Pasalao

Anonymous wrote:

---

ໄປຢູ່ໄທມັນດີແລ້ວ ເພາະລາວ-ໄທມີຄວາມຄ້າຍຄືກັນ ບໍ່ວ່າຈະເປັນດ້ານເຊື້ອຊາດ ສາສະໜາພາສາ ວັທະນາທຳ ດີກ່ວາຢູ່ໃຕ້ຜະເດັດການ ຄມນ.

---

 BUG HOO KHEE. KHOUM KHID KHONG MUENG PEN DAI TAIR PHIENG KHEE KHAA TANG SARD. THUI!!!

Anonymous wrote:

---

BUG HOO KHEE  ພາສາອັງກິດວ່າແນວໃດ

---

 ມັນຂຽນຕົວອັງກິດແລ້ວແປເປັນລາວດີກ່ວາ  BUG HOO kHEE ແປວ່າ ຜູ້ຂຽນ ໂງ່ ຫຼ້າຫຼັງ!!

ສິນໃນນ້ຳ = ອະໃຫ້ອີກແນ່

why are you scare vietnamese ,  and chinese take over lao, why don't you ask lao people who live in thailand , are they gonna take over thailand so dump ass!!!

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

BUG HOO KHEE  ພາສາອັງກິດວ່າແນວໃດ

---

 ມັນຂຽນຕົວອັງກິດແລ້ວແປເປັນລາວດີກ່ວາ  BUG HOO kHEE ແປວ່າ ຜູ້ຂຽນ ໂງ່ ຫຼ້າຫຼັງ!!

ມັນໂງ່ແນວໄດວ່າຕີ ເບິ່ງຈາກການຂຽນ, ເນື້ອໃນຂອງຄຳເວົ້າກໍ່ຮູ້ວ່າ ຄົນໄຮ້ການ ສສ ທັງທັງທີ່ຮູ້ວ່າການເວົ້າການຂຽນລົງໃນເວັບມັນອອກສູ່ສັງຄົມ (ທົ່ວໂລກ) ແຕ່ກໍ່ຍັງໃຊ້ຄຳເວົ້າທີ່ສົກກະປົກ.

ນອກນັ້ນ ຍັງບໍ່ໃຫ້ກຽດໃນຄວາມຄິດເຫັນຂອງຜູ້ອື່ນ ແລະບໍ່ມີຄວາມເຂົ້າໃຈຂໍ້ແທ້ຈິງຂອງບັນຫາ ເອະອະ ກໍ່ວ່າຄົນລາວທີ່ໄປອາໃສຢູ່ຕ່າງປະເທດວ່າເປັນຄົນຂາຍຊາດ ເປັນທາດຮັບໃຊ້ຊາດອື່ນ ທັງໆທີ່ຄົນລາວຢູ່ນອກປະເທດເຂົາໄດ້ຮັບການຄຸ້ມຄອງຈາກກົດໝາຍຂອງປະເທດນັ້ນໆ ເປັນຢ່າງດີ ມີເສລີພາບໃນການປະກອບອາຊີບ ແລະຫຼາຍຄົນສ້າງຊື່ສຽງໃຫ້ກັບປະເທດ ແລະຍັງໃຫ້ການຊ່ວຍເຫຼືອຍາດຕິພີ່ນ້ອງຢູ່ທາງບ້ານເພື່ອແກ້ໄຂຄວາມຍາກຈົນນຳອີກ ປີໜື່ງໆຫຼາຍພັນຫຼຽນ.

ແລ້ວພວກແກວມາຢູ່ເຕັມເມືອງລາວເຂົ້າເປັນທາດຮັບໃຊ້ເຈົ້າບໍ່ ມີແຕ່ມາປຸ້ນເອົາຊັບໃນດິນສິນໃນນຳ້ໄປຈົນໝົດ

ໂງ່ແລ້ວອວດສະຫຼຫາດ

Go back to school.

 

---

 แม่นๆเจ้าเว้าอีก กะถึกอีก 

---

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

why are you scare vietnamese ,  and chinese take over lao, why don't you ask lao people who live in thailand , are they gonna take over thailand so dump ass!!!

---

 Lao in thailand live under thai laws, in contrary, viet and chinese in Laos live above lao laws.

How's that, is this as clear as mud ?E

I didn't know why you are so proud of your ignorance.

