ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ช่วงปลายปี 2554 นี้ มีนายทหารจากกองทัพประชาชนลาวอีกนับร้อยนายไปศึกษาอบรมระยะสั้นอยู่ใน เวียดนาม รวมทั้งจำนวนหนึ่งที่จะต้องกลับไปเป็นครูฝึกอบรมของกองทัพที่บ้านเกิดต่อไป หลักสูตรได้ย้ำถึงความสำคัญของ “3 ชาติอินโดจีน” และแผนการบ่อนทำลายของศัตรูผ่านกระบวนการสันติวิธีต่างๆ ซึ่งกองทัพกับประชาชนสองประเทศพี่น้องต้องระวัง นายทหารลาวจำนวนหนึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกอบรมระยะสั้นประจำปี 2554 ที่สถาบันป้องกันประเทศ กรุงฮานอย พิธีสำเร็จการศึกษาอบรมจัดขึ้นวันพฤหัสบดี 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นรายงานของกวนโด่ยเญินซเวิน (Quân đội Nhân dân) หรือ “กองทัพประชาชน” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันของกระทรวงกลาโหม พล.ท.หวอเตี๋ยนจุง (Võ Tiến Trung) ผู้อำนวยการสถาบัน กับผู้แทนจากกระทรวงกลาโหมเวียดนาม อีกหลายนายเข้าร่วมพิธีด้วย หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นปากเสียงของกองทัพกล่าว ทั้งหมดได้ผ่านการศึกษาอบรมความรู้ด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ การป้องกันประเทศกับความมั่นคงปลอดภัย ยุทธศาสตร์การทหาร และเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับวิชาครู เพื่อสนองความต้องการของสถาบันการศึกษาในสังกัดกองทัพประชาชนลาว และ ในการทดสอบปลายภาค ปรากฏว่า “ร้อยละร้อยของผู้ฝึกอบรมชาวลาวสามารถทำได้ตามเป้า” นายทหารอีกชุดหนึ่งจำนวน 50 คนจากกองพลที่ 5 และ จากกองบัญชาการทหารภาค 4 กองทัพประชาชนลาว ซึ่งอยู่ในภาคใต้ของประเทศ ได้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร 3 เดือนตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีมาเนิ่นนานระหว่างลาวกับ เวียดนาม เกี่ยวกับแผนการของกองกำลังปรปักษ์เพื่อ “การปฏิวัติอย่างสันติ” แบ่งแยก “3 ชาติอินโดจีน” ออกจากกัน “3 ชาติอินโดจีน” เป็นชื่อเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น เป็นการรวมตัวของ 3 ประเทศคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นแกนนำ พรรคประชาชนปฏิวัติลาว กับพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา (พรรคประชาชนกัมพูชาของรัฐบาลฮุนเซนปัจจุบัน) เป็นพรรคพี่น้อง กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนทุกทางจากอดีตสหภาพโซเวียต ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อยันกับการขยายอำนาจของจีน ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ต่างค่ายต่างอุดมการณ์ กับอีกทางหนึ่งต่อสู้ทางการเมืองกับกลุ่มอาเซียน 6 ประเทศในอดีต เพื่อรักษาระบอบเฮงสัมริน-เจียซิม-ฮุนเซน ที่เกิดใหม่ หลังเวียดนามส่งทหารนับแสนเข้าโค่นล้มระบอบเขมรแดงกลุ่มโปลโป้ท-เอียงสา รี-เคียวสมพร คอมมิวนิสต์สายจีนที่เป็นปรปักษ์ แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างรอบด้าน กัมพูชาเปลี่ยนจากการเป็นรัฐสังคมนิยม ไปเป็นระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตย ที่มีกษัตริย์เป็นประมุข และ จีนได้เข้าไปมีบทบาทอย่างรอบด้านและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในกัมพูชา และในลาว ตามรายงานของกวนโด่ยเญินซเวิน นายทหารลาวยังจะได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการโจมตีด้วย “อาวุธไฮเทค” ต่างๆ ยุทธวิธีของทหารราบ การประชุมบัญชาการ และเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการส่งกำลังบำรุงอีกด้วย หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นมีเป้าหมายช่วยให้นายทหารกองทัพประชาชนลาว เรียนรู้มากขึ้นทางด้านการเมืองและการบริหารจัดการด้านการทหารในระดับหน่วย การฝึกอบรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่กองทัพประชาชน ลาว และ กระชับความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องในระยะยาวระหว่างสองประเทศโดยรวมและโดยเฉพาะ อย่างยิ่งระหว่างกองทัพของสองประเทศ กวนโด่ยเญินซเวิน กล่าว
ຂອບໃຈທີ່ສະລະເຫື່ອແຮງກັອບເອົາຂ່າວນີ້ມາໃຫ້ອ່ານ ແລະ ຂໍສະແດງຄວາມຍິນດີນໍານາຍທະຫານລາວທຸກໆຄົນທີ່ໄດ້ຜ່ານການສຶກສາອົບຮົມຈາກກອງທັບຫວຽກນາມ ຊຶ່ງເປັນກອງທັບທີ່ເຂັ້ມແຂງ ແລະ ມີປະສົບການໃນການສູ້ຮົບ.
ຕາມທີ່ໄດ້ຍິນເຂົາເວົ້າ ລັດຖະບານລາວໄດ້ສົ່ງນາຍທະຫານໄປສຶກສາອົບຮົມໃນຫລາຍໆປະເທດ ເຊັ່ນ: ປະເທດຣັດເຊຍ, ຈີນ, ເກົາຫລີເໜືອ ແລະ ປະເທດອາເມຣິກາ(ສຶກສາ Medical Technology) ແຕ່ສື່ມວນຊົນອາດຈະບໍ່ໄດ້ເອົາມາຂ່າວ.
ກະດີຄືກັນເພື່ອຄັ້ງຫນ້າມາທະຫານວຽດຈັ່ງຄ່ອຍແກ້ເຄັດລັ່ບໃນວິທີຕີເສິກ
ຂອງທະຫານລາວໃດ້ຢ່າງສະບາຍເລີຍ!
Anonymous wrote:ทหาร นับหมื่นนายเข้าร่วมพิธีสวนสนามเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีการก่อตั้งนครทังลอง เมืองหลวงยุคโบราณซึ่งกลายมาเป็นกรุงฮานอยในปัจจุบัน พิธีจัดขึ้น ณ บริเวณจุตุรัสบาดี่งวันที่ 10 ต.ค.2553 ถึงแม้กองทัพประชาชนลาวกับกองทัพประชาชนเวียดนามจะเติบใหญ่และผ่านการต่อสู้ เพื่อเอกราชร่วมกันมาในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ แต่ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปก้าวไกลและมีอะไรอีกหลายอย่างที่ฝ่ายยังคง ต้องศึกษาเรียนรู้ ปีนี้มีนายทหารกองทัพลาวนับร้อยนายไปศึกษาอบรมในเวียดนาม. -- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ช่วงปลายปี 2554 นี้ มีนายทหารจากกองทัพประชาชนลาวอีกนับร้อยนายไปศึกษาอบรมระยะสั้นอยู่ใน เวียดนาม รวมทั้งจำนวนหนึ่งที่จะต้องกลับไปเป็นครูฝึกอบรมของกองทัพที่บ้านเกิดต่อไป หลักสูตรได้ย้ำถึงความสำคัญของ “3 ชาติอินโดจีน” และแผนการบ่อนทำลายของศัตรูผ่านกระบวนการสันติวิธีต่างๆ ซึ่งกองทัพกับประชาชนสองประเทศพี่น้องต้องระวัง นายทหารลาวจำนวนหนึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกอบรมระยะสั้นประจำปี 2554 ที่สถาบันป้องกันประเทศ กรุงฮานอย พิธีสำเร็จการศึกษาอบรมจัดขึ้นวันพฤหัสบดี 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นรายงานของกวนโด่ยเญินซเวิน (Quân đội Nhân dân) หรือ “กองทัพประชาชน” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันของกระทรวงกลาโหม พล.ท.หวอเตี๋ยนจุง (Võ Tiến Trung) ผู้อำนวยการสถาบัน กับผู้แทนจากกระทรวงกลาโหมเวียดนาม อีกหลายนายเข้าร่วมพิธีด้วย หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นปากเสียงของกองทัพกล่าว ทั้งหมดได้ผ่านการศึกษาอบรมความรู้ด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ การป้องกันประเทศกับความมั่นคงปลอดภัย ยุทธศาสตร์การทหาร และเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับวิชาครู เพื่อสนองความต้องการของสถาบันการศึกษาในสังกัดกองทัพประชาชนลาว และ ในการทดสอบปลายภาค ปรากฏว่า “ร้อยละร้อยของผู้ฝึกอบรมชาวลาวสามารถทำได้ตามเป้า” นายทหารอีกชุดหนึ่งจำนวน 50 คนจากกองพลที่ 5 และ จากกองบัญชาการทหารภาค 4 กองทัพประชาชนลาว ซึ่งอยู่ในภาคใต้ของประเทศ ได้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร 3 เดือนตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีมาเนิ่นนานระหว่างลาวกับ เวียดนาม เกี่ยวกับแผนการของกองกำลังปรปักษ์เพื่อ “การปฏิวัติอย่างสันติ” แบ่งแยก “3 ชาติอินโดจีน” ออกจากกัน “3 ชาติอินโดจีน” เป็นชื่อเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น เป็นการรวมตัวของ 3 ประเทศคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นแกนนำ พรรคประชาชนปฏิวัติลาว กับพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา (พรรคประชาชนกัมพูชาของรัฐบาลฮุนเซนปัจจุบัน) เป็นพรรคพี่น้อง กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนทุกทางจากอดีตสหภาพโซเวียต ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อยันกับการขยายอำนาจของจีน ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ต่างค่ายต่างอุดมการณ์ กับอีกทางหนึ่งต่อสู้ทางการเมืองกับกลุ่มอาเซียน 6 ประเทศในอดีต เพื่อรักษาระบอบเฮงสัมริน-เจียซิม-ฮุนเซน ที่เกิดใหม่ หลังเวียดนามส่งทหารนับแสนเข้าโค่นล้มระบอบเขมรแดงกลุ่มโปลโป้ท-เอียงสา รี-เคียวสมพร คอมมิวนิสต์สายจีนที่เป็นปรปักษ์ แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างรอบด้าน กัมพูชาเปลี่ยนจากการเป็นรัฐสังคมนิยม ไปเป็นระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตย ที่มีกษัตริย์เป็นประมุข และ จีนได้เข้าไปมีบทบาทอย่างรอบด้านและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในกัมพูชา และในลาว ตามรายงานของกวนโด่ยเญินซเวิน นายทหารลาวยังจะได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการโจมตีด้วย “อาวุธไฮเทค” ต่างๆ ยุทธวิธีของทหารราบ การประชุมบัญชาการ และเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการส่งกำลังบำรุงอีกด้วย หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นมีเป้าหมายช่วยให้นายทหารกองทัพประชาชนลาว เรียนรู้มากขึ้นทางด้านการเมืองและการบริหารจัดการด้านการทหารในระดับหน่วย การฝึกอบรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่กองทัพประชาชน ลาว และ กระชับความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องในระยะยาวระหว่างสองประเทศโดยรวมและโดยเฉพาะ อย่างยิ่งระหว่างกองทัพของสองประเทศ กวนโด่ยเญินซเวิน กล่าว
ອົບຮົມ ບໍ່ແມ່ນ ອົບລົມ
ໂອບລົມແມ່ນຄຳເວົ້າທີ່ຖື່ກຕ້ອງແລ້ວ