Pasalao

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ຫຼັກຖານທີ່ບົ່ງບອກວ່າພາສາໄທຍ ແລະອີສານຕ່າງກັນ
Anonymous

Date:
RE: ຫຼັກຖານທີ່ບົ່ງບອກວ່າພາສາໄທຍ ແລະອີສານຕ່າງກັນ
Permalink Closed


Anonymous wrote:

 

Anonymous wrote:

 

Anonymous wrote:

 

Anonymous wrote:

ນີ້ແຫລະເອົາເລື່ອງເພີ່ນມາໂສເຮັດໃຫ້ຜິດກັນລ້າໆ,
ດີແທ້ບໍ່ຕ້ອງໄປຫຍຸ້ງເລື່ອງເພີ່ນ,ຢູ່ໃຜຢູ່ມັນລະດີທີ່ສຸດ.




ອັນນີ້ພວກເຮົາບໍ່ໄດ້ມາຫາເຣື່ອງ ພຽງແຕ່ການປຽບຖ້ຽບເຣື່ອງພາສາເທົ່ານັ້ນ.

 




This is not a good comparision in terms of language. Good writers and grammarians never post such bull****ttt thread; It wastes your time. It'll never enhance your knowlede regarding the language. Instead, you'll see many people submiting such stupid posts, which has nothing to do with the language itself.

I recommend that you value your time to a language rather than talk blah-blah-blah to people who speak a language. Language and people are different!

 



Speaking of BAD GRAMMA!
What 's COMPARISION maens?  I only heard of a word " COMPAIRISON" instead of okay FOOL!!!!biggrin

 



My bad...I meant GRAMMAR.

 



__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

Anonymous wrote:

ນີ້ແຫລະເອົາເລື່ອງເພີ່ນມາໂສເຮັດໃຫ້ຜິດກັນລ້າໆ,
ດີແທ້ບໍ່ຕ້ອງໄປຫຍຸ້ງເລື່ອງເພີ່ນ,ຢູ່ໃຜຢູ່ມັນລະດີທີ່ສຸດ.


ຄວາມຄິດເທິງນັ້ນ ເປັນແນວຄິດທາດ.

ການໂສກັນ ການຄຸຍກັນໂດຍອ້າງເຫດອ້າງຜົນບໍ່ແມ່ນການຜິດກັນ

ເມື່ອມີບັນຫາ ບໍ່ສຶກສາບັນຫາ ເປັນແນວຄິດທີ່ລ້າຫຼັງ

ຫຼັກຖານທັງຫຼາຍທີ່ເຂົາຍົກມາເມື່ອມາປະຕິດປະຕໍ່ແລ້ວ ລ້ວນແຕ່ຄັງຄວາມຮູ້

ມີຄົນລາວ ທີ່ມີແນວຄິດແບບນີ້ຊາດສູນພັນແນ່ນອນ



__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

หัวอกลาว กรณีปราสาทพระวิหาร
มตีชน 01 กรกฎาคม 54
โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ ( จปล เจ็กปนลาว ) ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย ฟูมฟายว่าไทย"เสียดินแดน"แต่ไม่¬¬¬เคยบอกว่า "ได้ดินแดน" คนอื่นมาก่อนแล้ว ปราสาทพระวิหาร ยุครัชกาลที่ 5 ชาวสยามทั่วไปไม่รู้จัก

ไม่รู้ว่าเป็นอะไร? อยู่ที่ไหน?

คน ชั้นนำยุคนั้นจะรู้จักสักกี่คน? เพราะความวิตกกังวลยุครัชกาลที่ 5 ไม่ใช่เรื่องปราสาทพระวิหาร แต่เป็นเรื่องใหญ่กว่านั้น คืออธิปไตยที่แน่ชัด (หรือที่มหาอำนาจรับรอง) บนดินแดนอีสาน ขณะนั้นอันตราย เปราะบางอย่างยิ่ง

เพราะไม่รู้ว่าฝรั่งเศสที่ยึดครอง เวียดนาม, เขมร, ลาว จะบุกเข้ามาถึงอีสานของสยามหรือไม่? เนื่องจาก อีสานเหนือเป็นเขตวัฒนธรรมลาว ส่วน อีสานใต้เป็นเขตวัฒนธรรมเขมร

พูดกันตรงๆ อย่างปากชาวบ้านว่าครั้งนั้น อีสานเหนือเป็นลาว อีสานใต้เป็นเขมร

พ.ศ.2447-2450

รัฐบาลสยามยุครัชกาลที่ 5 ทำสนธิสัญญาเรื่องเขตแดนกับฝรั่งเศส ซึ่งมีพันธะให้ต้องยอมรับแผนที่แนบท้าย 1 : 200,000 ที่มีปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตกัมพูชาของฝรั่งเศส

รัฐบาลสยามยกเป็น "ความสำเร็จ" ยิ่งใหญ่ เพราะเท่ากับสยามมีอธิปไตยบนดินแดนอีสานอย่างแน่ชัดที่มีมหาอำนาจรับรอง เป็นอันหมดกังวลไป

ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยสมัยต่อมา เขียนว่าไทยต้องยอม "เสียดินแดน" บางส่วนให้ฝรั่งเศส เพื่อรักษาดินแดนบางส่วนไว้