---

 Where is the prove that Viet and Chinese have had live above the law in Laos ? Where put it in here and I'll debated you on the issue. if you don't have the prove, you need to stop talk with your mouth full and empty stomach Ok... Ain't no good or healthy for you to say that .

ບັກຫ່າກິນຫົວມັນນີ້ ພັດແຫ່ງມາຂຽນເປັນພາສາແກວອີກ, ໂຄດແມ່ສູເອີຍ

Anonymous wrote:

---

ລາວມັນປັກຄອງກັນເອງເປັນ  ປທ

ເອກກະຣາດບໍ່ໃດ້ດອກ.

 

  Here is my long term solution:

 

(ກ). ພາກເໝືອຂອງລາວ.....ໃຫ້ຂຶ້ນກັບຈີນສາ (ເອົາໄປເລີຍ..ອາແປ໋ະ  ເອົາໄມ້  ຖູ່ ຈິ້ມເອົາ),

(ຂ). ພາກຕາເວັນອອກຂອງລາວ...ແກວ  ເຊີນ ນິມົນ ສັນເອົາໄປເລີຍ,

(ຄ). ສ່ວນຍັງເຫຼືອ..ພາກຕາເວັນຕົກໃຫ້ເປັນຈັງວັດ ລ້ານຊ້າງຂອງໄທຍຼ    ດີກົ່ວາ..

 

  ລາວປົກຄອງລາວໄປບໍ່ລອດດອກ ພີ່ນ້ອງເອີຍ ເພາະມັນ ໂງ່..ຂ້າແຕ່ກັນຍາດແຍ່ງ ຊິງດີຊິງເດັ່ນ..ກັນເພືອ່ອໍານາດ. ຂະໝາດ ປະຊາກອນພຽງສາມລ້ານໃນປີ  1975 ຍັງ ບໍສາມາດ ປົກຄອງກັນໃດ້. ສີໂຄດ ປ້ອຍສາບແສ່ງ ຖືກແລ້ວ...

 

 

 ຮັກແພງ, ພະອານົນກໍາລັງຮີ່ນກັນຊາ..

 

 

---

 unbelievable! one of the most stupid and most poisionous comment ever! a lowest of the low life on planet earth, so sad for him!!!

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

Anonymous wrote:

---

why are you scare vietnamese ,  and chinese take over lao, why don't you ask lao people who live in thailand , are they gonna take over thailand so dump ass!!!

---

 Lao in thailand live under thai laws, in contrary, viet and chinese in Laos live above lao laws.

How's that, is this as clear as mud ?E

I didn't know why you are so proud of your ignorance.

---

 Where is the prove that Viet and Chinese have had live above the law in Laos ? Where put it in here and I'll debated you on the issue. if you don't have the prove, you need to stop talk with your mouth full and empty stomach Ok... Ain't no good or healthy for you to say that .

---

 Ơ , em nghĩ Lào còn nghèo lắm chứ, này nhé: nghèo nên hút thuốc Lào, đi dép Lào; nghèo nên ở dơ bị hắc Lào, bản thân gió Lào cũng độc nữa  

---

 ຄົນວຽດນາມມັກຄິດວ່າຄົນລາວທຸກຍາກ ຄວາມຈິງແລ້ວຄົນວຽດນາມທຸກກ່ວາລາວຕັ້ງຫຼາຍເທົ້າ ຄົນຢູ່ຊົນລະບົດ ບໍ່ທັນມີຮອດເກີບແຕະໃສ່ ລະບົບສາທາລະນຸປະໂພກ ເຊັ້ນທາງ ໄຟ້າ ນ້ຳປະປຍັງບໍ່ມີໃຊ້ ປຊຊຕິດພະຍາດຕ່າງໆ ຍັງບໍ່ໄດ້ຮັບການປິ່ນບົວຕາມຫລັກວິຊາການແພດ. ຄົນຢູ່ຕາມຕົວເມືອງຕ່າງໆ ຊີວິດການເປັນຊັບສົນຕ່າງຄົນຕ່າງດິ້ນລົນຍາດແຍ້ງທຳມາຫາກິນ ຈົນເຮັດໃຫ້ສັງໄຮ້ເຊິ່ງຄວາມມີນ້ຳໃຈ ຂາດຄວາມໂອບເອື້ອອາລີ. ບາງເທື່ອຜົວໄປການ ເມຍລັກໄປຮັບແຂກຕາມຮ້ານຄາລະໂອເກະ

"Gia ding em kho lam" ສາວບໍລິການຄົນໜື່ງເວົ້າກັບເພື່ອນຂອງຂ້ອຍທີ່ບ້ານພັກແຫ່ງນື້່ງ ໃນເມືອງເຊໂນ ສະຫັວນນະເຂດ.

