Pasalao

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ບໍ່ຄິດວ່າ USA ກໍ່ມີບັນຫາແນວນີ້ ຫລອກໃຊ້ແລ້ວເຕະຖີ້ມ
Anonymous

Date:
ບໍ່ຄິດວ່າ USA ກໍ່ມີບັນຫາແນວນີ້ ຫລອກໃຊ້ແລ້ວເຕະຖີ້ມ


12 ก.พ. 56  หนึ่งในสมาชิกหน่วยเนวี ซีล ทีมซิกซ์ ที่เรียกตัวเองว่า " เดอะ ชู้ทเตอร์ " เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า เขาเป็นคนที่ยิงสังหารโอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อการร้ายชื่อกระฉ่อน ที่โลกต้องการตัวมากที่สุด เห็นตอนที่สมองของเขากระจายด้วยแรงกระสุน จวบจนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้าย ในเวลาแค่ 2 นาที

                          เดอะ ชู้ทเตอร์ ได้บรรยายเหตุการณ์ประมาณ 15 วินาที ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกว่า เขายิง บิน ลาเดน ที่ศีรษะ 3 นัด ก่อนที่จะปิดปากภรรยาที่ส่งเสียงกรีดร้องของเขา ขณะพยายามดึงเธอไปที่เตียง และเขาก็รู้ด้วยเช่นกันว่า ลูกชายคนเล็กของบิน ลาเดน เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง

                          เดอะ ชู้ทเตอร์ ยังบอกด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ให้ความสนใจเขา และทหารปลดประจำการคนอื่นๆ หลังจบภารกิจ ไม่มีการให้บำเหน็จบำนาญ , สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล หรือการคุ้มครองใดๆ งานของเขานำไปสู่ความล้มเหลวในชีวิตแต่งงาน แต่เขาก็ยังอยู่ร่วมชายคากับภรรยาและลูก 2 คน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เขาต้องสอนลูกให้ซ่อนตัวในอ่างอาบน้ำ สอนให้ภรรยาหัดยิงปืน และพกมีดติดตัว ในกรณีที่อาจถูกล้างแค้น

                          คำให้สัมภาษณ์ของเดอะ ชู้ทเตอร์ มีกำหนดจะเผยแพร่ในนิตยสารเอสไควร์ ฉบับเดือนมีนาคม ซึ่งเขาได้เปิดเผยรายละเอียดของขั้นตอนการเตรียมปฏิบัติภารกิจสำคัญ ช่วงที่เขาเผชิญหน้ากับผู้นำอัล ไกดา และผลร้ายที่ตามมาหลังภารกิจลุล่วง เขาบอกว่า ตอนที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจ สายลับหญิงของสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ ที่ในภาพยนตร์เรื่อง ซีโร่ ดาร์ก เธอร์ตี้ ใช้ชื่อว่า " มายา " และรับบทโดยเจสสิก้า เชสเท่น นั้น ได้บอกกับทีมของเขาว่า มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า บิน ลาเดน อาศัยอยู่บนชั้นที่ 3 ของบ้านในเมืองอับบอตตาบัด ของปากีสถาน

                          เดอะ ชู้ทเตอร์ บอกว่า เมื่อเห็นเป้าหมาย สมาชิกของหน่วยซีลต่างประหลาดใจต่อรูปลักษณ์ของบิน ลาเดน เขาสูงกว่าที่คาด สูงกว่าทุกคนในทีม ผอม เคราสั้น และโกนศีรษะ เขาเอาตัวอามาล ภรรยาบังตัวเองไว้ ซึ่งเดอะ ชู้ทเตอร์ สามารถมองเห็นผ่านกล้องมองกลางคืนได้อย่างชัดเจน และเชื่อว่า บิน ลาเดน ได้ยินเสียงแต่มองไม่เห็น

                          เดอะ ชู้ทเตอร์ บอกด้วยว่า เกรงว่า ภรรยาของบิน ลาเดน อาจพยายามระเบิดตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าเธอสวมเสื้อกั๊กติดระเบิดหรือไม่ เธออาจจำต้องระเบิดตัวเองพร้อมกับสามีก็ได้ บิน ลาเดน มีปืนอยู่ใกล้ตัว เขาเป็นอันตราย ทำให้ต้องตัดสินใจยิงไปที่ศีรษะ เพื่อให้เขาไม่มีโอกาสระเบิดตัวเองด้วย เขาใช้เวลาแค่วินาทีเดียว ในการยิงบิน ลาเดน 2 นัดเข้าที่หน้าผาก ล้มลงที่หน้าเตียง เขายิงซ้ำอีก 1 นัดที่เดิม เขาใช้อุปกรณ์ช่วยเล็ง อีโอเท็ค เร้ดดอท โฮโล ไซจ์ ตรวจสอบ และพบว่า เขาเสียชีวิตแล้ว ไม่เคลื่อนไหว ลิ้นจุกปาก

