ໄປທາງໃດກໍ່ເຫັນແຕ່ເຂົາວິຈານວ່າ ພະນັກງານການນໍາມີແຕ່ສໍ້ຫລາດບັງຫລວງ ຫາແຕ່ຜົນປະໂຫຍດສ່ວນຕົວ.
ຄັນເວົ້າໄປແລ້ວ, ກົດເກນສັງຄົມ ຫລື ກົດໝາຍທີ່ຄົນເຮົາສ້າງຂື້ນຄືຊິເຮັດຫຍັງເພີ່ນບໍ່ໄດ້ດອກ
ນອກຈາກເວນກໍາມີຈິງ.
ດັ່ງເພີ່ນວ່າ ເຮັດດີໄດ້ດີມີຢູ່ໃສ ເຮັດຊົ່ວໄດ້ດີມີຖົມໄປ.
ເລື່ອງນີ້ພິສູດບໍ່ໄດ້ທາງກາຍຍະພາບ ເພາະມັນເປັນເລື່ອງຂອງຈິດ ແຕ່ມີຄົນຫລາຍຄົນນັ່ງສະມາທິເຖິງຂັ້ນຮັບຮູ້ສະຫວັນກັບນາລົກໄດ້
ແຕ່ສຳລັບຂ້ອຍເຊື່ອ 99% ວ່າມີ
ແນະນຳໃຫ້ເຈົ້າເບິ່ງ ຄົນອວດຜີ ຊ່ວງ ສູນບັນເທົາຜີ ຖ້າຢາກສຶກສາເລື່ອງບາບ/ບຸນ
ຂ້ອຍເຊື່ອວ່າໃຜທີ່ເຮັດນຳລັດແລ້ວໂກງ ບາດຕາຍໄປອາດຈະບໍ່ໄດ້ໄປເກີດງ່າຍໆ
ເລື່ອງນີ້ມັນເວົ້າຍາກຄືກັນ ຕາມທີ່ບັນດານັກກຳມະຖານໄດ້ເວົ້ານັ້ນກໍ່ຄື ທຳດີໄດ້ດີ ທຳຊົ່ວໄດ້ຊົ່ວ ການໂກງເງິນຄຳ ສິ່ງຂອງຕ່າງໆທີ່ໄດ້ມາຈາກຄວາມບໍ່ບໍລິສຸດ ສິ່ງເຫຼົ່ານັ້ນເອີ້ນວ່າ ຂອງຮ້ອນ ຖ້າທ່ານໃດຄອບຄອງ ທ່ານຜູ້ນັ້ນກໍ່ຈະມີກຳ ຫາຄວາມຈະເລີນຍາກ ຈິດໃຈໜອງໝົ່ນ ສິ່ງທີ່ຕາມມານັ້ນກໍ່ຄືໜີ້ກຳທີ່ຈະຕິດຕົວຂອງຜູ້ນັ້ນຫຼືຄວບຄົວຂອງຜູ້ນັ້ນ ແມ່ນຢູ່ວ່າມັນເຮັດໃຫ້ທ່ານມີຄວາມສຸກທາງດ້ານວັດຖຸ ແຕ່ມັນກໍ່ໄດ້ໝາຍເຖິງຄວາມສຸກທາງດ້ານຈິດໃຈ ກຳອາດເກີດຂື້ນກັບຕົວທ່ານເອງ ແລະລູກຫຼານຂອງທ່ານເອງກໍ່ຈະໄດ້ຮັບຜົນກຳນັ້ນເໝືອນກັນ ເຊື່ອຫຼືບໍ່ນັ້ນ ການຄິດດີ ເວົ້າດີ ທຳດີນັ້ນ ຄືພື້ນຖານຂອງການກ້າວເຂົ້າສູ່ຄວາມຈະເລີນ ຂອງຕົນເອງ ຄອບຄົວ ບ້ານເມືອງ ແລະປະເທດຊາດ ຂອບໃຈທີ່ບໍ່ດ່າກັນ.
ຄົນສໍ້ລາດ
ບາບໄລ່ໄດ້ທັນ
ໃນຊາດນີ້ໂລດ
ມືຈັບເງິນ
ຕີນຢຽບປາກຄຸກ
ໄປຖາມຜູ້ນຳ ລາວເບີ່ງເດີ້
ຖາມທ່ານຄຳໄຕເບິງ ເຫດໄດລູກ ແຕ່ລະຄົນຄືມີແຕ່ຜູ້ກຳຫນ້າທີ່ຕຳແຫນ່ງດີໆ ເປັນເຈົ້າແຂວງ ເປັນລັດຖະມົນຕີ ເປັນຫົວຫນ້າພາສີ ຫົວຫນ້າດ່ານ ມີແຕ່ບ່ອນໄດ້ເງິນທັງນັ້ນ.
Anonymous wrote:ຄົນສໍ້ລາດບາບໄລ່ໄດ້ທັນ ໃນຊາດນີ້ໂລດ ມືຈັບເງິນຕີນຢຽບປາກຄຸກ
ເວ້ນແຕ່ປະເທດລາວເດີ ຍັງບໍ່ເຫັນຈັບໂຕໃຫຍ່ໆຕິດຄຸກເທື່ອ
Stupid subject !!! Stupid question !!!
Anonymous wrote: ໄປທາງໃດກໍ່ເຫັນແຕ່ເຂົາວິຈານວ່າ ພະນັກງານການນໍາມີແຕ່ສໍ້ຫລາດບັງຫລວງ ຫາແຕ່ຜົນປະໂຫຍດສ່ວນຕົວ. ຄັນເວົ້າໄປແລ້ວ, ກົດເກນສັງຄົມ ຫລື ກົດໝາຍທີ່ຄົນເຮົາສ້າງຂື້ນຄືຊິເຮັດຫຍັງເພີ່ນບໍ່ໄດ້ດອກນອກຈາກເວນກໍາມີຈິງ. ດັ່ງເພີ່ນວ່າ ເຮັດດີໄດ້ດີມີຢູ່ໃສ ເຮັດຊົ່ວໄດ້ດີມີຖົມໄປ.
เปันบาปอย่างบ่ต้องสงไส
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้ไม่นับถือเรา เป็น
ผู้ไปปราศแล้วจากธรรมวินัยนี้ และย่อมไม่ถึงความเจริญ
งอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายส่วนว่า
ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ไม่คดโกง ไม่พูดพล่อย ปัญญาไม่กระ-
ด้าง มีจิตตั้งมั่นดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นเป็น
ผู้นับถือเรา ไม่ปราศแล้วจากธรรมวินัยนี้ และย่อมถึงความ
เจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้.
http://www.tripitaka91.com/tripitaka91_1.php
กานส้อลาดบังหลวงก็เป็นกานลักชับ แล้วยังนำไปสู่กานขี้ตวะอีก สำลับบาปกำเกี่ยวกับกานลักชับ และ ขี้ตวะ ชอกเบิ่งใน www.tripitaka91.com
Anonymous wrote:Anonymous wrote: ໄປທາງໃດກໍ່ເຫັນແຕ່ເຂົາວິຈານວ່າ ພະນັກງານການນໍາມີແຕ່ສໍ້ຫລາດບັງຫລວງ ຫາແຕ່ຜົນປະໂຫຍດສ່ວນຕົວ. ຄັນເວົ້າໄປແລ້ວ, ກົດເກນສັງຄົມ ຫລື ກົດໝາຍທີ່ຄົນເຮົາສ້າງຂື້ນຄືຊິເຮັດຫຍັງເພີ່ນບໍ່ໄດ້ດອກນອກຈາກເວນກໍາມີຈິງ. ດັ່ງເພີ່ນວ່າ ເຮັດດີໄດ້ດີມີຢູ່ໃສ ເຮັດຊົ່ວໄດ້ດີມີຖົມໄປ. เปันบาปอย่างบ่ต้องสงไส ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้ไม่นับถือเรา เป็นผู้ไปปราศแล้วจากธรรมวินัยนี้ และย่อมไม่ถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายส่วนว่าภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ไม่คดโกง ไม่พูดพล่อย ปัญญาไม่กระ-ด้าง มีจิตตั้งมั่นดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้นับถือเรา ไม่ปราศแล้วจากธรรมวินัยนี้ และย่อมถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้.http://www.tripitaka91.com/tripitaka91_1.php กานส้อลาดบังหลวงก็เป็นกานลักชับ แล้วยังนำไปสู่กานขี้ตวะอีก สำลับบาปกำเกี่ยวกับกานลักชับ และ ขี้ตวะ ชอกเบิ่งใน www.tripitaka91.com
เหลั้ม 65 หน้า 612 - 163ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้คดโกง
กระด้าง พูดพล่อย กรีดกราย มีมานะจัด มีจิตไม่ตั้งมั่น
เหลั้ม 42 หน้า 21
เมื่อกรรมให้ผล คนโง่จึงเห็นถูกต้อง
พระศาสดา เมื่อจะทรงโอวาทเศรษฐีและเทวดา ด้วยสามารถวิบาก
แห่งกรรมดีและชั่วนั่นแล จึงตรัสว่า " ดูก่อนคฤหบดี แม้บุคคลผู้ทำบาป
ในโลกนี้ ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอดกาลที่บาปยังไม่เผล็ดผล. แต่เมื่อใด
บาปของเขาเผล็ดผล, เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นบาปว่าชั่วเเท้ ๆ; ฝ่ายบุคคล
ผู้ทำกรรมดี ย่อมเห็นกรรมดีว่าชั่ว ตลอดกาลที่กรรมดียังไม่เผล็ดผล,
แต่เมื่อใด กรรมดีของเขาเผล็ดผล. เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่า
ดีจริง ๆ "
เหลั้ม 16 หน้า 40 - 42
[๑๗๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน
ภพก่อน กำเนิดก่อน ละมิจฉาอาชีวะแล้ว สำเร็จความเป็นผู้อยู่ด้วยสัมมา-
อาชีวะ เว้นขาดจากการโกงด้วยตาชั่ง การโกงด้วยของปลอม และการโกง
ด้วยเครื่องตวงวัด และการโกงด้วยการรับสินบน การหลอกลวง และ
ตลบตะแลง เว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การปล้น
และการกรรโชก. ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะ
กายแตก เพราะกรรมนั้นอันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์. พระมหา
บุรุษนั้น ย่อมครอบงำ เทวดาทั้งหลายอื่นในโลกสวรรค์ โดยฐานะ ๑๐
คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์
เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ และโผฏฐัพพทิพย์. ครั้นจุติจากสวรรค์
นั้นแล้วมาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้ซึ่งมหาปุริสลักษณะ ๒ ประการ คือ
มีพระทนต์เสมอกัน มีพระทาฐะสีขาวงาม ๑. พระองค์ทรงสมบูรณ์ด้วย
พระลักษณะทั้ง ๒ นั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เป็น
ผู้ทรงธรรมเป็นธรรมราชา มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชำนะแล้ว
มีอาณาจักรมั่นคง ถึงพร้อมด้วยรัตนะ ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว
ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว เป็นที่ ๗. และมี
พระราชโอรสมากกว่าพัน ล้วนเป็นผู้แกล้วกล้า พระรูปสมเป็นวีรกษัตริย์
สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้. และพระมหาบุรุษนั้นทรงชนะโดยธรรม
เสมอ มิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตรา ทรงครองแผ่นดินนี้มีสาครเป็นขอบ
เขต มิได้มีเสาเขื่อน มิได้มีนิมิต ไม่มีเสี้ยนหนาม มั่นคงแพร่หลาย มีความ
เกษมสำราญ ไม่มีหมู่โจร เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชา
จะได้ผลข้อนี้ คือ มีวารสะอาดได้แก่มีบริวารเป็นพราหมณ์ เป็นคฤหบดี
เป็นชาวนิคม เป็นชาวชนบท เป็นโหราจารย์ เป็นมหาอำมาตย์ เป็น
กองทหาร เป็นนายประตู เป็นอำมาตย์ เป็นบริษัท เป็นเจ้า เป็นเศรษฐี
เป็นกุมาร. ถ้าพระมหาบุรุษออกทรงผนวชจะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัม-
พุทธเจ้า มีหลังคาคือ กิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้
อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือมีบริวารสะอาด บริวาร
ของพระองค์ที่ สะอาดนั้นได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์.
http://www.tripitaka91.com/tripitaka91_1.php?book_code=16