Pasalao

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ข่าวดีของโลก
Anonymous

Date:
ข่าวดีของโลก


มีงานวิจัยของแพทย์ไทย พบการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกมีโอกาสหายขาดได้ ในกรณีตรวจพบเชื้อเอชไอวีในระยะเริ่มแรกไม่เกิน 1 สัปดาห์ และจะต้องกินยาติดต่อกันถึง 5 ปี จึงจะควบคุมเชื้อได้

ศ.นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในการประชุมแพทย์และนักวิจัยเกี่ยวกับโรคเอดส์และโรคติดเชื้อฉวยโอกาสระดับโลก ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีการเสนองานวิจัยใหม่ ๆ จากทั่วโลก แต่ที่ได้รับความสนใจมากสุด คือ งานวิจัยของแพทย์หญิงไทยเกี่ยวกับการทดลองกับอาสาสมัครของคลินิกนิรนาม ที่มาตรวจเชื้อเอชไอวีแล้วพบในระยะเริ่มแรกไม่เกิน 1 สัปดาห์ หลังจากรับเชื้อแล้วให้กินยาสูตรเบื้องต้นทันที หลังเฝ้าติดตามผลปรากฏว่าแทบจะไม่พบเชื้อหลงเหลืออยู่ในร่างกาย หรือพบบางส่วนที่น้อยมาก ถือเป็นงานวิจัยของไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ซึ่งงานวิจัยนี้ใช้ระบบแน็ต (NAT: Nucleic Acid Amplification Testing) เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้ตรวจจากสารพันธุกรรม เพียงแค่สงสัยว่ารับเชื้อเอดส์มา 5 วันขึ้นไปก็ตรวจพบได้แล้ว ใช้เวลาเพียง 1-2 วัน เมื่อรู้ผลเร็วและรีบกินยาทันทีจะช่วยหยุดการแพร่เชื้อไปอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย

เงื่อนไขสำคัญ คือ คนที่จะรักษาหายได้หมายถึงต้องเริ่มกินยาตั้งแต่ติดเชื้อมาใหม่ๆ เพราะเชื้อเอชไอวียังไม่แพร่กระจายออกไป หากผู้ใดสงสัยว่าไปมีเซ็กส์เสี่ยง หรืออาจได้รับเชื้อเอดส์เข้าร่างกายด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม ให้รีบมาตรวจ ถ้าพบเร็วแล้วให้กินยาทันทีจะมีโอกาสรักษาหายได้มากกว่า โดยไม่ต้องกินยาทุกวันทั้งชีวิตเหมือนผู้ป่วยเอดส์ทั่วไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้หมด 100% ซึ่งผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงควรรีบมาตรวจหาเชื้อทันทีที่สงสัย หรือรู้ตัว

 



__________________
Anonymous

Date:

ຂໍສະແດງຄວາມຍິນດີນໍານັກການແພດໄທຫຼາຍໆເດີ.



__________________
Anonymous

Date:

ความหวัง"ผู้ป่วยเอดส์" พบเชื้อไว-รักษาหายขาดได้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ในวงการแพทย์ไทย

ภายหลังจาก ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าว "ก้าวแรกของความเป็นไปได้ในการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกให้หายขาด" ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ว่า

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ได้นำเสนอผลการศึกษาวิจัยโครงการตรวจหาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะเฉียบพลัน ภายใต้ความร่วมมือเพื่อการวิจัยระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฮาวาย (เซิร์ช) ในการตรวจเลือดวิธีใหม่เพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรก ในการประชุมนานาชาติ Conference on Retroviruses and Opportunistic Infections ที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ด้วยวิธีการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี (NAT) ซึ่งมีความไวและแม่นยำสูง สามารถใช้ตรวจหาการติดเชื้อที่เพิ่งรับมาประมาณ 5 วันขึ้นไปได้

"ผลการศึกษาพบว่า ถ้าตรวจพบตั้งแต่สัปดาห์แรกของการรับเชื้อแล้วรีบให้ยาต้านไวรัสทันที จะทำให้สามารถดักเชื้อไม่ให้ฝังตัวในเซลล์เพื่อขยายพันธุ์ในระยะยาวได้ และมีแนวโน้มที่จะรักษาได้หายขาดและหยุดยาต้านไวรัสได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็สนับสนุนสมมติฐานที่ว่าหากรักษาได้เร็วก็อาจช่วยกู้ภูมิคุ้มกันคนไข้ให้กลับคืนมาได้ สอดคล้องกับกรณีที่พบว่า เด็กจากรัฐมิสซิสซิปปี สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการใช้ยาต้านไวรัสตั้งแต่รับเชื้อใหม่ๆ จนเป็นข่าว โด่งดังไปทั่วโลก" ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์กล่าว
รศ.พญ.จินตนาถ อนันต์วรณิชย์ หัวหน้าหน่วยวิจัยเซิร์ช ร่วมแถลงว่า