                          เดอะ ชู้ทเตอร์ บอกว่า เฝ้าดูจนบิน ลาเดน หายใจเฮือกสุดท้าย และคิดว่า สิ่งที่เขาทำ ถ้าไม่ดีที่สุด ก็เลวร้ายที่สุดอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน หน้าผากของบิน ลาเดน แยกออกเป็นรูปตัววี สมองกระจายบนใบหน้า เขายังบรรยายตอนที่ภรรยาของบิน ลาเดน ส่งเสียงกรีดร้องและพุ่งเข้าหาเขา และหลังจากพยายามดึงตัวเธอไปที่เตียง ก็พบว่า ลูกชายคนสุดท้องของบิน ลาเดน ที่อายุประมาณ 2 หรือ 3 ขวบ เห็นเหตุการณ์ที่พ่อถูกยิงตลอด เพราะเขายืนอยู่อีกด้านหนึ่งขอบเตียง เขาร้องไห้ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะตกอยู่ในอาการช็อก เขาอุ้มเด็กชายขึ้นมา และส่งต่อให้แม่ของเด็ก

                          เขาบอกว่า ใช้เวลาปฏิบัติการบนชั้นที่ 3 ประมาณ 15 วินาที แต่จำได้ว่า ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติการ ต้องพกขวดใส่ปัสสาวะติดตัวไปด้วย เขายังพูดถึงชีวิตสมรสที่คว่ำไม่เป็นท่า และพูดถึงรัฐบาลว่า ไม่เหลียวแลอดีตทหารผ่านศึกหลังสิ้นสุดภารกิจ

                          ฟิล บรอนสไตน์ ผู้สื่อข่าวและผู้บริหารของศูนย์รายการข่าวเชิงสืบสวน ใช้เวลานานนับปีอยู่กับเดอะ ชู้ทเตอร์ เพื่อสร้างความเชื่อใจและเพื่อให้เขาบอกเล่าเรื่องด้วยความระมัดระวัง เพื่อตีพิมพ์ในนิตยสาร เอสไควร์ ความยาว 15,000 คำ เดอะ ชู้ทเตอร์ บอกกับบรอนสไตน์ว่า ตอนที่เขาออกจากหน่วยซีลในวันศุกร์ สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลของเขาและครอบครัว ก็สิ้นสุดตามในเที่ยงคืนของวันเดียวกัน เมื่อเขาถามว่า จะมีการโอนย้ายไปที่ระบบอื่นได้หรือไม่ ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า เมื่อเขาปลดประจำการ ทุกอย่างก็สิ้นสุดลงไปด้วย ขอบคุณที่ทำงานมาตลอด 16 ปี

                          เดอะ ชู้ทเตอร์ บอกด้วยว่า ในคืนก่อนปฏิบัติภารกิจ ทุกคนในทีมซิกซ์ ได้เขียนจดหมายถึงบุคคลอันเป็นที่รัก เพราะเชื่อว่า พวกเขาอาจเสียชีวิตในภารกิจ เขาเองเขียนจดหมายถึงลูกๆ และอยากให้พวกเขาได้อ่านเมื่ออายุครบ 35 ปี เขาบอกว่า ร้องไห้ในขณะเขียนเพราะเชื่อว่า ถ้าไม่ตายระหว่างปฏิบัติภารกิจ ก็อาจไปติดคุกในปากีสถาน ซึ่งเชื่อว่าจะถูกย่ำยีไปตลอดชีวิต เขาจะหมดโอกาสได้ร่วมงานวันเกิด วันคริสต์มาสและวันหยุดสำคัญต่างๆ กับลูกๆ

http://www.komchadluek.net/



__________________
Anonymous

Date:
RE: ບໍ່ຄິດວ່າ USA ກໍ່ມີບັນຫາແນວນີ້ ຫລອກໃຊ້ແລ້ວເຕະຖີ້ມ


ຂ້ອຍອ່ານຢູ່ເວັບ policymic.com ເຂົາວ່າທ້າວນີ້ອອກຈາກທະຫານກ່ອນກໍານົດ

ຕາມກົດລາວຕ້ອງໄດ້ເຮັດວຽກ 20 ປີຈຶ່ງອອກກິນບໍານານໄດ້ ແຕ່ລາວເຮັດໄດ້ພຽງ

16 ປີ ລາວກໍ່ອອກ. ສະນັ້ນ ປະກັນສຸກຂະພາບຂອງລາວຕ້ອງໄດ້ຂຶ້ນກັບ SSA.

ສົມມຸດວ່າ ຄົນງານຂອງເຈົ້າອອກງານແລະໄປເຮັດວຽກໃຫ້ຄົນອື່ນ, ເຈົ້າຍັງຈະໃຫ້

ເງິນເດືອນແລະປະກັນສັງຄົມແກ່ຄົນງານຄົນນັ້ນຢູ່ຫວາ?

http://www.policymic.com/articles/25743/seal-team-6-shooter-who-killed-osama-bin-laden-now-uninsured



__________________
Page 1 of 1  sorted by
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard