JAKARTA—Coca-Cola Co. plans to begin bottling its products in Laos by 2014, moving in on Southeast Asia's smallest economy, where rival .
ThaiNamthip Ltd.—Coca-Cola's bottling partner in Thailandwill own 70% of the Lao Coca-Cola Bottling venture,
with its local partner holding the rest.
keo_04 wrote:ຈັ່ງໃດຄົນລາວສ່ວນຫຼາຍກາຍັງມັກກິນເປັບຊີຄືເກົ່າ ແນວເປັບຊີມາເປີດມາແຕ່ດົນລະ
ຈັ່ງໃດຄົນລາວສ່ວນຫຼາຍກາຍັງມັກກິນເປັບຊີຄືເກົ່າ ແນວເປັບຊີມາເປີດມາແຕ່ດົນລະ
ເປບຊີຜະລິດຢູ່ລາວບໍ່
ເມືອງໄທຍເຂົາເຊົາຂາຍເປບຊີ່ມາລະຍະໜຶ່ງແລ້ວເດີ
ຫຼືຕອນນີ້ລາວເອົາເປບຊີ່ມາຈາກຫວຽດນາມ
Anonymous wrote:keo_04 wrote:ຈັ່ງໃດຄົນລາວສ່ວນຫຼາຍກາຍັງມັກກິນເປັບຊີຄືເກົ່າ ແນວເປັບຊີມາເປີດມາແຕ່ດົນລະ ເປບຊີຜະລິດຢູ່ລາວບໍ່ເມືອງໄທຍເຂົາເຊົາຂາຍເປບຊີ່ມາລະຍະໜຶ່ງແລ້ວເດີຫຼືຕອນນີ້ລາວເອົາເປບຊີ່ມາຈາກຫວຽດນາມ
ລາວຜະລິດແປັບ ມິລິນດາ ແລະນໍ້າອັດລົມຊະນິດອື່ນໄດ້ຫຼາຍທົດສະວັດແລ້ວ
ກ່ອນປີ 75 ພຸ້ນນະ ແລະຍັງມີໂຮງງານໄມ້ອັດ ໂຮງງານເກີບ ໂຮງງານສະບູ
ໂຮງງານແປ້ງນົວ ໂຮງງານສັງກະສີ ໂຮງງານຕະປູ ແລະໂຮງງານຜະລິດເຄື່ອງໃຊ້
ອື່ນໆອີກຫຼາຍໂຮງງານ, ແຕ່ຫຼັງຈາກພວກອ້າຍນ້ອງເຂົ້າມາ ເພິ່ນກໍ່ຍຶດເອົາໂຮງ
ງານເຫຼົ່ານັ້ນເປັນຂອງລັດ ຈຶ່ງເຮັດໃຫ້ໂຮງງານເຫຼົ່ານັ້ນຖືກປິດລົງ.
ຢູ່ລາວມີໂຮງງານຜະລິດນ້ຳເປັບຊີ້ດົນແລ້ວເດີ ບັກຫ່າໃດບໍ່ຮູ້ຢ່າມາເວົ້າ ກູນິແຮງສະແຕກທຸກມື້
ເປັນບໍລິສັດໄທມາຮ່ວມລົງທືນຕິເບາະ
ເຫັນໄທອອກຂ່າວຢູ່
ເອົາ ຂ່າວມາໃຫ້ເບິ່ງແດ່ ...
นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มโคคา-โคลา เปิดเผยว่า ได้ลงนามในสัญญาจัดตั้งกิจการร่วมทุนกับบริษัท พีที คอนสตรัคชั่น จำกัด ของลาว ภายใต้ชื่อ บริษัท ลาว โคลา-โคลา บอทลิ่ง จำกัด เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยน้ำทิพย์ถือหุ้นประมาณ 70% ที่เหลือเป็นการถือหุ้นโดยบริษัทพีที โดยใน 5 ปีแรกจะใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ในระยะแรกคือตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน บริษัทร่วมทุนจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโคคา-โคลาที่นำเข้าจากไทยก่อน ทั้งโค้ก แฟนต้า สไปรท์ น้ำผลไม้มินิทเมด และน้ำดื่มน้ำทิพย์ในตลาดประเทศลาวก่อน ขณะเดียวกันก็จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตที่เวียงจันทน์ด้วย คาดว่าจะเดินเครื่องการผลิตได้ในปี 2557
"เรามีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว และในตอนนี้แนวโน้มการขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคก็เพิ่มมากขึ้น เพื่อรับการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งการจัดตั้งบริษัท ลาวโคคา-โคลาฯจะทำให้การจัดจำหน่ายเครื่องดื่มของโคคา-โคลาในลาวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายพรวุฒิกล่าว
นายแวน ฮวง เดา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีที คอนสตรัคชั่น จำกัด และกรรมการบริหาร บริษัทลาวโคคา-โคลาฯ กล่าวว่า การร่วมทุนที่เกิดขึ้นนี้เป็นการยืนยันความพร้อมของลาวที่จะเป็นส่วนหนึ่งในตลาดโลกอย่างเต็มตัว
ไทยน้ำทิพย์ถือหุ้น 70%
บริษัท พีที คอนสตรัคชั่น จำกัด 30%
เสริมสุขเลิกผลิต PEPSI แล้วส่ง EST มาแทน แต่เห็นเขาบอกว่า EST ไม่อร่อย
แต่มีเทคนิคการดื่ม คือต้องแช่ให้เย็นจัดมันถึงจะซ่าเหมือน PEPSI
เหตุผลเพราะเจ้าของลิขสิทธิ์ PEPSI จะเข้าถือหุ้นใหญ่ในเสริมสุข เสริมสุขแก้เกมส์ด้วยการฉีดสัญญาทาสทิ้ง เอิ๊กๆๆๆๆ
ຈັ່ງໄຫລກະສ່າງດີໃຈນໍາພີ່ນ້ອງລາວເຮົາຈະມີງານແລະມີເງິນ
วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:18 น. ข่าวสดออนไลน์ เดิมพันศึกน้ำดำ..."เสริมสุข" ชิงนำ"เอส" / โค้กแจกล้านขวด / เป๊ปซี่เปิดตัวเอเย่นต์ทั่วปท.
ศึกน้ำอัดลมเดือดช่วงโค้งสุดท้ายก่อน 1 พ.ย.วันสิ้นสุดสัญญาเป๊ปซี่-เสริมสุข ด้านเสริมสุขชิงออกทีเซอร์ "เอส" พร้อมส่งจดหมายถึงลูกค้าทั่วประเทศประกาศความพร้อมให้บริการ ด้านโค้กชิงตัดหน้า "เป๊ปซี่" จัดแถลงข่าวก่อน 1 วัน ทุ่มหลัก 100 ล. บุกไตรมาส 4 ปูพรมแจกโค้ก 1 ล้านขวดทั่วประเทศ หวังสร้างกระแส ขณะที่เป๊ปซี่เปิดตัว "เอเย่นต์" 28 รายทุกภาค ย้ำความมั่นใจมีของขายแน่นอน ตลอดสัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุด ของตลาด "น้ำอัดลม" บ้านเราก็ว่าได้ เมื่อทั้ง 3 ค่ายโค้ก, เป๊ปซี่ และเสริมสุข ต้องชิงไหวชิงพริบกันทุกชั่วโมง เพื่อนับถอยหลังสู่วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นวันสิ้นสุดสัญญาระหว่างเป๊ปซี่และเสริมสุข สัปดาห์นี้จึงทั้ง 3 จึงเตรียมประกาศ "ความพร้อม" ของตัวเอง รวมถึงแผนการรบเพื่อส่งสัญญาณไปถึงบรรดาลูกค้า พันธมิตร ที่เป็นทั้งร้านค้า ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชั่นนอลเทรด รวมถึงร้านอาหาร เป็นการช่วงชิงความได้เปรียบในจังหวะสำคัญ เพื่อสามารถ "ออกสตาร์ต" ได้แบบ "ติดปีก" ทันทีหลังเสียงลั่นไกสิ้นสุดลง
ร่อนจดหมายเรียกความเชื่อมั่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) ได้มีการส่งจดหมายไปยังลูกค้าที่เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีก เพื่อประกาศความพร้อมของบริษัทหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นวันสิ้นสุดสัญญาในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเป๊ปซี่ โดยเนื้อความในจดหมายระบุว่า เสริมสุขซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพของคนไทยที่ครองใจผู้ บริโภค มานานเกือบ 60 ปี มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งทั้งร้านค้าและร้านอาหารกว่า 200,000 ร้าน มีพนักงานกว่า 8,000 คน พร้อมโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 5 แห่ง รวมสาขาและสำนักงานย่อยกว่า 50 แห่ง เพื่อให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่ว ประเทศโดยบริษัทยังมีแผนแนะนำ "เครื่องดื่มน้ำอัดลมใหม่" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมคุณภาพสูงมาตรฐานสากล โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดในวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ยังย้ำให้เกิดความมั่นใจว่า ทีมงานของเสริมสุขชุดเดิมยังคงดูแลให้บริการลูกค้าอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งยังคงสนับสนุนตู้แช่สินค้า อุปกรณ์สื่อป้ายโฆษณา รวมทั้งกิจกรรมโปรโมชั่นเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว "จากการสำรวจความ คิดเห็นของผู้บริโภคพบว่า ส่วนใหญ่ชื่นชอบรสชาติเครื่องดื่มน้ำอัดลมใหม่ของเสริมสุข และจะซื้อดื่มเองอย่างแน่นอน" ข้อความในจดหมายระบุ ล่าสุด เสริมสุขได้มีการเปิดตัวเฟซบุ๊กแฟนเพจ http://www.facebook.com/estcola เพื่อเริ่มประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้ผู้บริโภคเข้าไปร่วมสนุกเพื่อเจาะคนรุ่น ใหม่ โดยขณะนี้มีแฟนเพจอยู่ที่หลักร้อยคน โค้กชิงกระแสแจกฟรี 1 ล้านขวดด้าน โคคา-โคลา ซึ่งแถลงกลยุทธ์การตลาดไตรมาส 4 ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ โดยชิงตัดหน้าเป๊ปซี่ที่จัดงานแถลง "ทิศทางธุรกิจเครื่องดื่มของเป๊ปซี่ โค อิงค์ ในประเทศไทย" ในวันที่ 25 ตุลาคม โดยเตรียมงบฯหลักร้อยล้านบาทบุกตลาดช่วงโค้งท้ายของปี