แต่ คนลาวไม่คิดอย่างนั้น จะขอคัดเนื้อหาตอนนี้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์ลาว โดย สิลา วีระวงส์ (สำนัก
พีมพ์เมื่อพ.ศ.2539หน้า301)มีคว¬ามว่า
"ในหนังสือสัญญานั้นแม้สยามกับฝ¬¬รั่งเศสแบ่งปันกันเอ¬าแผ่นดินล¬า¬วและคนลาวที่อยู่ในแผ¬่นดินนั¬้น หรือเอาดินแดนลาวและคนลาวแลกเปล¬¬¬ี่ยนกับดินแดนเขมรและคนเขมร ซึ่งฝรั่งเศสกับสยามทำได้ตามใจใ¬¬¬นฐานะผู้เป็นนาย
ลาวเราที่อยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ¬¬¬โขงก็ได้แต่ลืมตาดูอยู่เฉยๆ ไม่มีสิทธิที่จะพูดจาอะไรได้ เพราะเป็นข้าเขาด้วยประการดังนี¬¬¬้
และตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา(ค.¬ศ1¬903)แผ่นดินลาวที่กว้างใหญ่ไ¬พศา¬ลรวมเนื้อที่ทั้งสองฝั่งแม่¬น้ำโข¬¬งม343,000 ตารางกิโลเมตรและมีพลเมืองลาวนั¬¬บเป็น

หลายๆ10ล้านคนก็ได้ถูกแบ่งแยกก¬¬¬ัน
โดยฝ่ายหนึ่งได้กลับกลายเป็นคนไ¬¬ทยแ¬ต่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนลาวทั¬้¬งที่คนเหล่านี้เป็นเชื้อชาติ¬¬เผ่าพันธุ์อันเดียวกันมีจารีตป¬¬ระเพณีพูดภาษาเดียวก¬ันมีอักษรศ¬าสตร์ใช้ประจำชาติมาแ¬ต่¬โบราณเ¬ป็นอันเดียวกันแต่ก็ต้¬องได้มาแ¬ยกกันเป็นคนละชา¬ติ"
ครูบาอาจารย์ในสถาบันการศึกษาที¬¬¬่เกี่ยวข้องประวัติศาสตร์โบรา¬ณ¬ค¬ดีน่าจะลดละเลิกเสียเวลาให้¬ท้¬ายปร¬ะเพณีรับน้องใหม่
แล้วหันมาร่วมกันศึกษาค้นคว้าวิ¬¬¬จัยเรื่องจริงๆในอดีตอย่างกรณ¬ี¬นี้เพื่อผลักดัน¬ให้มีความราบ¬รื¬่นร่มเย็นในประชา¬คมอาเซียน


__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

 

Anonymous wrote:

I strongly agree with you that Esan people have two faces they are very confusing which groups they are belonging to Lao or Siam. In facts if they are belong the groups Siam people, but Thai Bangkok people call them Lao and they go across Mekong river to Lao Vientiane and they call themselve Thais.  Thai Bangkok have confirmed that on TV News from Bangkok.  Esan is belong to Lao ancestors. from Korat, Ubon, Udon Konkean  are called center Lao and so on to Chaingmai.  Esan people are naived because they have no way out they have put themselve to slave to Siam people.  Thai Bangkok is richest people and best economic in southeast Asia.  Esan people is gold diger.  Seeing and believing Thai Bangkok threat them like dirts and killing thems like dogs.  they also called themselve red T-shirt for justice.  I think that Esan people low life people and they never have independence life until then they have to stand up by themselve and knowing which groups they are classify ones.  If they are still called themselve as thai people.  as long as Siam people still in control Esan they always being slaver forever.



ขอขอบใจท่านที่ได้แสดงความคิดเห็น แม้นจะเป็นภาษาต่างประเทศอีกซีกโลกหนึ่ง  ไม่ใช่ทั้งภาษาลาวและภาษาลาวที่คุ้นเคยกัน  แต่ก็พอยังเข้าใจความหมายใจความสำคัญที่ท่านต้องการสื่อสารได้พอสมควร ก่อนอื่นคงต้องอธิบายเพิ่มเติมว่า  ปัจจุบันประเทศไทยมีความปะปนกันในด้านเชื้อชาติในการอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้  กลุ่มคนที่ท่านเอ่ยถึงนั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงคนไทยหรือคนสยามแต่เดิม เลยสักนิดก็หาไม่  กลุ่มคนดังกล่าวต้นตระกูลหรือรากเหง้ามาจากการโล้สำเภาจากต่างประเทศ มาด้วยเสื่อผืนหมอนใบ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของล้นเกล้าล้นกระหม่อม ซึ่งทรงโปรดให้อยู่อาศัยทำกิน จนมีความร่ำรวยมั่งมีด้วยอำนาจวาสนาบารมี และอำนาจแห่งทรัพย์สินที่ตน  ปัจจุบันคนกลุ่มนี้ได้กลายเป็นคนไทยเชื้อสายจีนเป็นส่วนใหญ่  มีรกรากทำมาหากินอยู่ตามหัวเมืองใหญ่  ที่จะดูแคลนไม่ว่าคนไทย หรือคนสยามที่ท่านเรียก ตลอดจนไทยอีสาน หรือรวมทั้งบุคคลเชื้อสายลาว  โดยจะเรียกว่า "เหล่าเกี้ย" (อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน คนไทยเชื้อสายจีนที่ไม่รังเกียจ ລາວ ก็มีมากเช่นกัน) โดยมีเหตุผลสารพัดสารพัน ซึ่งเราและท่านทั้งหลายคงไม่ปรารถนาที่จะได้ยินได้ฟัง  ดังนั้นความที่ท่านได้แสดงมาเห็นคงไม่ผิด   จะเพี้ยนไปก็คงเป็นเรื่องคำว่า"ไทย"   ที่อยากจะให้เข้าใจเพิ่มเติมก็คือว่าคนไทยกลุ่มนั้นมิใช่หมายรวมเอาไทยทั้งหมดในประเทศนี้ 

        ไทยอีกหลายส่วนของประเทศนี้ ไทยตะวันออก  ไทยอีสาน ไทยกลาง  ไทยเหนือ  ไทยใต้  ยังคงมีความเป็นอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงด้วยการทำการเกษตร  ปลูกข้าว  ทำไร่ทำนา  สภาพชีวิตความเป็นอยู่ก็คงไม่แตกต่างกันมาก  ส่วนที่ท่านได้กล่าวถึงการเข้าไปขุดทองในกรุงเทพนั้น  ก็คงไม่เพียงแต่คนอีสานหรือไทยเชื้อสายลาวฝ่ายเดียว คงจากหลาย ๆ  ภาคเข้ากระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพ ฯ  เนื่องจากความแตกต่างเรื่องรายได้  เรื่องเศรษฐกิจเรื่องปากท้องเป็นหลัก  ซึ่งได้ส่งผลกระทบเชิงสังคม  ปัญหาความเสื่อมทรามลงของศีลธรรม ปัญหายาเสพติด ปัญหาสุขภาพ ปัญหาอาชญากรรม ตามที่ท่านได้ทราบแล้วนั้น

        สิ่งเหล่านี้คือบทเรียนของการพยายามพัฒนาประเทศไทย " ไม่มีอะไรที่ได้มา  โดยไม่ต้องเสียอะไรไป " เมื่อไม่นานนี้มีโอกาสได้ยินได้ข่าวการเปิดประเทศการเริ่มต้นพัฒนาอย่างจริงจังของประเทศลาว จึงได้ขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ด้วย  แต่อยากให้ประเทศลาวได้มีการพัฒนาประเทศที่ดี ปราศจากผลกระทบในเชิงเสื่อมทรามลงเหมือนประเทศไทยประเทศไทยในวันที่ข้าพเจ้าเกิด  กับเวลาที่ผ่านไป ๔๐ ปีในสายตาคู่เดิมของข้าพเจ้า ช่างแตกต่างกันอย่างมาก ในเชิงความเจริญทางวัตถุ ความสุขสบายมากขึ้น  แต่ความเสื่อมทรามลงของศีลธรรม การรู้จักพึ่งพาตนเองของเด็ก ๆ   การรักษาขนบธรรมเนียม  ความรู้จักเกรงชั่วกลัวบาป การแต่งกายเรียบร้อยสวยงามของวัยหนุ่มสาว กลับไม่ได้ปรากฏในสังคมอีกต่อไป  จริงอยู่สิ่งกล่าวถึงอาจจะเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งในสังคมในเมืองใหญ่ ที่มาจากปัญหาเลี้ยงดูในครอบครัวเป็นพื้นฐาน ตลอดจนสื่อต่าง ๆ ค่านิยมของอีกซีกโลกที่มีแสดงออกกันอย่างเสรีนิยมกันมากเกินไป ได้ส่งผลกระทบต่ออัตตลักษณ์ของประเทศไทยแล้วในวันนี้

         คนไทยกลุ่มหนึ่งจึงพยายามหันหลังให้สิ่งเหล่านั้น  กลับไปอยู่ที่บ้านเกิด  ทำไร่  ทำนา   บนพื้นฐานของเกษตรพอเพียงเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมีความสุขดีกว่าอยู่ในเมืองหลายเท่า  ชีวิตของคนไทยเชื้อสายอีสานจึงเป็นชีวิตต้นแบบ  ชีวิตที่มีภูมิความรู้ในการหาอยู่หากินสังคมเกษตร  ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ อยู่ตามเถียงนา (รวมทั้งตัวข้าพเจ้าด้วย)  แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ละทิ้งสิ่งเหล่านี้  ยึดข้าวของเงินตราวัตถุนิยมเป็นสรณะ ชอบสังคมเมือง สังคมแห่งความยุ่งยากซับซ้อน สังคมแห่งการแก่งแย่งแข่งขัน  และก็เป็นเหยื่อของสังคมจนเป็นที่มาของการถูกรังเกียจเดียดฉันท์ การไม่สามารถไม่พึ่งพาตนเองได้  ถูกเอกเปรียบในลักษณะการทำนาบนหลังคนจนนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมอย่างที่ท่านได้แสดงไว้แล้ว

 "If they are still called themselve as thai people.  as long as Siam people still in control Esan they always being slaver forever."

         สำหรับประโยคนี้คงต้องขออนุญาตตัดทอนมาพร้อมกับขออนุญาตที่จะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้    ตราบใดที่ข้าพเจ้าพร้อมกับคนไทยอีกหลายล้านคน หลายเชื้อชาติที่ได้ถือกำเนิดมาในแผ่นดินแม่ผืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายลาว  มอญ  เขมร  จีน  ญวน   ฯ  ยังมีชีวิตและมีลมหายใจอยู่ในพระราชอาณาจักรไทย  เป็นความถูกต้องที่จะเรียกตนเองว่า "ไทย"  ไม่มีใครเป็นทาสของใครนอกจากจะเลือกเส้นทางชีวิตให้เป็นเยี่ยงนั้นเอง  ทุกคนมีความอิสระแห่งความเป็นไทย   เมื่อตายแล้วก็ยังย่อมเป็นผีของแผ่นนี้

         ท้ายสุดเมื่อเกิดเป็นไทยแล้ว ความเป็นมาของเชื้อชาติจะเป็นเช่นไรเป็นเรื่องสุดกำหนดได้  แต่มีไว้ให้หวนคิดถึงรากเหง้าแห่งตน เป็นความภาคภูมิใจในสายเลือดนั้น ตลอดจนไม่เหยียดและดูแคลนชาติพันธุ์อื่น ๆ  เพียงเห็นว่าแตกต่างจากตน   หากเกิดเป็นคนไทย  ทำมาหากินอยู่เมืองไทย เกิด แก่ เจ็บ ตายที่แผ่นดินนี้  แต่ไม่เห็นความสำคัญหรือรังเกียจความเป็นไทยแล้วไซร้   กลับไปนิยมชมชอบชาติอื่น  ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่เป็น " เกิดเป็นไทย กายเป็นไทย  แต่ใจเป็นกบฏ"  ท่านเองคงเข้าใจได้ดี



ขออนุญาต เอาลำล่องที่เกี่ยวข้องกับหัวอกแม่กับการที่ลูกเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่มาให้ฟัง

 


 ได้อ่านข้อความที่คุณเขียนแล้ว เหันว่าถูกบางส่วนนะครับ ผมขอออกคำเหันบางส่วนนะครับ ปะเทดไทยพะยายามปิดบังรากเหง้าของเชื่อสายลาว พะยายามบ่อยากให้คนลาวที่พากอีสานรู้ต้นกำเนืดของคนลาวในพากอีสาน ลัดทะบานไทยหาทุกวีที่ทางเพื่อจะลบล้างคำว่า **ลาวอีสาน **ภาษาไทยเปันภาษากางและมีตัวตน แต่ภาษาอีสานไม่มีตัวตน ไม่มีอักสอน คนไทยส่วนใหญ่ชอบดูภูกคนอีสานหนัก ชอบว่าตัวเองดีเลีด แต่สีงเรวร้ายโยนถี้งให้คนอีสานรับแทน เพื่อนคนไทยที่ผมรู้จักเขามักบนกับผมว่า ** ทำไหมคนไทยดูภูกคนลาวแล้ว มาลงที่คนอีสานรับกำแทนคนลาว ** สายเหดนี้เขาคงคิดว่าอีสานคือส่วนนื่งของคนลาว เข้าไปเล่นเวบไทยส่วนมากชอบว่า ** คนอีสานเป็น....** ดังนั้นจิงพูดได้ว่าภาษาไทย กับภาษาอีสาน มันไม่เมือนกัน ถ้าดูที่ต้นแล้วเหันว่า คนอีสานไม่มีภาษาของตัวเอง ถ้ามีนะ แน้นอนได้ขื้นชื่อแล้ว ดูปะเทดเราดิ ปะเทดลาวอยังมีภาษลาว และ ภาษาขะโม้ ดังนั้นหลักถานของรากเหง้าของภาษาอีสานนั้นคือ ** ภาษาลาว **



__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

ສາຍເຊລຳເພົາ(ເຂົ້າມາຢາມ) wrote:

69289036465304945343.jpg


 สารานุกรม ปักษ์ใต้-ไทย-อังกฤษ ก็มี,สารานุกรม เหนือ-ไทย-อังกฤษ ก็มี, สารานุกรม ยาวี-ไทย-อังกฤษ ก็มี, แม้แต่ มอญ-ไทย-อังกฤษก็มี

อย่ามาตั้งกระทู้เจาะจงแค่ ภาษาอิสาน-ภาษาไทยสิวะ แสดงว่ามึงไม่รู้เหี้ยอะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมภาษาของประเทศไทยเลยนี่หว่า เห็นเหี้ยอะไรนิดๆหน่อยๆก็มาเอาเป็นกระทู้ ตั้งเห็นเรื่องซะใหญ่โต

ว่างๆมึงมาเที่ยวหาความรู้แท้ๆเป็นๆที่หอสมุดแห่งชาติก็ได้ บอกเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ไปเลย ว่ามึงมาศึกษาภาษาไทย แค่นี้มึงก็ได้รับการช่วยเหลือแทบจะอุ้มขี่หลังแล้ว