Anonymous wrote:

---

สถานที่สำคัญ
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
บ้านทาส

สถาน ที่ตั้ง

ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้บริเวณวัดสามโคก ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ประวัติความเป็นมา

 

 

บ้านทาส เป็นชื่อหมู่บ้านที่พวกทาสอาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในหมู่บ้านมีการสะสมรวบรวมทาสไว้ขายด้วย และเป็นหมู่บ้านที่ใช้แรงงานทาส ทำเครื่องปั้นดินเผา มีด่านเก็บภาษีอากร การค้าของหลวงซึ่งอยู่ใต้บ้านทาสลงไป เรียกว่า คลองขนอน อยู่ทุกวันนี้

บ้านที่พวกทาสอาศัยครั้งก่อนไม่มีแล้ว แต่ยังเหลือคลองบ้านทาสเป็นหลักฐานให้เห็นปรากฎอยู่ซึ่งอยู่ติดกับวัดสามโคกด้านทิศใต้ ปากคลองทะลุแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนปลายคลองเข้าไปทางทิศตะวันตก ลึกเข้าไปในทุ่งนา ลักษณะของปลายคลองตอนที่อยู่หลังวัดสามโคก มองดูเป็นเวิ้งน้ำกว้างลึกและลึกมาก สังเกตดูดินในบริเวณคลองบ้านทาส เป็นดินเหนียว เนื้อละเอียดดี เหมาะสำหรับทำเครื่องปั้นดินเผา
บ้านทาส แต่เดิมเป็นที่อยู่ของทาส มีทาสเชลยพม่า มอญ และลาวเวียงจันทร์ ตลอดจนแขกที่มาจากเมืองปัตตานี ก็มารวมอยู่ที่นี่ด้วยแต่มีจำนวนน้อยกว่าพวกอื่น ทาสพวกนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยามาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้นำเชลยศึกมากักกันไว้ที่นี่ แล้วเกณฑ์ให้พวกทาสเหล่านี้ ให้ทำงานชุดดินเหนียวในคลองบ้านทาว มาทำเป็นเครื่องปั้นดินเผา เช่นพวก หม้อ อ่าง โอ่ง กระถาง กระเบื้องมุงหลังคา และอิฐ ฯลฯ แล้วนำเข้าเผาในเตาสามโคก ซึ่งปัจจุบันยังมีโคกเตาโบราณที่ใช้เผาเครื่องปั้นดินเผาให้เห็นอยู่เครื่องปั้นเหล่านี้ได้นำส่งหลวงบ้าง ขายเป็นสินค้าส่งส่วนตัวบ้าง โดยเฉพาะอิฐจะต้องทำส่งให้หลวงตามที่หลวงต้องการเพื่อนำไปก่อสร้างกำแพงเมืองและก่อสร้างวัดวาอารามต่าง ๆ อิฐที่ใช้ทำกำแพงเมืองที่จังหวัด
ปราจีนบุรี ก็เอาไปจากสามโคก โดยเกณฑ์ให้ทาสทำส่งไปให้ การทำอิฐและเครื่องปั้นดินเผาที่สามโคกมีคุณภาพดีเป็นพิเศษ ไม่มีที่ใดดีกว่านี้ไปได้เลย เพราะที่นี่ดินเหนียวเนื้อละเอียดชนิดดี มีครั้งหนึ่งเล่ากันว่า สมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงดำริจะย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรีมาตั้งทางฝั่งตะวันออก คือกรุงเทพมหานครนี่แหละ ทางราชการให้เกณฑ์ชาวบ้านและทาสในเขตเมืองสามโคกทำอิฐส่งหลวง เจ้าละ ๕๐๐ ก้อน เพื่อจะสร้างกำแพงเมืองหลวงใหม่ เวลานั้นเป็นฤดูฝนทำอิฐละลายพระองค์จึงทรงตรัสต่อไปว่า ห้าร้อยละลาย ฉะนั้นคำว่า "ไอ้ห้าร้อยละลาย" จึงกลายเป็นคำด่าจนถึงทุกวันนี้