โครงการเซิร์ซ 010 หรือ อาร์วี 254 มีจุดประสงค์เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีระยะเฉียบพลัน หรือช่วง 4 สัปดาห์แรกของการ ติดเชื้อ

โดยจะให้การรักษาในช่วงที่มีการทำลายภูมิคุ้มกันอย่างรุนแรง และเพิ่มจำนวนของเชื้ออย่างรวดเร็วในเม็ดเลือดขาวและอวัยวะต่างๆ เพื่อลดเชื้อที่หลบซ่อนในร่างกายด้วยการให้ยาต้านไวรัส

จากนั้นในระยะ 2 จะเริ่มกำจัดเชื้อที่หลบซ่อนในร่างกายด้วยการให้วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้ยากระตุ้นเชื้อที่หลบซ่อนแสดงตัว เพื่อให้ยาต้านไวรัสสามารถกำจัดเชื้อได้ และให้ยาลดอาการอักเสบ ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เชื้อเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว

ส่วนในระยะที่ 3 จะควบคุมเชื้อโดยไม่ต้องรักษาด้วยยาต้านไวรัส ด้วยการหยุดยา ซึ่งจะมีการวิจัยติดตามอย่างใกล้ชิด โดยตั้งเป้าว่า ผู้ป่วยจะสามารถหายขาดจากการติดเชื้อเอชไอวีได้

รศ.พญ.จินตนาถ กล่าวอีกว่า ขณะนี้โครงการเซิร์ชยังอยู่ในการศึกษาขั้นแรก คือ การลดเชื้อ ที่หลบซ่อนในร่างกาย ซึ่งขณะนี้มี ผู้ป่วยเอชไอวีเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 96 คน ตั้งเป้าให้มีผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการ 150 คน

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการมาจากผู้ที่มารับบริการการตรวจเชื้อเอชไอวีที่ "คลินิกนิรนาม" ตั้งแต่ปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 60,000 คน โดยตรวจหาแอนติบอดีต่อเอชไอวีด้วยวิธีที่มีความไวสูง แล้วพบว่า มีผลตรวจเป็นบวกทั้งสิ้น 5,000 คน ส่วนกลุ่มที่ให้ผลเป็นลบได้นำไปตรวจด้วยวิธี NAT ปรากฏว่า พบการติดเชื้อระยะเฉียบพลันถึง 100 คน จึงได้ขอให้ผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

col02190356p3.jpg&width=360&height=360
ซ้าย.ตรวจเชื้อเอชไอวี

ขวา.ประพันธ์ ภานุภาค




โดยในกลุ่มผู้ป่วย 75 คนแรกที่เข้าร่วมโครงการ พบว่ามีจำนวน 24 คนที่ติดเชื้อแบบเฉียบพลันไม่เกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งจากการวินิจฉัยพบว่าเชื้อยังไม่เข้าไปแทรกตัวในเม็ดเลือดขาวและลำไส้ใหญ่

เมื่อรักษาด้วยการให้ยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี พบว่า ในกลุ่มดังกล่าวยังคงไม่พบเชื้อเอชไอวีในเม็ดเลือดขาว และร้อยละ 75 ไม่พบเชื้อเอชไอวีในลำไส้ใหญ่ หลังรักษาต่อเนื่องนาน 6 เดือน ซึ่งพบว่ายิ่งได้รับการตรวจหาเร็วก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้น

"การศึกษาดังกล่าวจึงเป็นความหวังว่าการเริ่มให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีในระยะติดเชื้อเฉียบพลัน สามารถลดปริมาณเชื้อเอชไอวีในร่างกายให้ต่ำมาก เป็นก้าวแรกที่อาจนำมาสู่การรักษาเอชไอวีให้หายได้ จึงขอแนะนำให้ประชาชนทั่วไปที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ควรตรวจหาเอชไอวีอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยเอชไอวีที่ติดเชื้อเฉียบพลัน ซึ่งระยะแรกจะมีอาการ ไข้ ปวดหัว เพลีย แผลในปาก ผื่น เจ็บคอ และถ่ายเหลว แต่ส่วนมากมักเสียโอกาสเพราะไปตรวจที่สถานพยาบาลอื่น จึงไม่ได้รับคำแนะนำให้ตรวจหาเชื้อเอชไอวี" รศ.พญ.จินตนาถ กล่าว


ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า

ขอชื่นชมความสำเร็จในการศึกษาวิจัยของโครงการดังกล่าว เพราะถือเป็นก้าวแรกของความหวังรักษาผู้ป่วยเอชไอวีให้หายขาดได้ แต่ปัจจุบันยังคงมีปัญหาคือ หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้ยังคงทำงานเชิงรับ คือให้บริการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในหน่วยบริการเพียงอย่างเดียว ซึ่ง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีคนสมัครใจมารับบริการตรวจเอชไอวีเองเพียงประมาณแสนคน

