Pasalao

"ໂກ້ ວາດສະໜາ ສິງນາມວົງ"

Anonymous wrote:

---

"ບຸນສະຫວາດ ທຳມະຈັກ"

---

ເປັນຕາຢາກຫົວນຳພວກຜູ້ຊາຍເຕັ້ນຄ່ຽມເຮັດແອວອອ່ນນຳກ່ອນພວກຜູ້ຍິງທີ່ເປັນຄູ່ເຕັ້ນນຳນໍ້!
ເບິ່ງຄືວ່າພວກຜູ້ຍິງພາກັນເອົາກະເທີຍມາເປັນຄູ່ເຕັ້ນນຳນີ້ນະ.....

"ຜົວມັກເມົາ" ກຸຫລາບ ເມືອງເພັຍ

"ມາເບິ່ງໃກ້ໆ"

 

นโยบายปราบโกง: สังคมมือถือสากปากถือศีล

วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2011 เวลา 5 โมงเช้า


เคยตั้งข้อสังเกตว่า ในการประกาศนโยบายหาเสียงลากตั้งทั่วไปในวันที่3 0.04.11 ไม่มี สส พรรคโทนใดชูนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง ทั้งๆ ที่การทุจริตเป็นปัญหาเรื้อรัง รุนแรง ฝังรากลึกและสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติอย่างร้ายแรง
การแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของชาติโดยมิชอบ และการสูญเสียงบประมาณแผ่นดินมูลค่าหลายแสนแสนล้านกีบในแต่ละปี ล้วนเกิดจากการทุจริตและการใช้อำนาจของคนพรรค อย่างฉ้อฉล
ทรัพยากรและงบประมาณเหล่านี้ ถ้ามีการจัดสรรอย่างเป็นธรรมและนำไปใช้อย่างถูกต้องแล้ว คงช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนและสารพัดปัญหาที่กำลังเกาะกินประเทศลาวอยู่ทุกวันนี้ให้ บรรเทาเบาบางลง

แต่ทำไมบรรดาคนพรรคไม่กล้าชูนโยบายการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉลเหล่านี้

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูป สปปล ผู้คร่ำหวอดกับงานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาโดยล่าสุดเป็นหัวหน้าคณะวิจัยเรื่อง "ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในวงการธุรกิจเอกชนพรรค" ได้เด่นมองว่า เป็นธรรมดาที่คนพรรคต้องคิดเรื่องอะไรที่ประชาชนให้ความสำคัญมากที่ สุดก่อน ณ ขณะนี้คงหนีไม่พ้น แม่จ้างนางเลง คาชีโน เรื่องของแพง หลี้นพรรคชูพวก ส้อโกงที่เป็นเบอร์หนึ่ง เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำรงชีพ
ขณะเดียวกัน ช่วงที่ผ่านมา นโยบายประชานิยมพรรค(ทังแดกทังปล้น)ตั้งแต่สมัยรัฐบาลไกสอน ถีง บัวสอนไม่ได้ผลในการปราบปามการส้อพรรคบังพวกทำให้นโยบายของพรรคส่วนใหญ่จึงไม่เทจีตไม่เทไจไปทางนี้กันหมดเลีย จึงไม่แปลกใจ หากประเด็นการทุจริตคอร์รัปชั่น พรรคการเมืองลาวไม่เคยหยิบขึ้นมาชูเป็นโยบายเด่นเลย ใน การ หาเสียงลากตั้งครั้งที่ผ่านมา
นักวิชาการทีดี จาก ลาวนอก ปท เห็นว่า เมื่อคนพรรคส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตและมองว่า เป็นเรื่องไกลตัว ไม่ใช่ประเด็นที่ใช้ในการตัดสินกาบัตร ลากตั้ง ที่ ลากกันมาแล้ว 6 ครั้ง ฉะนั้น คนพรรค ผู้นำพรรค สะหายพรรค จึงมองว่า การชูนโยบายด้านนี้ก็ไร้ประโยชน์ ไม่รู้ว่าจะได้คะแนนเสียงหรือไม่ ถ้ายิ่งทำตามที่หาเสียงไม่ได้แล้ว ก็เสี่ยงกับการเสียเครดิตด้ว
"ต่างกันอย่างชัดเจนกับกรณีเกาหลีใต้ ที่มีแรงกดดันมาจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คนเกาหลีจะให้ความสำคัญกับการคอร์รัปชั่น ด้วยเชื่อว่า การคอร์รัปชั่นระหว่างรัฐบาลกับเอกชน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย กระทั่งในที่สุดความเชื่อดังกล่าว ทำให้รัฐบาลต่อๆ มาจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับนโยบายการต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพราะมิเช่นนั้น ก็จะไม่ได้ใจคนเกาหลี"
นักวีชาการ ลาวต่างแดนยังเห็นว่า สังคม ผดก แบบ ลาวแดง ลุกกำพล้า ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอว่า การทุจริตมันเกิดความเสียหายอย่างไร ไม่มีตัวอย่างใหนจะ ไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นจริงว่า คนพรรคทุจริตต้องถูกลงโทษ มีแต่คนที่ฟ้องร้องเรื่องการทุจริต สุดท้ายแล้วก็หลุดคดี ตัวอย่างเห็นแจ้ง ที่ สุด การลาก นย บัวสอน ออกจากตำแห่นง เ้พราะ
เมยเขารับเงีนกล้ิองโตะอย่างมากมาย เช่นเดียวกับ แม่้เขา(เมย ตำตาย 860ล้าน ดอน) รับมาแล้วจาก นายทุน ปท สีงกโปร ใน ปี 2001 ถีง 3 ล้าน ดล เพื่อ มอบ ตลาดเช้า ให้ เขาผุกขาด สร้างตลาดไห่ม แล้ว ให้ พ่อ ค้าแม่ค้า เช่า ในเวลา ต่อมาในราคาแพงที่สุด คิอ 10 m2 ในวงเงีน 125 000 ดล หริอ m2 หนื่ง 12 500 ดล แพงเท้ากับการเช่าร้าน ที่ โมสกุ ปารีส นีวยอก แบกแลง โรม ลอนดอน โตเกียว

