาดี สุภาพ นุ่มนวล

นี่คือ อุปสรรคสำคัญที่ทำให้พลพรรคประชาธิปัตย์ออกหมัดลำบาก

โจมตีแรงเกินไปก็เหมือนรังแก



ที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครออกมาขุดคุ้ยเรื่อง "ส่วนตัว" ของ "ยิ่งลักษณ์" อีกเลย

"บุญยอด" ก็เงียบ "เทพไท เสนพงศ์" ก็สงบเสงี่ยม

แต่เกมใหม่ที่พลพรรคประชาธิปัตย์นำมาใช้กับ "ยิ่งลักษณ์" คือการท้าทายให้ออกมาดีเบตกับ "อภิสิทธิ์"

"ประชาธิปัตย์" เลือกเล่นเกมที่ตนเองถนัด คือ การโต้วาที

เพราะวันนี้ "ทักษิณ" กำลังบังคับให้ "ประชาธิปัตย์" แข่งเรื่อง "นโยบาย" ซึ่งเป็นเกมที่ "ทักษิณ" เชี่ยวชาญที่สุด

ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา "ทักษิณ" กำหนดเกมใหม่ทำให้ทุกพรรคต้องแข่งขันกันเสนอนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม

และ ทำให้การเลือกตั้ง 3 ครั้งหลัง คือปี 2544 ปี 2548 และปี 2550 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งหลังการรัฐประหาร "ประชาธิปัตย์" ก็พ่ายแพ้พรรคการเมืองของ "ทักษิณ" อย่างยับเยิน

การต่อสู้ทางการเมืองนั้น แต่ละฝ่ายก็เลือกเล่นเกมที่ตนเองได้เปรียบ

"เพื่อไทย" ใช้คำว่าการต่อสู้แบบสร้างสรรค์ เพื่อชวนให้ "ประชาธิปัตย์" เล่นเกมนโยบาย

ส่วน "ประชาธิปัตย์" ใช้เหตุผลเรื่องหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนควรมีสิทธิ์ฟังคนที่อาสาตัวเป็น "นายกรัฐมนตรี" เพื่อเปรียบเทียบกัน

เพราะ "ประชาธิปัตย์" นั้นเชื่อมั่นในการใช้โวหารของ "อภิสิทธิ์" อย่างยิ่ง

แม้ ในช่วงหลังจะเสียศูนย์ไปบ้างหลังวาทกรรมการเมืองคำว่า "ดีแต่พูด" จุดติดขึ้นมา แต่การใช้วาทศิลป์โต้ตอบของ "อภิสิทธิ์" ก็ยังถือว่าเป็น "อาวุธ" ที่คมกริบของพรรคประชาธิปัตย์

โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ "สมันน้อย" ทางการเมืองอย่าง "ยิ่งลักษณ์"

การท้าทายให้ออกมา "ดีเบต" กันจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เพราะเกมนี้ "ประชาธิปัตย์" มีแต่ได้

ถ้า "ยิ่งลักษณ์" ยอมดีเบตก็เข้าทาง "อภิสิทธิ์" ที่วาทศิลป์เหนือกว่า

แต่ถ้าไม่มา "ประชาธิปัตย์" ก็โจมตีได้ว่าไม่ใช่ "ตัวจริง" แต่เป็น "นอมินี"

ต้องรอฟัง "ทักษิณ" ทุกครั้ง



"ยิ่งลักษณ์" นั้นมี "จุดอ่อน" สำคัญ คือ เป็นน้องสาวของ "ทักษิณ"

ทำให้ "ประชาธิปัตย์" สามารถโจมตีได้ว่าเป็น "นอมินี" ของ "ทักษิณ"

ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะนิรโทษกรรมให้ "ทักษิณ" กลับเมืองไทย

แต่สำหรับ "เพื่อไทย" ที่ประกาศชัดว่าจะใช้ "ทักษิณ" เป็น "จุดขาย"

"ยิ่งลักษณ์" ไม่ใช่ "จุดอ่อน"

แต่เป็น "จุดแข็ง"

เพราะแค่เอ่ยชื่อและนามสกุลก็สามารถสื่อสารแบบชั้นเดียวกับชาวบ้านได้เลยว่าเลือก "เพื่อไทย" ได้ "ทักษิณ" แน่นอน

นอกจากนั้น "ทักษิณ" ยังกระชับพื้นที่ซ้ำอีกครั้งด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า "ยิ่งลักษณ์" ไม่ใช่ "นอมินี" ของเขา

แต่เป็น "โคลนนิ่ง"

เป็นความตั้งใจที่จะบอกให้รู้ว่าฝีมือการบริหารงานของน้องสาวคนนี้ไม่แตกต่างจากเขาเลย

ไม่ใช่คนที่ทำงานไม่เป็นต้องรอฟังเขาทุกเรื่อง

แต่ไม่รู้ว่าคิดเหมือนกัน หรือฟังกันมาทำให้ในการแถลงข่าวของ "ยิ่งลักษณ์" มีบางประโยคเหมือนกับที่ "ทักษิณ" พูด

"พรรคเพื่อไทยไม่คิดจะแก้แค้น แต่จะแก้ไข"

ประโยคนี้เหมือนกับที่ "ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์ "มติชนสุดสัปดาห์"

นี่คือ วาทกรรมการเมืองที่ตั้งใจสื่อสารถึง "คู่แค้น" ของ "ทักษิณ"

ไม่ใช่ "ประชาธิปัตย์"

2 พี่น้อง "ชินวัตร" ยกประเด็นนี้ขึ้นมาก็เพื่อลดความกังวลของฝ่ายตรงข้ามที่กลัวว่าถ้าปล่อยให้ พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะเกิดการแก้แค้นเอาคืน

ซึ่งคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวอย่าง "ทักษิณ" รู้ดีว่า "ความกลัว" อาจนำมาซึ่งการต่อต้านแบบ "นอกระบบ" ไม่ให้ "เพื่อไทย" เป็นรัฐบาล

เช่น เดียวกับเรื่อง "นิรโทษกรรม" ที่มีการส่งสัญญาณให้รู้ว่าจะไม่ใช่การนิรโทษกรรมเฉพาะ "ทักษิณ" แต่เป็นการนิรโทษกรรมทุกคนโดยใช้การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็น "จุดเริ่มต้น"

ภาพบนโต๊ะอาจไม่มีใครออกมาสนับสนุนมากนัก

แต่ "เรื่องจริง" ในระดับ "ใต้โต๊ะ" แล้ว ข้อเสนอนี้เรียก "มิตร" ได้เยอะมาก

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 111 กลุ่ม 109 หรือแม้แต่กลุ่มการเมืองต่างๆ ที่มีคดีติดตัวมากมาย

เพราะเป็นที่รู้กันว่าการออกมาชุมนุมของบางกลุ่มนั้น เป้าหมายแท้จริงคือเรื่องอะไร

การ โยนหมาก "ปรองดอง" ของ "เพื่อไทย" พร้อมกับวาทกรรมการเมือง "ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข" คือ การสร้างมิตรตามการเดินหมากการเมืองของพรรคเพื่อไทย

และ มีโอกาสว่าในโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยอาจจะประกาศชัดบนเวทีอีกครั้งว่าถ้าเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ให้เลือกพรรคเพื่อไทย

เพื่ออาศัยผลการเลือกตั้งสร้างความชอบธรรมต่อไป

Lao fashion have gotten worst . This is a DISASTER!!!

It's entertainment industry,to entertain, and to make money, simple as that