ที่หน้าโบสถ์วัดตำหนัก มีเจดีย์อยู่ ๒ องค์ ลักษณะไม่เหมือนกัน องค์หนึ่งมีรูปร่างเหมือนของมอญเมืองหงสาวดี แต่อีกองค์หนึ่งเหมือนเจดีย์ของลาวเวียงจันทร์ อาจารย์บัว เจ้าอาวาสวัดตำหนักเล่าให้ฟังว่า ที่มีรูปร่างผิดแผกกันเช่นนี้อยู่ที่คนสร้าง ทั้งช่างทั้งคนงานที่เกณฑ์มาสร้างเจดีย์ทั้งสององค์เป็นพวกทาส ที่บ้านทาสพวกหนึ่งเป็นมอญ อีกพวกหนึ่งเป็นลาวเวียงจันทน์ เจดีย์จึงมีรูปต่างกันไป
พวกลาวที่ถูกกวาดต้อนจากเวียงจันทน์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ก็ด้วยเมื่อ ปีพุทธศักราช ๒๓๖๙ เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์คิดกบฎไทยต้องยกทัพไปปราบปรามในศึกครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้เจ้าพระยามหาโยธาควบคุมคนกองมอญขึ้นไปทางดงพระยากลางด้วย เมื่อไทยรบชนะจึงได้กวาดต้อนครัวลาวมาเป็นเชลย ให้ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ที่ข้างวัดเสด็จ ตำบลสวนพริกไทย ที่เรียกกันติดปากว่า "บ้านลาว" อยู่เวลานี้ พวกลาวเหล่านี้จึงถูกเกณฑ์ให้ทำงาน ก่อสร้างเจดีย์ที่หน้าโบสถวัดตำหนัก และให้ทำอิฐทำเครื่องปั้นดินเผา แต่ลาวทำไม่เป็นเพราะไม่เคยทำมาก่อน จึงทำได้ไม่ดี สู่มอญไม่ได้ จึงเลิกทำ แล้วให้ไปปลูกพริกไทยอยู่กับแขกที่มาจากเมืองปัตตานีที่ข้างวัดเสด็จ
ที่บ้านทาสมีการค้าทาสกันด้วย นายปทุม คงดี เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนบ้านของแกทำโรงเลื่อยอยู่ที่บ้านกระแชงมอญ ข้างวัดป่า (วัดชัยสิทธาวาส) พ่อของแกไปซื้อทาสมาจากที่บ้านทาส เพื่อให้ทำงานเลื่อนไม้ทาสคนนี้ชื่อเลื่อน พูดถึงชีวิตของทาสมันแสนระกำเหลือเกิน ถ้าได้นายทาสที่มีคุณธรรมเมตตากรุณาก็ดีไป ถ้าถูกนายทาสใจคอโหดร้าย ก็นับว่าตกนรกทั้งเป็น เรื่องความใจดำอำมะหิตของนายทาสนาวาเอกสวัสดิ์ จันทนี ได้เล่าไว้ในนิทานชาวไร่ เล่ม ๗ องค์การค้าคุรุสภาจัดพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๑๕ หน้า๑๒๒-๑๒๓
"...คุณหลวงได้เล่าให้คิดถึงเรื่องทาสรายหนึ่ง ท่านบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ คุณพระนิเวศน์ข้าราชการกระทรวงวัง มีบ่าวไพร่ในบ้านหลายคน คุณนายเกิดไปพิสมัยกะบ่าวผู้ชายคนหนึ่งนานวันเข้าเมียของบ่าวคนนั้นทนไม่ไหว จึงไปฟ้องคุณพระหาว่าคุณนายมาเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะกับผัวของตนทำให้ตน ขาดรายได้คุณพระก็ต่อว่าเมียหาว่าทำเสื่อมเสียศักดิ์ศรี คุณนายเกิดแหวขึ้นทันที กระฟัดกระเฟียดว่าต้องเฆี่ยนอีบ่าวผู้หญิง หาว่าเอาความไม่จริงมาฟ้องนายผู้ชาย จับอีบ่าวเฆี่ยนอย่างไม่นับ บังคับให้คุณพระช่วยเฆี่ยนด้วยคุณพระก็หูเบาพลอยโกรธอีกบ่าวไปด้วย เฆี่ยนแล้วมิหนำยังแก้ผ้า แล้วเอาดุ้นฟืนไฟแดงแยงก้นอีบ่าวด้วย ปรากฎว่านางทาสคนนั้นตาย ถ้าเป็นคดีเฆี่ยนบ่าวตายธรรมดานั้นกฎหมายไม่ปรารถนาจะยื่นมือเข้าเกี่ยวข้อง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้อื้อฉาว หาว่าคุณนายทารุณจนเกินกว่าเหตุขุนศาลตระกาลการออกหมายจับตัวคุณนายมาไต่สวนครั้นสืบพยานเข้าจริงๆจังๆเรื่องมันเลยพัวพันมาถึงคุณพระด้วย ศาลถือว่าคุณพระเป็นเจ้าบ้านไม่ห้ามปรามเมียกลายเป็นสมคบกันทุกคนทารุณบ่าวไปจึงตัดสินให้ประหารทั้งคุณนายและคุณพระ พระพุทธเจ้าหลวงลงพระปรมาภิ ไทยให้ประหารทั้งผัวเมียตามคำพิพากษาของศาล...."
นี่เป็นชีวิตทาสคนหนึ่งในจำนวนแสนจำนวนล้านที่ถูกนายทาสใช้อำนาจบาทใหญ่เข้าข่มเหงรังแกจนถึงตายฉะนั้นสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า รัชกาลที่ ๕ ทรงเห็นความทุกข์เดือนร้อนของทาส ที่ถูกกระทำทารุณเยี่ยงสัตว์ป่าเช่นนี้ พระองค์จึงทรงประกาศเลิกทาส การสูญเสียอำนาจและการสูญเสียแรงงานทาสของพวกนายทาสจึงมีปฎิกริยาต่อต้านอย่างเงียบ ๆ โดยตั้งเป็นกองโจรเที่ยวปล้นสะดม ทำให้ราษฎรต้องเดือดร้อนทั่วไป และไม่ยอมปลดปล่อยทาส พวกทาสได้ถูกทรมานและถูกฆ่าตายจำนวนมาก โดยเฉพาะหลวงบรรเทาทุกข์ (คหบดีชื่อช้าง) ได้ประพฤติตัวชั่วช้า เป็นหัวหน้าโจรก่อกรรมทำเข็ญเที่ยวปล้น จับลูกเมียใครที่ตนชอบใจมาข่มขืน ไม่พอใจทาสก็ฆ่าทาส กฎแห่งกรรมได้มาถึงตัว ในที่สุดก็ถูกประหารชีวิต เวลานี้เจดีย์บรรจุกระดูกของหลวงบรรเทาทุกข์อยู่ที่ท้ายเกาะเขตติดต่อระหว่างปทุมธานีกับอยุธยา
บ้านทาส เวลานี้อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้บริเวณวัดสามโคก ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ห่างจากตัวศาลากลางจังหวัดไปทางทิศเหนือประมาณ ๔ กิโลเมตร มีทางรถยนต์เข้าถึง แต่ไม่มีรถประจำทางเพราะถนนยังไม่ดีนัก หรือจะไปทางเรือโดยลงเรือหางยาวที่ท่าเทศบาลเมืองปทุมธานีก็ไปได้สะดวก ไปขึ้นที่หน้าวัดสามโคก แล้วถามชาวบ้านดู เขาจะบอกว่า "คลองบ้านทาส" ก็อยู่ติดกับวัดสามโคกนั่นไงบริเวณบ้านทาสน่าอยู่มากเงียบสงบอากาศดีน้ำท่าสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์สวยงามชาวบ้านแถวนี้มีน้ำใจดี และอยู่ไม่ห่างไหลจากกรุงเทพมหานครมากนัก น่าไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

ความสำคัญ ต่อชุมชน
เป็นที่ตั้งถิ่นฐานเดิมของ ชาวมอญและชาวลาว

เส้นทางเข้า สู่สถานที่สำคัญ
สามารถเดินทางเข้าชมได้โดยเรือหางยาวโดยไปขึ้นเรือที่เทศบาลเมืองปทุมธานี

---

 thank you for sharing us this sad story.that's why we called the siamese = JOONE SIAM 500!

ເຖີງຄົນໄທເຊືອສາຍລາວທີ່ຢູ່ໄທ ຄັນຄິດຮອດບ້ານ ປະເທດລາວແທ້ໆ ກໍ່ຂໍໃຫ້ມາຍາມໄດ້ ທັງສອງປະເທດເປີດໃຫ້ມາທຽ່ວແລ້ວ