นอกจากนี้ โคคา-โคลายังถือโอกาสให้วันที่ 25 ตุลาคมเป็นวัน "C Day" "โค้ก" สุขซ่าสดชื่นทั่วไทย โดยจะมีการแจกโค้กฟรี 1 ล้านขวดทั่วประเทศ พร้อมจัดงานคอนเสิร์ตเดินกลยุทธ์ "มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง" ณ ลานหน้าอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศ แอต เซ็นทรัลเวิลด์ อย่างยิ่งใหญ่
ขณะเดียวกันตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด ใหม่ที่มี "แพนเค้ก" เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อตอกย้ำแบรนด์ โพซิชันนิ่ง "ต้องซ่า ต้องกล้า ต้องโค้ก" เพื่อมัดใจผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น เป๊ปซี่เปิดตัวเอเย่นต์ทั่วประเทศ ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 ตุลาคมในช่วงค่ำนั้น เป๊ปซี่จะมีการจัดงานฉลองครบรอบ 60 ปี เป๊ปซี่อยู่คู่คนไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "PEPSI : Yesterday, Today & Tomorrow" ในฐานะ "แบรนด์ในดวงใจ" สามารถครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2495แหล่ง ข่าวจากเอเย่นต์เป๊ปซี่เปิดเผยว่า ในวันนั้นจะมีเอเย่นต์ของเป๊ปซี่ไปร่วมงาน โดยเป๊ปซี่จะประกาศความพร้อมด้วยการแนะนำเอเย่นต์ทั้ง 28 รายทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 8 ราย ภาคกลาง 8 ราย อีสาน 6 ราย เหนือ 4 และใต้ 2 ราย พร้อมกันนี้ยังมีพันธมิตรหลักที่เป็นร้านอาหารค่ายหลัก ๆ อาทิ ยัมแบรนด์ส ที่มีเคเอฟซี และพิซซ่า ฮัท ฯลฯ ซึ่งยังเป็นพันธมิตรอย่างเหนียวแน่น กลยุทธ์ หลักในช่วงแรกจะใช้ "ไซซิ่ง" ในรูปแบบกระป๋อง และขวดเพ็ตในขนาดใหม่ออกมาแนะนำให้กับผู้บริโภค อาทิ 1.45 ลิตร ซึ่งเป็นขนาดสุดคุ้ม รวมถึงขนาด 410 มล. 440 มล. 445 มล. 505 มล. เป็นต้น โดยเน้นเข้ามาในช่องว่างของขนาดที่คู่แข่งรายอื่น ๆ ไม่มี "เนื่อง จากเป๊ปซี่ไม่มีขวดแก้ว ซึ่งเท่ากับยอดถึงครึ่งหนึ่งที่หายไป ดังนั้นจึงต้องมีการรุกหนักในแพ็กเกจจิ้งขวดเพ็ตและกระป๋อง โดยจะชูเมสเซจที่ว่าขนาดสุดคุ้ม ส่วนการประกาศความพร้อมด้านเอเย่นต์นั้นก็เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ บริโภครับรู้ว่า หลังวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป๊ปซี่ยังมีของขายแน่นอน" เอเย่นต์เป๊ปซี่ระบุ แหล่งข่าวในวงการน้ำดำระบุว่า ขณะนี้สิ่งที่เป๊ปซี่ต้องพยายามมากที่สุดคือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัทไว้ให้ได้ โดยเฉพาะเชนร้านอาหารในศูนย์การค้า ซึ่งจะให้บริการในรูปแบบของ "เครื่องกดน้ำอัดลม" หรือโพสต์มิกซ์ ขณะที่ร้านอาหารรายย่อยทั่วไปอาจเสียเปรียบคู่แข่งเพราะต้องมีขวดแก้ว จำหน่าย รวมถึงร้านค้าในโมเดิร์นเทรด "ขณะนี้เป๊ปซี่ต้องรักษาฐานเดิมที่มีอยู่ให้ได้ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเงื่อนไขอย่างไรก็ตาม"ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