" มีสะหาย สูณกลางพรรค กี่คน มีรัฐมนตรีพรรคกี่คน มีคนพรรค กี่คนที่ติดคุกใน อาณาจักร ลาวแดง ฉะนั้น คนลาวจึงยังไม่รู้สึกว่า ทุจริตจริงหรือ หรือว่าเป็นการกล่าวหา ไม่มีบทเรียน เพราะว่าไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย (อย่างจริงจัง อย่าง สปจ และ สปวน) ไม่มีกรณีตัวอย่าง เราจึงไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย" นักวีชาการลาวนอกตั้งคำถาม

คำอธิบายข้างต้นอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง แต่ในอีกด้านหนึ่งคนพรรค นักการการเมืองพรรคอาจรู้ว่า ถึงจะชูนโยบายดังกล่าวไป ก็ไม่มีใครเชื่อ "น้ำยา" ว่าจะทำได้จริง กลายเป็น "มุขแป้ก" เพราะที่ผ่านมา มีบทเรียนเห็นกันจะจะว่า ผู้นำรัฐบาลคนรคไหนที่ยิ่งทำท่าขึงขัง ประเภทออกจากถำชำเหนิอ(จน)แล้วไม่โกง หรืออ้างสารพัดกฎเหล็ก

รัฐบาลลาวแดงนั้นจะถูกประณามหรือกล่าวหาว่า โกงมากที่สุดจนต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ลาวยุคไห่ม ยุคพวกข้าปอ3ปอ4 ครองเมือง36 ปี

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ประชาชน ลาว 3 ล้านคนไม่มีสิทธิเลือกตั้ง(เขาลากกันเองมาแล้ว6 ครั้งดีๆ) จื่งไม่เป็นผู้ที่ส่งเสริมสนับสนุนวงจรอุบาทว์ ปล้นชาตีเหล่านี้ (รู้ ความรวยของคนพรรคทุกๆคน แค่ ทำอะไำรไม่ได้จรีงๆ)เพราะการลากตั้ง7ครั้งที่ผ่านมาเป็นที่ไม่ยอมรับ จากพวกเขา อยู่แล้ว