กระรอกแทะเอ๊ย



__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

ບໍ່ເຫັນເຂົ້າໃຈຄົນລາວກະຄິດກະທວງຢູ່ຕະຫຼອດວ່າຄົນອີສານແມ່ນຄົນລາວ ແຕ່ບັດກະໂຕຄົນອີສານເອງເຂົາພັດເວົ້າວ່າເຂົາບໍ່ແມ່ນລາວທັງໆທີ່ຄົນໄທທົ່ວໄປເຂົາກະເອີ້ນຄົນອີສານວ່າ ລາວ

ສົງໄສຈະແປວ່າຄົນອີສານ ແມ່ນຄົນລາວທີ່ເຕັມໃຈຢາກເປັນຄົນໄທທັງທີ່ຄົນໄທເຂົາກະບໍ່ໄດ້ຍອມຮັບ



__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

พวกมึงสปปลาว จงจำใส่หัวไว้

ประเทศกู ประเทศไทย จะอีสาน จะเหนือ ใต้ ออก ตก คือประเทศไทย

คนในภาคอีสานส่วนใหญ่ คือ คนเชื้อสายลาว

แต่ พวกกูบ่แมนประชากรของ สปปลาว ลาวที่เพิ่งตั้งขึ้นมาได้36ปี

แล้วพวกมึง หยุดเสือกเรื่องประเทศไทยได้แล้ว

เอาเวลาของมึงไปทำมาหาแดกดีกว่า

กูเข้ามาเว็บนี้ เหลืออดกับพวกมึงหลายเที่ยวแล้ว

ตั้งกระทู้ ด่าไทยประจำ

อย่าให้กูซังพวกมึงหลายกว่านี้เด้อ



__________________
Anonymous

Date:
Permalink Closed

Anonymous wrote:
Anonymous wrote:
Anonymous wrote:

 

Anonymous wrote:

I strongly agree with you that Esan people have two faces they are very confusing which groups they are belonging to Lao or Siam. In facts if they are belong the groups Siam people, but Thai Bangkok people call them Lao and they go across Mekong river to Lao Vientiane and they call themselve Thais.  Thai Bangkok have confirmed that on TV News from Bangkok.  Esan is belong to Lao ancestors. from Korat, Ubon, Udon Konkean  are called center Lao and so on to Chaingmai.  Esan people are naived because they have no way out they have put themselve to slave to Siam people.  Thai Bangkok is richest people and best economic in southeast Asia.  Esan people is gold diger.  Seeing and believing Thai Bangkok threat them like dirts and killing thems like dogs.  they also called themselve red T-shirt for justice.  I think that Esan people low life people and they never have independence life until then they have to stand up by themselve and knowing which groups they are classify ones.  If they are still called themselve as thai people.  as long as Siam people still in control Esan they always being slaver forever.



ขอขอบใจท่านที่ได้แสดงความคิดเห็น แม้นจะเป็นภาษาต่างประเทศอีกซีกโลกหนึ่ง  ไม่ใช่ทั้งภาษาลาวและภาษาลาวที่คุ้นเคยกัน  แต่ก็พอยังเข้าใจความหมายใจความสำคัญที่ท่านต้องการสื่อสารได้พอสมควร ก่อนอื่นคงต้องอธิบายเพิ่มเติมว่า  ปัจจุบันประเทศไทยมีความปะปนกันในด้านเชื้อชาติในการอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้  กลุ่มคนที่ท่านเอ่ยถึงนั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงคนไทยหรือคนสยามแต่เดิม เลยสักนิดก็หาไม่  กลุ่มคนดังกล่าวต้นตระกูลหรือรากเหง้ามาจากการโล้สำเภาจากต่างประเทศ มาด้วยเสื่อผืนหมอนใบ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของล้นเกล้าล้นกระหม่อม ซึ่งทรงโปรดให้อยู่อาศัยทำกิน จนมีความร่ำรวยมั่งมีด้วยอำนาจวาสนาบารมี และอำนาจแห่งทรัพย์สินที่ตน  ปัจจุบันคนกลุ่มนี้ได้กลายเป็นคนไทยเชื้อสายจีนเป็นส่วนใหญ่  มีรกรากทำมาหากินอยู่ตามหัวเมืองใหญ่  ที่จะดูแคลนไม่ว่าคนไทย หรือคนสยามที่ท่านเรียก ตลอดจนไทยอีสาน หรือรวมทั้งบุคคลเชื้อสายลาว  โดยจะเรียกว่า "เหล่าเกี้ย" (อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน คนไทยเชื้อสายจีนที่ไม่รังเกียจ ລາວ ก็มีมากเช่นกัน) โดยมีเหตุผลสารพัดสารพัน ซึ่งเราและท่านทั้งหลายคงไม่ปรารถนาที่จะได้ยินได้ฟัง  ดังนั้นความที่ท่านได้แสดงมาเห็นคงไม่ผิด   จะเพี้ยนไปก็คงเป็นเรื่องคำว่า"ไทย"   ที่อยากจะให้เข้าใจเพิ่มเติมก็คือว่าคนไทยกลุ่มนั้นมิใช่หมายรวมเอาไทยทั้งหมดในประเทศนี้ 

        ไทยอีกหลายส่วนของประเทศนี้ ไทยตะวันออก  ไทยอีสาน ไทยกลาง  ไทยเหนือ  ไทยใต้  ยังคงมีความเป็นอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงด้วยการทำการเกษตร  ปลูกข้าว  ทำไร่ทำนา  สภาพชีวิตความเป็นอยู่ก็คงไม่แตกต่างกันมาก  ส่วนที่ท่านได้กล่าวถึงการเข้าไปขุดทองในกรุงเทพนั้น  ก็คงไม่เพียงแต่คนอีสานหรือไทยเชื้อสายลาวฝ่ายเดียว คงจากหลาย ๆ  ภาคเข้ากระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพ ฯ  เนื่องจากความแตกต่างเรื่องรายได้  เรื่องเศรษฐกิจเรื่องปากท้องเป็นหลัก  ซึ่งได้ส่งผลกระทบเชิงสังคม  ปัญหาความเสื่อมทรามลงของศีลธรรม ปัญหายาเสพติด ปัญหาสุขภาพ ปัญหาอาชญากรรม ตามที่ท่านได้ทราบแล้วนั้น

        สิ่งเหล่านี้คือบทเรียนของการพยายามพัฒนาประเทศไทย " ไม่มีอะไรที่ได้มา  โดยไม่ต้องเสียอะไรไป " เมื่อไม่นานนี้มีโอกาสได้ยินได้ข่าวการเปิดประเทศการเริ่มต้นพัฒนาอย่างจริงจังของประเทศลาว จึงได้ขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ด้วย  แต่อยากให้ประเทศลาวได้มีการพัฒนาประเทศที่ดี ปราศจากผลกระทบในเชิงเสื่อมทรามลงเหมือนประเทศไทยประเทศไทยในวันที่ข้าพเจ้าเกิด  กับเวลาที่ผ่านไป ๔๐ ปีในสายตาคู่เดิมของข้าพเจ้า ช่างแตกต่างกันอย่างมาก ในเชิงความเจริญทางวัตถุ ความสุขสบายมากขึ้น  แต่ความเสื่อมทรามลงของศีลธรรม การรู้จักพึ่งพาตนเองของเด็ก ๆ   การรักษาขนบธรรมเนียม  ความรู้จักเกรงชั่วกลัวบาป การแต่งกายเรียบร้อยสวยงามของวัยหนุ่มสาว กลับไม่ได้ปรากฏในสังคมอีกต่อไป  จริงอยู่สิ่งกล่าวถึงอาจจะเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งในสังคมในเมืองใหญ่ ที่มาจากปัญหาเลี้ยงดูในครอบครัวเป็นพื้นฐาน ตลอดจนสื่อต่าง ๆ ค่านิยมของอีกซีกโลกที่มีแสดงออกกันอย่างเสรีนิยมกันมากเกินไป ได้ส่งผลกระทบต่ออัตตลักษณ์ของประเทศไทยแล้วในวันนี้

         คนไทยกลุ่มหนึ่งจึงพยายามหันหลังให้สิ่งเหล่านั้น  กลับไปอยู่ที่บ้านเกิด  ทำไร่  ทำนา   บนพื้นฐานของเกษตรพอเพียงเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมีความสุขดีกว่าอยู่ในเมืองหลายเท่า  ชีวิตของคนไทยเชื้อสายอีสานจึงเป็นชีวิตต้นแบบ  ชีวิตที่มีภูมิความรู้ในการหาอยู่หากินสังคมเกษตร  ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ อยู่ตามเถียงนา (รวมทั้งตัวข้าพเจ้าด้วย)  แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ละทิ้งสิ่งเหล่านี้  ยึดข้าวของเงินตราวัตถุนิยมเป็นสรณะ ชอบสังคมเมือง สังคมแห่งความยุ่งยากซับซ้อน สังคมแห่งการแก่งแย่งแข่งขัน  และก็เป็นเหยื่อของสังคมจนเป็นที่มาของการถูกรังเกียจเดียดฉันท์ การไม่สามารถไม่พึ่งพาตนเองได้  ถูกเอกเปรียบในลักษณะการทำนาบนหลังคนจนนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมอย่างที่ท่านได้แสดงไว้แล้ว

 "If they are still called themselve as thai people.  as long as Siam people still in control Esan they always being slaver forever."

         สำหรับประโยคนี้คงต้องขออนุญาตตัดทอนมาพร้อมกับขออนุญาตที่จะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้    ตราบใดที่ข้าพเจ้าพร้อมกับคนไทยอีกหลายล้านคน หลายเชื้อชาติที่ได้ถือกำเนิดมาในแผ่นดินแม่ผืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายลาว  มอญ  เขมร  จีน  ญวน   ฯ  ยังมีชีวิตและมีลมหายใจอยู่ในพระราชอาณาจักรไทย  เป็นความถูกต้องที่จะเรียกตนเองว่า "ไทย"  ไม่มีใครเป็นทาสของใครนอกจากจะเลือกเส้นทางชีวิตให้เป็นเยี่ยงนั้นเอง  ทุกคนมีความอิสระแห่งความเป็นไทย   เมื่อตายแล้วก็ยังย่อมเป็นผีของแผ่นนี้