แต่อีกประมาณ 4 แสนคนล้วนมาด้วยอาการที่สัมพันธ์กับ โรคเอดส์ ทำให้ไม่สามารถลดอัตราการตายได้ และสถิติการป่วยของประเทศได้ ทั้งที่ผ่านมาเรามีการเรียกร้องให้จ่ายยาไวขึ้น

"อยากให้รัฐใช้องค์ความรู้นี้ในการรณรงค์และพัฒนาระบบการตรวจหาเชื้อเอชไอวีให้รวดเร็วขึ้น เอื้ออำนวยความสะดวกคนที่มีความเสี่ยงและเดินเข้ามาตรวจได้ง่าย รวดเร็ว เป็นมิตร และปลอดภัย ถ้าทำให้ง่ายจะช่วยลดอัตราติดเชื้อและตายได้ ถ้ายังเปิดให้บริการแบบเดิมรอคนมาตรวจก็จะมีอัตราการตายเหมือนเดิม เป็นการสูญเสียโอกาสของคนที่ติดเชื้อ โดยอาจตั้งเป้าไว้เลยว่าจะตรวจเอชไอวีให้ได้ 20 ล้านคนใน 1 ปี เป็นต้น" นายนิมิตร์กล่าว



 


   
 
 
 
   



__________________
Anonymous

Date:

 

ຄັນວ່າຮູ້ມີຢາແກ້ລະ ເຊີນບັນດາທ່ານຊາຍກະຣຸນາເລຍໄຫ້ຫລາຍຂື້ນເດີ



__________________
Anonymous

Date:

ທ່ານໃດຮູ້ຢາດີ ເສື່ອມສະມັດຕະພາບ ທາງເພດ ຊ່ວຍບອກແດ່

ຂໍຂອບໃຈ ເປັນຢ່າງສູງ ທ່ານເອີຍ.



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

ທ່ານໃດຮູ້ຢາດີ ເສື່ອມສະມັດຕະພາບ ທາງເພດ ຊ່ວຍບອກແດ່

ຂໍຂອບໃຈ ເປັນຢ່າງສູງ ທ່ານເອີຍ.


 Double Maxx

 



__________________
Anonymous

Date:

ก้าวที่สำคัญของแพทย์ไทยและคนทั้งโลกเราจะสามารถเอาชนะโรคนี้ได้



__________________
Anonymous

Date:

this is good research and  progress of Thailands doctor and team

my question is, how many people who get the blood test after having sex 1 week..___?



__________________
Anonymous

Date:

Anonymous wrote:

this is good research and  progress of Thailands doctor and team

my question is, how many people who get the blood test after having sex 1 week..___?


 นี้เป็นก้าวแรกเท่านั้นเราต้องพัฒนาต่อไปอีกในอนาคตจะไม่ใช่แค่ 1อาทิตย์

ปล.สำหรับคนที่รู้ตัวก่อน 1 อาทิตย์ก็สามารถช่วยชีวิตพวกเค้าได้จำนวนไม่น้อยเลย จากที่ใครๆก็คิดว่าการเป็นโรคนี้จะต้องตายเท่านั้น



__________________
Anonymous

Date:

Mmax  can buy in Vientiane

1 box 600 baht.



__________________
Anonymous

Date:

AIDs can be found only after the last risky sex for at least three months, less than that no way.



__________________
Anonymous

Date:

ເລື້ອງດີໆ ການຄົ້ນພົບໃໝ່ໆ ການພັດທະນາ ຈະເກີດຂື້ນ ແຕ່ກັບປະເທດທີ່ ມີອິດສະຫຼະ ດ້ານຂໍ້ມູນຂ່າວສານ

ສື່ມວນຊົນເຮັດໃຫ້ເຂົາໄດ້ເປັນດາວ ຕາມທີ່ເຂົາຄວນຈະໄດ້ເປັນ

ສ່ວນປະເທດທີຄວບຄຸມສື່ ຢ່າງເຄັ່ງຄັດຄືລາວນີ້ ຢ່າໄປຝັນວ່າຊິເຮັດຫຍັງໄດ້

ຈັ່ງໜ້ອຍເຮັດຫຍັງແປກໆ ຈັບເຕະເຂົ້າຄຸກຊ້ຳ

ມີແຕ່ໜ້າທີ່ຊື້ມາໃຊ້ເທົ່ານັ້ນ

ຄັນເຮັດຄືວິດີໂອຢູ່ລຸ່ມນີ້ ລາວຈະບໍ່ໃຫ້ອອກ ໂທລະທັດແນ່ນອນ

 

 



__________________
Page 1 of 1  sorted by
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard