Pasalao

http://www.panaust.com.au/current-vacancies

ทุนใหญ่ไทยแลนด์ เศรษฐีฟอร์บส์ บริจาค"ปชป."สู้ศึกเลือกตั้ง วิตก"ทักษิณ"คัมแบ็ก?


เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่การเลือกตั้ง วิชาคณิตศาสตร์การเมืองก็เริ่มต้นขึ้น

นาย ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดโพลล่าสุด ว่า พท. ได้เสียงมาก 265-267 เสียง ในส่วนของพื้นที่ กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะได้ 16-18 เสียง จาก 33 เสียง

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า "เดี๋ยวนี้เก่งเลข นั่งนับอยู่ทุกวันทั้งเช้าทั้งเย็น นับตลอดเวลา โดยจะอยู่ที่ 200 กว่าเสียง แต่คงยากที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว"

ตาม หลักแล้ว หลังผลการเลือกตั้งออกมา พรรคใดที่ได้เสียงจำนวน 251 เสียง ก็จะได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่คำถามใหญ่ คือ หากไม่มีพรรคที่ได้คะแนนเสียงถึง 251 เสียง ขั้วใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล เป็นสิ่งที่ยากต่อการคาดเดา เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในประเทศนี้

คำ ถามคือ แล้วกลุ่มทุนใหญ่ทางธุรกิจ ลงขันให้พรรคการเมืองใด ถ้าเป็นเมื่อก่อน กลุ่มทุนมัก "แทงกั๊ก" ลงขันให้มากกว่าหนึ่งพรรคการเมือง แต่การเลือกตั้งปี 2554 อาจได้คำตอบที่แตกต่างออกไป?



"สุ เทพ เทือกสุบรรณ" ให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ" ก่อนหน้านี้ว่า "วันนี้ภาคเอกชน นักธุรกิจทั้งหลายเขาก็เรียกร้องให้เราอยู่ต่อ เพราะเราทำให้เขาสามารถค้าขายได้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มีรายได้มีกำลังซื้อ พอมีกำลังซื้อคนขายเขามีเงินเขาก็เอาไปลงทุนขยายกิจการ คนก็มีงานทำ มากขึ้น "

สิ่งที่ยืนยันคำพูดของ "เทพเทือก" อาจดูได้จากผู้บริจาคเงินซื้อโต๊ะงานระดมทุนพรรค เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 ที่มีเงินบริจาค (บางส่วน) จำนวน 202,540,900 บาท จาก 406 ราย แต่จริงๆ แล้ว นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการพรรค เปิดเผยว่า ยอดรวมเงินบริจาคที่ได้กว่า 600 ล้านบาท

รายชื่อผู้บริจาครายใหญ่ แยกออกได้ดังนี้

1. กลุ่มที่บริจาค 4 ล้านบาท มี 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท รัตนคีรี จำกัด บริษัท ออล อิน มายด์ 1 จำกัด บริษัท สำนักงานศักดิ์สิทธิ์ จำกัด บริษัท ทรงวาดริเวอร์ไซด์ จำกัด บริษัท ดลภาค จำกัด บริษัท ยู.ดับบลิว.ดี. มาร์เกตติ้ง จำกัด บริษัท แอลเอสพีวี จำกัด

2. กลุ่มที่บริจาค 2.5 ล้านบาท มี 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ปีติ ซีฟู้ดแอนด์มารีน มหาชัย จำกัด บริษัท คอนสตรัค ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด

3. กลุ่มที่บริจาค 2 ล้านบาท มี 24 บริษัท ได้แก่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถคอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด บริษัท 888 มีเดีย จำกัด บริษัท 999 มีเดีย จำกัด บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไฮกรีต โปรดักส์ แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด บริษัท สยามไวร์ อินดัสตรี จำกัด บริษัท ไพรเวท อินเตอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัท ประมวลผล จำกัด บริษัท เทพอรุโณทัย จำกัด

บริษัท แก้วขวัญ จำกัด บริษัท อธิมาตร จำกัด บริษัท เอส.พี.เอ็ม อาหารและเครื่องดื่ม จำกัด บริษัท เอเชียเบฟ จำกัด ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) บริษัท ถาวรลาภ (2010) จำกัด บริษัท ทองพล จำกัด บริษัท ที.พี.ดี.พิทักษ์สิทธิ์ จำกัด บริษัท เบตเตอร์ อิมแพค คอมมูนิเคชั่น จำกัด บริษัท เพิ่มโกศล จำกัด บริษัท เอ็นวาย เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด

และ 4. กลุ่มที่บริจาค 1 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด



ประเด็นที่น่าสนใจคือ กลุ่มทุนใหญ่ระดับมหาเศรษฐี "ฟอร์บส์" ที่บริจาคให้ ปชป. มีด้วยกันอย่างน้อย 3 รายคือ

หนึ่ง บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่มี "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

สอง คือ กลุ่มบริษัทในเครือ ไทยเบฟเวอเรจ อย่าง บริษัท ดลภาค จำกัด ของ "เจริญ สิริวัฒนภักดี" เจ้าพ่อเบียร์ช้าง

สาม คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ของ "ธนินท์ เจียรวนนท์" เช่น ทรูวิชั่น (ปี 2551)

ไม่นับรวมยักษ์รับเหมา อย่าง ช. การช่าง และแบงก์กรุงเทพ

หรือ แม้แต่ บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด" ของตระกูล "มหากิจศิริ" ของเจ้าสัว "ประยุทธ มหากิจศิริ" กลุ่มทุนเดิมพรรคไทยรักไทย ก็ยังลงขันให้ประชาธิปัตย์



หากตรวจสอบ ย้อนกลับไปดูยอดเงินบริจาค ปชป. จากข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตลอดปี 2553 พบว่า อันดับ 1 คือ พรรคประชาธิปัตย์ 22,119,851.33 บาท อันดับ 2 พรรคภูมิใจไทย 19,210,000 บาท อันดับ 3 พรรคเพื่อไทย 15,016,585.32 บาท อันดับ 4 พรรคเพื่อแผ่นดิน 8,224,000 บาท อันดับ 5 พรรคการเมืองใหม่ 7,767,436.10 บาท อันดับ 6 พรรคชาติไทยพัฒนา 4,950,000 บาท อันดับ 7 พรรคมาตุภูมิ 3,894,425 บาท

ปรากฏการณ์กลุ่มทุนใหญ่ บริจาคเงินให้ประชาธิปัตย์ ถูกมองว่า กลุ่มทุนขนาดใหญ่ของประเทศไทย หวาดวิตกว่า หาก "ทักษิณ" กลับมา อาจมีบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการแข่งขันทางธุรกิจ เหมือนเช่นในยุคทักษิณครองเมืองก็เป็นได้?