         ท้ายสุดเมื่อเกิดเป็นไทยแล้ว ความเป็นมาของเชื้อชาติจะเป็นเช่นไรเป็นเรื่องสุดกำหนดได้  แต่มีไว้ให้หวนคิดถึงรากเหง้าแห่งตน เป็นความภาคภูมิใจในสายเลือดนั้น ตลอดจนไม่เหยียดและดูแคลนชาติพันธุ์อื่น ๆ  เพียงเห็นว่าแตกต่างจากตน   หากเกิดเป็นคนไทย  ทำมาหากินอยู่เมืองไทย เกิด แก่ เจ็บ ตายที่แผ่นดินนี้  แต่ไม่เห็นความสำคัญหรือรังเกียจความเป็นไทยแล้วไซร้   กลับไปนิยมชมชอบชาติอื่น  ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่เป็น " เกิดเป็นไทย กายเป็นไทย  แต่ใจเป็นกบฏ"  ท่านเองคงเข้าใจได้ดี



ขออนุญาต เอาลำล่องที่เกี่ยวข้องกับหัวอกแม่กับการที่ลูกเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่มาให้ฟัง

 


 ได้อ่านข้อความที่คุณเขียนแล้ว เหันว่าถูกบางส่วนนะครับ ผมขอออกคำเหันบางส่วนนะครับ ปะเทดไทยพะยายามปิดบังรากเหง้าของเชื่อสายลาว พะยายามบ่อยากให้คนลาวที่พากอีสานรู้ต้นกำเนืดของคนลาวในพากอีสาน ลัดทะบานไทยหาทุกวีที่ทางเพื่อจะลบล้างคำว่า **ลาวอีสาน **ภาษาไทยเปันภาษากางและมีตัวตน แต่ภาษาอีสานไม่มีตัวตน ไม่มีอักสอน คนไทยส่วนใหญ่ชอบดูภูกคนอีสานหนัก ชอบว่าตัวเองดีเลีด แต่สีงเรวร้ายโยนถี้งให้คนอีสานรับแทน เพื่อนคนไทยที่ผมรู้จักเขามักบนกับผมว่า ** ทำไหมคนไทยดูภูกคนลาวแล้ว มาลงที่คนอีสานรับกำแทนคนลาว ** สายเหดนี้เขาคงคิดว่าอีสานคือส่วนนื่งของคนลาว เข้าไปเล่นเวบไทยส่วนมากชอบว่า ** คนอีสานเป็น....** ดังนั้นจิงพูดได้ว่าภาษาไทย กับภาษาอีสาน มันไม่เมือนกัน ถ้าดูที่ต้นแล้วเหันว่า คนอีสานไม่มีภาษาของตัวเอง ถ้ามีนะ แน้นอนได้ขื้นชื่อแล้ว ดูปะเทดเราดิ ปะเทดลาวอยังมีภาษลาว และ ภาษาขะโม้ ดังนั้นหลักถานของรากเหง้าของภาษาอีสานนั้นคือ ** ภาษาลาว **


 จริง อันนี้ไม่เถียง ประวัติศาสตร์เขียนโดยผู้ขนะ ครอบครอง ล้างสมองผู้แพ้ให้อยู่ใต้อำนาจ คนอิสานส่วนใหญ่ใช้ภาษาพูดสำเนียงลาวใต้ฟังดูจะต่างจากภาษาที่ใช้พูดในเวียงจันทร์

ถ้าถามว่าทำไมไทยต้องการไม่ให้คนลาว(อิสาน)มีภาษาเขียน เพราะว่าปัญหาเกี่ยวกับความั่นคง หลังสงครามพระนั่งเกล้าฯ-เจ้าอนุวงศ์ พระนั่งเกล้าฯสั่งให้มีแต่ภาษาพูด แม้แต่ทุกวันนี้อิสานก็พูดลาวแต่สำนวนไทย เขียนภาษาไทยเรียนภาษาไทย แต่ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้ต่างกันกับพี่น้องลาวที่อยู่อีกฟากฝั่งโขงเลย ต่างกันแค่ความรู้สึกด้านการเมืองการปกครองที่ฝ่ายปกครองสูงสุดของแต่ละประเทศยัดเยียดให้ ลาวฝั่งหนึ่งก็โดนฝังหัวเป็นอีกอย่าง ส่วนลาวอีกฝั่งก็โดนฝังหัวเป็นอีกอย่าง คนอิสานกับคนลาวถึงแม้จะมีภาษาพูดเหมือนๆกัน มีDNAที่เหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกด้านคนชาติพันธุ์ ชนชาติ ประชาชาติ ก็ต้องมาแตกต่างกันเป็นฉะนี้แลฯ



__________________


Newbie

Status: Offline
Posts: 1
Date:
Permalink Closed

ສະບາຍດີທຸກທ່ານ
ພໍດີຂ້າພະເຈັ້າມີຄວາມນັບຖື ທ່ານອາຈານເຈົ້າຂອງກະທູ້ນີ້ ພໍສະມັກສະມາຊິກແລ້ວ ກະເຂົ້າອ່ານກະທູ້ນີ້ກ່ອນເລີຍ
ບາດໄດ້ເຂົ້າມາອ່ານບົດຄວາມຂອງຫຼາຍທ່ານແລ້ວ ກະມີຄຳເຫັນເຈົ້າຂອງຢູ່ ຍ້ອນວ່າເປັນຄົນພາກອີສານ ເກິດໃນແຜ່ນດິນໄທຍ
ຍັງໂຊກດີທີ່ເປັນປະຊາກອນກູ່ມໃຢ່ ຢູ່ຈັງຫວັດສະກົນນະຄອນ ເວົ້າພາສາຫຍ້ອ ມີພາສາຂຽນຂອງເຈົ້າຂອງ ເອິ້ນວ່າ ອັກສອນທັມ
ອັກສອນໄທນ້ອຍ ( ແຕ່ຍັງຫາເວັບຂຽນເວັບອ່ານຢູ່ ) ມີຄຳເຫັນດັງນີ້
ຄົນສີໂຄຕະບູນ + ຄົນລ້ານນາ + ຄົນລ້ານຊ້າງ + ຄົນຈຳປາສັກ ເປັນກູ່ມຄົນທີ່ສື່ສານພາສາລາວເຂົ້າໃຈກັນ ແຕ່ຊາດພັນ ໂຄງກະດູກ
ດີເອັນເອ ຂອງຂະເຈົ້າຕ່າງກັນຢູ່ ບາງເຜ່າພັນດັງໂດ່ງສູງ (ສະກົນນະຄອນ) ບາງພັນດັງແຫມບ (ອຸບົນ) ຄາງໃຢ່(ໂຄຮາດ) ຄາງນ້ອຍ (ເລີຍ) ຜົນຂອງການແກ່ງແຍ່ງແຜ່ນດິນຂອງຄົນບູຮານ ເພື່ອມາໄວ້ໃຫ້ລູກຫຼານເຮັດໃຫ້ ຄົນສີໂຄຕະບູນກັບຄນລ້ານຊ້າງ ກາຍມາເປັນພົນລະເມືອງໄທຍ ມາອາໄສໃນແຜ່ນດິນໄທຍປະຈຸບັນ ໂດຍຢູ່ລ່ວມກັບຄົນສຍາມ ມອນ ຈີນ ຍວນ ປັກໃຕ້ ມຸສລິມ
ສ່ວນຄົນລ້ານຊ້າງ ຈຳປາສັກ ມົ້ງ ໃຕ໋ໃຢ່ ໃຕ໋ຊົ້ງດຳ ຍວນຈີນ ຊົນເຜົ່າເທິງພູ ໃຕ້ພູ ກະອາໄສລ່ວມແຜ່ນດິນລາວໃນປະຈຸນັນ
ຫາກຊົນຈູ່ເຜົ່າພັນ ມີຄວາມຮັກ ອາທອນ ໃນເພື່ນມະນຸດດ້ວຍກັນ ກະສາມາດພາລູກຫຼານ ຢູ່ພັກອາໄສ ທຳມາຫາກິນ ເຕິບໃຢ່ ໃນແຜ່ນດິນ
ຂອງແຕ່ລະເຂຕປະເທດໄດ້ຢ່າງມີຄວາມສຸກ ບໍ່ມີເສິກສົງຄາມ ບໍ່ຕ້ອງເສຍເລືດ ເສຍເນື້ ໃຫ້ລູກຫຼານເສຍອົກ ເສຍໃຈ ກັນປະຫວັດສາດອີກ
ຫາກຄົນປະຈຸບັນ ປະສົງສິລວມຄົນເຊື້ອຊາດດຽວກັນໃຫ້ມາຢູ່ລວມກັນໃນແຜ່ນດຶນອານາເຂຕປະເທດດຽວກັນ ກະພອມີທາງ
ຄື ເລືກຮັດຖະບານທີ່ມີນະໂຍບາຍ ສິອອກກົດໝາຍ ທີ່ອະນຸຍາດໃຫ້ຄົນເຊື້ຊາດດຽວກັນ ພາລູກຫຼານເຂົ້າມາອາໄສໃນປະເທດທີ່ໂຕເອັງມີເຊື້ຊາດໄດ້ ໃຫ້ໄດ້ສັນຊາດ ຕາມເຊື້ຊາດທີ່ມີ ແລະໃຫ້ໄດ້ມີສິດຊື້ສະໂໜດທີ່ດິນ ເປັນເຈົ້າຂອງທີ່ດິນທີ່ນາໄຮ່ໄວ້ພາລູກຫຼານຫາຢູ່ຫາກິນໃນປະເທດໄດ້ ຈະເກິດກາຮອົບພະຍົບກັບປະເທດຂອງຜູ້ມີຄວາມຮູ້ສູງ ສະຫຼາດ ມີໄຫວພິບ ເປັນຜົນດີຕໍ່ການພັດທະນາປະເທດ ຫາກປະຊາຊົນຂອງປະເທດໃດເລືກນະໂຍບາຍນີ້ມາບໍລິຫານປະເທດ ຜູ້ສົນໃຈ ຂໍຮັບສິດດັງກ່າວ ບໍ່ນ້ອຍເລີຍ

__________________
«First  <  1 2 3 4 | Page of 4  sorted by
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard